เอเจนซี่ฯ เผยผลสำรวจตลาดอสังหาฯภูเก็ต พบอัตราการขยายตัวด้านการลงทุนตลาดภูเก็ตเติบโตกว่า 20% จากปี50 คาดมูลค่าลงทุน 1200,000 ล้านบาท ระบุรีสอร์ทหรู คอนโดสไตล์รีสอร์ทยังมาแรงยอดการลงทุนกว่า 80,000 ล้านบาท ขณะบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ 2-3ล้านบาทมีมูลค่าลงทุนกว่า 40,000 ล้านบาท จับตาที่ดินเปล่าริมหาดปรับตัวต่อเนื่อง แจงหาดป่าตองราคาพุ่ง 30-40%
นายโสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส จำกัด หรือ AREA กล่าวในงานสัมมนาในหัวข้อเรื่อง “อสังหาริมทรัพย์ กับ การเปลี่ยนแปลงราคาที่ดินจังหวัดภูเก็ต”ว่า จากการสำรวจตลาดอสังหาฯในพื้นที่ภูเก็ต ทั้งโครงการแนวสูงและแนวราบ เช่น บ้านเดี่ยว รีสอร์ท คอนโดมิเนียมและที่ดินเปล่าบนเกาะเก็ต พบว่าตลาดอสังหาฯในภูเก็ตในช่วงต้นปี51นี้ ตลาดเติบโตต่อเนื่อง ทั้งแนวสูงและแนวราบ โดยตลาดอสังหาฯในภูเก็ตมีมูลค่ารวมไม่ต่ำกว่า 120,000 ล้านบาท เติบโตจากปี 50 ที่มีมูลค่าการลงทุนอยู่ที่ 100,000 ล้านบาทประมาณ 20%
"ประเภทที่อยู่อาศัยที่เป็นรีสอร์ท คอนโดมิเนียมรีสอร์ท นั้นจากข้อมูลสำรวจตั้งแต่ปี 47 มีจำนวนทั้งหมด 101 โครงการ คิดเป็นมูลค่าการลงทุนไม่ต่ำกว่า 80,000 ล้านบาท หรือประมาณ 4,000 หน่วย เฉลี่ยราคาต่อหน่วย 22 ล้านบาท ซึ่งมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องรอบเกาะภูเก็ตที่สามารถมองเห็นวิวทะเลได้อย่างสวยงาม โดยที่ผ่านมานักลงทุนส่วนใหญ่จะเป็นนักลงทุนจากนักลงส่วนกลางและนักลงทุนต่างชาติ ส่วนกลุ่มลูกค้าโดยมากจะเป็นชาวต่างชาติ มีลูกค้าที่เป็นคนไทยมีเพียงเล็กน้อย" นายโสภณกล่าว
ส่วนตลาด ทาวน์เฮ้าส์ บ้านแฝด บ้านเดี่ยวและคอนโดมิเนียม มีมูลค่าการลงทุนประมาณ 40,000 ล้านบาท สินค้าที่ได้รับการต้องรับที่ดีจะมีราคาเฉลี่ยที่ 2-3 ล้านบาท ในขณะตลาดคอนโดมิเนียมที่ได้รับความนิยมมากจะมีราคา2 ล้านบาท เนื่องจากกลุ่มลูกค้าของอสังหาฯกลุ่มนี้จะเป็นคนท้องถิ่นภูเก็ต คนจากต่างจังหวัดที่ย้ายเข้ามาทำงานในภูเก็ต และตลาดกลุ่มนี้ยังมีความต้องการอีกมาก เห็นได้จากโครงการบ้านจัดสรรที่เกิดขึ้นจำนวนมากแต่สามารถที่จะขายออกได้เกือบทั้งหมด เช่นเดียวกับปีที่ผ่านมาราคา2ล้านเกิดขึ้นประมาณ 3,000 ยูนิต และสามารถขายออกไปได้2,600 ยูนิต
นายโสภณ กล่าวว่า จากการสำรวจตลาดในต้นปีพบว่าราคาที่ดินดิบมีการขยับตัวเพิ่มสูง 30 - 40% โดยที่ดินฝั่งตะวันตกเป็นโซนที่ราคาปรับขึ้นสูงสุด โดยเฉพาะที่ดินที่ติดริมทะเล อาทิ หาดป่าตองที่ราคาขยับสูงขึ้นกว่ากว่า30-40% โดยในปี50ที่ผ่านมาราคาขายต่อไร่ อยู่ที่50 ล้านบาท ส่วนในปีนี้ขยับขึ้นมาเป็น 70-80 ล้านบาทต่อไร่ ส่วนฝั่งตะวันออกนั้นราคาไม่ขยับมากนัก เนื่องจากความสวยงามของทะเลมีน้อย
สำหรับแนวโน้มตลาดอสังหาฯ ในภูเก็ตเชื่อว่ายังมีความต้องการอย่างต่อเนื่องทั้งในส่วนนักลงทุนไทยและต่างชาติ แม้ว่าจะมีปัจจัยลบด้านการเมือง เศรษฐกิจที่ยังชะลอตัวขณะนี้ แต่ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจอสังหาฯของภูเก็ตมากนัก ทำให้นักลงทุนมั่นใจในการเข้ามาลงทุนที่ภูเก็ต
นายสมิทธิ์ ปาลวัฒน์วิไชย รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า สิ่งที่ผู้ประกอบการจะต้องระมัดระวังในการเข้ามาพัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ต คือ เรื่องของกรรมสิทธิ์ในที่ดิน ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อจะต้องมีการตรวจสอบให้ดีว่าที่ดินนั้นเป็นที่ดินที่ออกเอกสารสิทธิถูกต้องหรือไม่ อยู่บนที่สูงเกินกว่า 80 เมตรหรือไม่ เพราะเท่าที่มีการตรวจสอบพบว่ามีที่ดินจำนวนมากในภูเก็ตที่ออกเอกสารสิทธิไม่ถูกต้อง ซึ่งเรื่องนี้นักลงทุนจะต้องตรวจสอบเอกสารสิทธิที่ดินก่อนเข้ามาลงทุน
นายโสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส จำกัด หรือ AREA กล่าวในงานสัมมนาในหัวข้อเรื่อง “อสังหาริมทรัพย์ กับ การเปลี่ยนแปลงราคาที่ดินจังหวัดภูเก็ต”ว่า จากการสำรวจตลาดอสังหาฯในพื้นที่ภูเก็ต ทั้งโครงการแนวสูงและแนวราบ เช่น บ้านเดี่ยว รีสอร์ท คอนโดมิเนียมและที่ดินเปล่าบนเกาะเก็ต พบว่าตลาดอสังหาฯในภูเก็ตในช่วงต้นปี51นี้ ตลาดเติบโตต่อเนื่อง ทั้งแนวสูงและแนวราบ โดยตลาดอสังหาฯในภูเก็ตมีมูลค่ารวมไม่ต่ำกว่า 120,000 ล้านบาท เติบโตจากปี 50 ที่มีมูลค่าการลงทุนอยู่ที่ 100,000 ล้านบาทประมาณ 20%
"ประเภทที่อยู่อาศัยที่เป็นรีสอร์ท คอนโดมิเนียมรีสอร์ท นั้นจากข้อมูลสำรวจตั้งแต่ปี 47 มีจำนวนทั้งหมด 101 โครงการ คิดเป็นมูลค่าการลงทุนไม่ต่ำกว่า 80,000 ล้านบาท หรือประมาณ 4,000 หน่วย เฉลี่ยราคาต่อหน่วย 22 ล้านบาท ซึ่งมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องรอบเกาะภูเก็ตที่สามารถมองเห็นวิวทะเลได้อย่างสวยงาม โดยที่ผ่านมานักลงทุนส่วนใหญ่จะเป็นนักลงทุนจากนักลงส่วนกลางและนักลงทุนต่างชาติ ส่วนกลุ่มลูกค้าโดยมากจะเป็นชาวต่างชาติ มีลูกค้าที่เป็นคนไทยมีเพียงเล็กน้อย" นายโสภณกล่าว
ส่วนตลาด ทาวน์เฮ้าส์ บ้านแฝด บ้านเดี่ยวและคอนโดมิเนียม มีมูลค่าการลงทุนประมาณ 40,000 ล้านบาท สินค้าที่ได้รับการต้องรับที่ดีจะมีราคาเฉลี่ยที่ 2-3 ล้านบาท ในขณะตลาดคอนโดมิเนียมที่ได้รับความนิยมมากจะมีราคา2 ล้านบาท เนื่องจากกลุ่มลูกค้าของอสังหาฯกลุ่มนี้จะเป็นคนท้องถิ่นภูเก็ต คนจากต่างจังหวัดที่ย้ายเข้ามาทำงานในภูเก็ต และตลาดกลุ่มนี้ยังมีความต้องการอีกมาก เห็นได้จากโครงการบ้านจัดสรรที่เกิดขึ้นจำนวนมากแต่สามารถที่จะขายออกได้เกือบทั้งหมด เช่นเดียวกับปีที่ผ่านมาราคา2ล้านเกิดขึ้นประมาณ 3,000 ยูนิต และสามารถขายออกไปได้2,600 ยูนิต
นายโสภณ กล่าวว่า จากการสำรวจตลาดในต้นปีพบว่าราคาที่ดินดิบมีการขยับตัวเพิ่มสูง 30 - 40% โดยที่ดินฝั่งตะวันตกเป็นโซนที่ราคาปรับขึ้นสูงสุด โดยเฉพาะที่ดินที่ติดริมทะเล อาทิ หาดป่าตองที่ราคาขยับสูงขึ้นกว่ากว่า30-40% โดยในปี50ที่ผ่านมาราคาขายต่อไร่ อยู่ที่50 ล้านบาท ส่วนในปีนี้ขยับขึ้นมาเป็น 70-80 ล้านบาทต่อไร่ ส่วนฝั่งตะวันออกนั้นราคาไม่ขยับมากนัก เนื่องจากความสวยงามของทะเลมีน้อย
สำหรับแนวโน้มตลาดอสังหาฯ ในภูเก็ตเชื่อว่ายังมีความต้องการอย่างต่อเนื่องทั้งในส่วนนักลงทุนไทยและต่างชาติ แม้ว่าจะมีปัจจัยลบด้านการเมือง เศรษฐกิจที่ยังชะลอตัวขณะนี้ แต่ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจอสังหาฯของภูเก็ตมากนัก ทำให้นักลงทุนมั่นใจในการเข้ามาลงทุนที่ภูเก็ต
นายสมิทธิ์ ปาลวัฒน์วิไชย รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า สิ่งที่ผู้ประกอบการจะต้องระมัดระวังในการเข้ามาพัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ต คือ เรื่องของกรรมสิทธิ์ในที่ดิน ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อจะต้องมีการตรวจสอบให้ดีว่าที่ดินนั้นเป็นที่ดินที่ออกเอกสารสิทธิถูกต้องหรือไม่ อยู่บนที่สูงเกินกว่า 80 เมตรหรือไม่ เพราะเท่าที่มีการตรวจสอบพบว่ามีที่ดินจำนวนมากในภูเก็ตที่ออกเอกสารสิทธิไม่ถูกต้อง ซึ่งเรื่องนี้นักลงทุนจะต้องตรวจสอบเอกสารสิทธิที่ดินก่อนเข้ามาลงทุน