SCC เทงบ 3 พันล้านบาท ลงทุนผลิตโพรไพลีนออกไซด์กับ Dow ผ่านบริษัทร่วมทุน SSMC ถือหุ้นฝ่ายละ 50% คาดเริ่มผลิตได้ครึ่งแรกปี 54 ขณะที่ เอสซี จีเปเปอร์ เตรียมทำคำเสนอซื้อหุ้น TCP ที่ราคาหุ้นละ 16 บาท หลังผู้ถือหุ้นอนุมัติการเพิกถอนจากการเป็นบริษัทจดทะเบียน
นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ บริษัทปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) ( SCC) แจ้งว่าบริษัทเอ็มทีพี เอชพีพีโอแมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทสยามสไตรีนโมโนเมอร์ จำกัด (หรือ SSMC) ได้ลงนามใน Technology License Agreement กับ The Dow Chemical Company (Dow)ประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อรับอนุญาตให้ใช้สิทธิต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในโครงการสร้างโรงงานผลิตโพรไพลีนออกไซด์
สำหรับเงินลงทุนในโครงการดังกล่าวจะนำมาจากเงินสดประมาณ 3,000 ล้านบาท ของ SSMC ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุน (Joint Venture) ของ SCC กับ Dow ในสัดส่วนการลงทุนร้อยละ 50 เท่ากัน โดยโรงงานโพรไพลีนออกไซด์นี้จะมีกำลังการผลิต (nameplate) 390,000 ตันต่อปี และคาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินการผลิตได้ในครึ่งแรกของปี 2554 ซึ่งโพรไพลีนออกไซด์เป็นวัตถุดิบในการผลิตผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่ม คือ โพลีออล และโพลิยูรีเทน เพื่อใช้ผลิตผลิตภัณฑ์ต่อเนื่องในอุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมการก่อสร้าง เครื่องเรือน และเครื่องใช้ในบ้าน อุปกรณ์กีฬา และอื่นๆ
ทั้งนี้ จะนำวัตถุดิบในการผลิตโพรไพลีนออกไซด์ คือ โพรไพลีนจากบริษัทมาบตาพุดโอเลฟินส์ จำกัด (Naphtha Cracker แห่งที่ 2) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุน ระหว่าง SCC กับ Dow ในสัดส่วนการลงทุนร้อยละ 67 และร้อยละ 33 ตามลำดับ และ ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์จากบริษัทร่วมทุนระหว่าง Dow กับ Solvay
นอกจากนี้ SCC แจ้งว่าตามที่ บริษัท เอสซีจี เปเปอร์ จำกัด (มหาชน) (หรือ เอสซี จีเปเปอร์ ) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทถือหุ้นร้อยละ 98.38 ได้มีหนังสือถึงบริษัทไทยเคนเปเปอร์ จำกัด (มหาชน) (TCP) ลงวันที่ 30 เมษายน 2551 เพื่อขอให้ TCP พิจารณาเสนอที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นของ TCP เพื่ออนุมัติการเพิกถอนหุ้นของ TCP ออกจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ และหากที่ประชุมผู้ถือหุ้นของ TCP มีมติอนุมัติการเพิกถอนหุ้นออกจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน และตลาดหลักทรัพย์ฯ เห็นชอบการเพิกถอนดังกล่าวแล้ว เอสซีจีเปเปอร์ จะทำคำเสนอซื้อหุ้นบริษัทเป็นการทั่วไป เพื่อการเพิกถอนหุ้นของ TCP ออกจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในราคาหุ้นละ 16 บาท ตามหลักเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ และสำนักงาน ก.ล.ต. ต่อไป
โดยที่ประชุมผู้ถือหุ้นของ TCP เมื่อ 9 มิถุนายน 51 พบว่าไม่มีผู้ถือหุ้นคัดค้านการเพิกถอนเกินกว่า 10 % ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด ซึ่งมีผู้ถือหุ้นที่เห็นด้วย 311,291,036 เสียง คิดเป็น 86.8912 % ไม่เห็นด้วย 33,564,406 เสียงคิดเป็น9.3689 % และงดออกเสียง 15,634 เสียง คิดเป็น 0.0044 %
นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ บริษัทปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) ( SCC) แจ้งว่าบริษัทเอ็มทีพี เอชพีพีโอแมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทสยามสไตรีนโมโนเมอร์ จำกัด (หรือ SSMC) ได้ลงนามใน Technology License Agreement กับ The Dow Chemical Company (Dow)ประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อรับอนุญาตให้ใช้สิทธิต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในโครงการสร้างโรงงานผลิตโพรไพลีนออกไซด์
สำหรับเงินลงทุนในโครงการดังกล่าวจะนำมาจากเงินสดประมาณ 3,000 ล้านบาท ของ SSMC ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุน (Joint Venture) ของ SCC กับ Dow ในสัดส่วนการลงทุนร้อยละ 50 เท่ากัน โดยโรงงานโพรไพลีนออกไซด์นี้จะมีกำลังการผลิต (nameplate) 390,000 ตันต่อปี และคาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินการผลิตได้ในครึ่งแรกของปี 2554 ซึ่งโพรไพลีนออกไซด์เป็นวัตถุดิบในการผลิตผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่ม คือ โพลีออล และโพลิยูรีเทน เพื่อใช้ผลิตผลิตภัณฑ์ต่อเนื่องในอุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมการก่อสร้าง เครื่องเรือน และเครื่องใช้ในบ้าน อุปกรณ์กีฬา และอื่นๆ
ทั้งนี้ จะนำวัตถุดิบในการผลิตโพรไพลีนออกไซด์ คือ โพรไพลีนจากบริษัทมาบตาพุดโอเลฟินส์ จำกัด (Naphtha Cracker แห่งที่ 2) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุน ระหว่าง SCC กับ Dow ในสัดส่วนการลงทุนร้อยละ 67 และร้อยละ 33 ตามลำดับ และ ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์จากบริษัทร่วมทุนระหว่าง Dow กับ Solvay
นอกจากนี้ SCC แจ้งว่าตามที่ บริษัท เอสซีจี เปเปอร์ จำกัด (มหาชน) (หรือ เอสซี จีเปเปอร์ ) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทถือหุ้นร้อยละ 98.38 ได้มีหนังสือถึงบริษัทไทยเคนเปเปอร์ จำกัด (มหาชน) (TCP) ลงวันที่ 30 เมษายน 2551 เพื่อขอให้ TCP พิจารณาเสนอที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นของ TCP เพื่ออนุมัติการเพิกถอนหุ้นของ TCP ออกจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ และหากที่ประชุมผู้ถือหุ้นของ TCP มีมติอนุมัติการเพิกถอนหุ้นออกจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน และตลาดหลักทรัพย์ฯ เห็นชอบการเพิกถอนดังกล่าวแล้ว เอสซีจีเปเปอร์ จะทำคำเสนอซื้อหุ้นบริษัทเป็นการทั่วไป เพื่อการเพิกถอนหุ้นของ TCP ออกจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในราคาหุ้นละ 16 บาท ตามหลักเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ และสำนักงาน ก.ล.ต. ต่อไป
โดยที่ประชุมผู้ถือหุ้นของ TCP เมื่อ 9 มิถุนายน 51 พบว่าไม่มีผู้ถือหุ้นคัดค้านการเพิกถอนเกินกว่า 10 % ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด ซึ่งมีผู้ถือหุ้นที่เห็นด้วย 311,291,036 เสียง คิดเป็น 86.8912 % ไม่เห็นด้วย 33,564,406 เสียงคิดเป็น9.3689 % และงดออกเสียง 15,634 เสียง คิดเป็น 0.0044 %