xs
xsm
sm
md
lg

HEMRAJเล็งออกบอนด์2.-3พันล. ลุยสร้างโรงไฟฟ้าและพัฒนาที่ดิน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

HEMRAJ คาดออก Bond 2-3 พันล้าน อายุ 3-5 ปี ได้ไม่เกิน ส.ค. ตั้งงบลงทุนปีนี้ 4.3 พันล้าน ใช้ลงทุนโรงไฟฟ้าและพัฒนาที่ดินเป็นหลัก พร้อมปรับเป้ายอดขายที่ดินจาก 1.3 พันไร่ เป็น 1.5 พันไร่ หลังไตรมาสแรกขายได้แล้ว 636 ไร่ แต่ยังคงเป้ารายได้ที่ 10% จากการพัฒนาที่ดิน ด้านคอนโดกำลังมองหาทำเลเปิดอีก 1 แห่ง พร้อมเร่งโอน The Park ให้หมดสิ้นปี ยอมรับต้นทุนสูงขึ้นทำให้ต้องปรับราคาขายที่ดินและราคาขายน้ำ

นายเผ่าพิทยา สมุทรกลิน ผู้อำนวยการ - นักลงทุนสัมพันธ์และวางแผน บริษัท เหมราชพัฒนาที่ดิน จำกัด (มหาชน) หรือ HEMRAJ เปิดเผยว่าปีนี้บริษัทวางแผนจะพัฒนานิคมอุตสาหกรรมเหมราชอีสเทรนซีบอร์ดเฟสแรก 2,000 ไร่ และเฟสสอง 800 ไร่ รวมถึงมองหาทำเลในการก่อสร้างคอนโคมิเนียมอีก 1 แห่ง และขยายธุรกิจน้ำและไฟฟ้า พร้อมกับมีแผนออก Bond มูลค่า 2-3 พันล้าน ระยะเวลา 3-5 ปี ซึ่งคาดว่าไม่เกินเดือนสิงหาคม เพื่อนำเงินที่ได้ไปขยายธุรกิจ สำหรับงบลงทุนในปีนี้ตั้งไว้ที่ 4-4.3 พันล้านบาท โดยใช้ลงทุนโรงไฟฟ้า 2 พันล้านบาท ลงทุนทำโรงงานสำเร็จรูป 500 ล้าน และที่เหลือเป็นงบพัมนาที่ดิน

โดยบริษัทเพิ่มเป้าหมายยอดขายที่ดินอุตสาหกรรมในปีนี้จาก 1,300 ไร่ เป็น 1,500 ไร่ เนื่องจากในไตรมาส 1/51 ที่ผ่านมา บริษัทมียอดขายที่ดินแล้ว 636 ไร่ ซึ่งเกือบครึ่งของเป้ายอดขายเดิมที่ตั้งไว้ ประกอบกับอุตสาหกรรมยานยนต์ และปิโตรเคมีมีแนวโน้มเติบโตดี

ขณะที่รายได้รวมยังคงเป้าหมายเดิมที่เติบโต 10% จาก 5,238.2 ล้านบาทในปีก่อน เนื่องจากการรับรู้รายได้จากงานที่ได้มาขึ้นอยู่ที่การพัฒนาที่ดินว่าจะสามารถส่งมอบทันภายในปีนี้หรือไม่ หากไม่ทันก็จะยังอยู่ใน Back log ต่อไป โดยสิ้นไตรมาส 1/51 บริษัทมี Back log 1,500 ล้านบาท และพยายามรักษา Gross Profit Margin ให้ใกล้เคียงกับไตรมาส 1/51 ที่ 42% สำหรับธุรกิจระบบสาธารณูปโภคในนิคมอุตสาหกรรมตั้งเป้ารายได้ที่ 765 ล้านบาท เติบโต 15-20% ส่วนธุรกิจโรงงานสำเร็จรูปให้เช่าตั้งเป้าที่ 125,000 ตารางเมตร เติบโต 30%

สำหรับโครงการคอนโดมิเนียม The Park บริษัทวางแผนว่าจะโอนในส่วนที่ขายแล้ว 83% ให้หมดในปีนี้ ซึ่งปัจจุบันโครงการอยู่ระหว่างหยุดขาย เพราะบริษัทต้องการโอนให้กับลูกค้าที่ซื้อไปแล้วก่อน โดยจะเปิดขายอีกครั้งช่วงไตรมาส 3/51 ประมาณ 17% หรือ 37 ยูนิต ขณะเดียวกันอาจมีการปรับราคาขายขึ้นในอนาคตตามต้นทุนที่เพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ สัดส่วนรายได้ในปีนี้จะมาจากนิคมอุตสาหกรรม 50% โครงการคอนโดมิเนียม The Park 25% และรายได้อื่นๆ 25% โดยบริษัทตั้งเป้าว่าปี 52-56 บริษัทจะมีสัดส่วนรายได้จากการขายที่ดินในนิคมอุตสาหกรรม 33% ระบบสาธารณูปโภคในนิคมอุตสาหกรรม 17% สาธารณูปโภคอื่นๆ เช่น โรงไฟฟ้า 15% การให้เช่าโรงงานสำเร็จรูปและขาย 15% และอสังหาริมทรัพย์ 20%

นอกจากนี้ จากต้นทุนที่สูงขึ้น บริษัทได้ทำการปรับราคาขายที่ดินขึ้น 1 แสนบาทต่อไร่ ในเดือนที่ผ่านมา ยกเว้นที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด โดยมีราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 2 ล้านบาทต่อไร่ ซึ่งจะแตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ พร้อมปรับราคาขายน้ำในนิคมอุตสาหกรรมขึ้น 3% ตามต้นทุนน้ำดิบที่สูงขึ้น ซึ่งบริษัทได้ทำหนังสือแจ้งกับลูกค้าก่อนแล้ว โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่กรกฎาคม นี้ โดยราคาเฉลี่ยประมาณ 12 บาทต่อลูกบาศก์เมตร
กำลังโหลดความคิดเห็น