xs
xsm
sm
md
lg

รัฐบาลหรือกลุ่มพันธมิตรฯ ใครสร้างวิกฤตเศรษฐกิจไทย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สุนันท์ ศรีจันทรา
ปัจจุบันนี้ถึงแม้ไม่มีกลุ่มพันธมิตรประชาธิปไตย เศรษฐกิจมันก็วิกฤตอยู่แล้ว ต่อให้รัฐบาลทำไปเลย โดยไม่ต้องมีใครไปวิพากษ์วิจารณ์อะไรด้วย รัฐบาลก็ไปไม่รอด เพราะรัฐบาลไม่มีความรู้ในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจแล้ว ยังไม่มีความตั้งใจ หรือใส่ใจในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ”

เมื่อวันที่ 3 มิ.ย. ที่เวทีสะพานมัฆวาน ในช่วงเสวนาเศรษฐกิจมีการเชิญนักวิชาการ และผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจมาให้ความรู้ คือ นายชวินทร์ ลีนะบรรจง อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นายปรีดา เตียสุวรรณ นักธุรกิจ และ นายสุนันท์ ศรีจันทรา สื่อมวลชนเศรษฐกิจ ดำเนินรายการโดย นายสำราญ รอดเพชร ในหัวข้อจริงหรือที่เศรษฐกิจประเทศไทยจะพินาศเพราะการชุนนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยฯ โดยสามารถสรุปใจความสำคัญของการเสวนาได้ดังนี้

**เศรษฐกิจไทยเกิดวิกฤตแล้วหรือ**

นายสุนันท์ กล่าวว่า ต้องถามตัวเองว่าเราได้ผลกระทบ จากวิกฤตเศรษฐกิจครั้งนี้หรือเปล่า แต่ในความจริงเชื่อว่าทุกคนอาจได้รับแล้ว หรือมีบ้าง อย่างไรก็ตามต้องชมรัฐบาลนี้ว่าเก่ง เพราะความจริงแล้ว ประเทศไทยมีโอกาสมากมาย โดยเฉพาะการเปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาส แต่รัฐบาลนี้สามารถเปลี่ยนโอกาสเป็นวิกฤตได้ เริ่มตั้งแต่เรื่องข้าว เพราะราคาขายข้าวทุกตลาดทั่วโลกมีการปรับตัวสูงขึ้น โดยในช่วงราคาข้าวที่แพง ข้าวไทยก็เป็นที่ต้องการของตลาด แต่ทำไมชาวนาไทย ซึ่งเป็นประเทศผู้ผลิตรายใหญ่กลับขายไม่ได้ ต้องออกมาชุมนุมเหมือนพวกเรา และก็ยังแก้ปัญหาไม่จบ ทำให้ประชาชนซื้อข้าวในราคาที่แพงขึ้น ทั้งที่ไทยเป็นประเทศผู้ผลิต...น่าแปลก แต่พ่อค้าไปขายได้ในราคาแพง

**“ปัจจุบันนี้ถึงแม้ไม่มีกลุ่มพันธมิตรประชาธิปไตย เศรษฐกิจมันก็วิกฤตอยู่แล้ว ต่อให้รัฐบาลทำไปเลย โดยไม่ต้องมีใครไปวิพากษ์วิจารณ์อะไรด้วย รัฐบาลก็ไปไม่รอด เพราะรัฐบาลไม่มีความรู้ในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจแล้ว ยังไม่มีความตั้งใจ หรือใส่ใจในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ”**

ตอนแรกส่วนตัวประเมินว่าตัวเลขเงินเฟ้อเดือน พ.ค.จะอยู่ที่ 7 % แต่พอรัฐบาลประกาศออกมาอยู่ที่ 7.6% แสดงว่าสถานการณ์มันเลวร้ายมากกว่า หรือกล่าวได้ว่ารัฐบาลชุดนี้ทำให้ค่าเงิน 100 บาทด้อยค่าลงเหลือ เพียง 92.40 บาท ไม่ได้เกิดจาการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรแต่อย่างใด

ด้านนายปรีดา กล่าวว่า ปฏิเสธไม่ได้ว่าตอนนี้ประเทศไทยอยู่ในช่วงภาวะวิกฤตเศรษฐกิจและเหนือความสามารถในการควบคุมของเรา อันเนื่องมาจากราคาสินค้าทางการเกษตรสูงขึ้นทั่วโลก โดยเพิ่มขึ้นจากน้ำมันที่แพงขึ้น ไม่ได้มาจากที่เรา แต่ประเด็นที่สำคัญก็คือในช่วง 3 –4 เดือนที่ผ่านมารัฐบาลไม่เคยสนใจที่จะแก้ปัญหานี้เลย แต่กลับมาให้ความสำคัญในการแก้ร่างรัฐธรรมนูญ อีกทั้งโลกของเรากำลังเข้าสู่ยุคที่ราคาวัตถุดิบต่างๆแพงขึ้น เงินในกระเป๋าจะมีค่าน้อยลงไป และเราจะได้รับผลกระทบนี้อีกมาก

**ดังนั้นเราต้องการรัฐบาลที่มีความสามารถ ฉลาดเฉลียว และมีความสามัคคีที่จะทำงานกันเป็นทีม เพื่อมาแก้ปัญหานี้ แต่ที่เราได้คือ รับบาลที่เป็นตัวแทน ที่เข้ามาเพียงแก้ปัญหาของตัวเองที่ทำไว้ในอดีต โดยไม่สนใจแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นกับเรา ดังนั้นผมคิดว่ารัฐบาลนี่แหละที่เป็นปัญหาสำคัญกว่าปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจ**

เช่นเดียวกัน นายชวินทร์ ให้ความเห็นเพียงสั้นว่า ดูง่ายๆว่าเศรษฐกิจประเทศไทยวิกฤตหรือไม่ ให้ดูที่คนทำงาน ตอนนี้ข้าวของแพงขึ้น **เงินเฟ้อพ.ค.ที่7.6% สูงสุดในรอบสิบปีที่ผ่านมา ปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นจากราคาน้ำมัน แต่สรุปแล้วรัฐบาลนี้เป็นผู้ซ้ำเติมวิกฤตนั่นเอง**

**รัฐบาลซ้ำเติมวิกฤตศก.จริงหรือ**

นายสุนันท์ กล่าวให้ความเห็นว่า ดูจากเจตนาง่ายๆก็รู้ ว่าวัตถุประสงค์ของรัฐบาลชุดนี้ไม่ได้มาเพื่อแก้ปัญหาของประชาชนส่วนใหญ่ แต่มาตามใบสั่ง มาเพื่อตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี รวมถึงช่วยทักษิณ ชินวัตร ดังนั้นการปัญหาของภาคประชาชนทั้งเศรษฐกิจ และสังคม รวมทั้งการเมือง จึงไม่มีความจริงใจจากรัฐบาลชุดนี้ตั้งแต่แรก ยิ่งไม่มีความตั้งใจจริงความสามารถก็ด้อยลง ซึ่งมาผสมกับเศรษฐกิจที่ทั่วโลกได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันทั่วโลก เว้นประเทศที่ผลิตน้ำมันยิ่งทำให้วิกฤตดังกล่าวหนักขึ้น

อย่างไรก็ตาม ภูมิคุ้มกันมาตรการตั้งรับของแต่ละประเทศนั้นแตกต่างกัน และไทยก็เป็นหนึ่งประเทศที่มีภูมิกันต่ำมาก และความสามารถในการปัญหาเศรษฐกิจก็มีน้อย เพราะรัฐบาลมัวแต่ให้ความสำคัญกับการแก้ปัญญาของทักษิณมากกว่า อีกทั้งมีการกวาดล้างตัดตอน ข้าราชการที่ทำงานเพื่อความต้องถูกต้อง และรัฐบาลชุดนี้ไม่มีความละลายในการทำเรื่องที่ผิดๆ ไม่มีความเกรงใจประชาชน ไม่เกรงใจคนที่รู้ทัน เพราะคิดว่าคนเหล่านี้ทำอะไรเขาไม่ได้

ปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจถูกโยนความผิดให้รัฐบาลชุดก่อน แต่แม้โยนความผิดไป รัฐบาลชุดใหม่ทำอะไรในการแก้ไขวิกฤตเศรษฐกิจบ้าง คุณเคยเห็นรัฐบาลชุดนี้เรียกประชุมด่วนเพื่อแก้วิกฤตเศรษฐกิจบ้าง ทีประชุมด่วนแก้ปัญหารัฐธรรมนูญ กลับมีเรียก อยากถามนายกฯสมัครว่าปัญหาเรื่องปากท้องไม่จำเป็นหรือ แต่คนทั้งประเทศจะตายกันแล้ว

**สถานการณ์ดอกเบี้ยเงินฝาก**

นายสุนันท์ กล่าวว่า ตอนนี้อัตราดอกเบี้ยฝากดอกเบี้ยอยู่ที่ประมาณ 2.75% ต่อปี แต่เวลาไปกู้ดอกเบี้ยจะอยู่ที่ 7.25% ซึ่งมีส่วนต่างประมาณ 4.5% เรื่องนี้แสดงว่ารัฐเอาเงินฝากไปกดผลตอบแทนเราไว้ ทั้งนี้ทำให้ไทยติดอันดับ 2 ของโลกในเรื่องของการขูดรีด ค้ากำไรเกินควร รัฐบาลไม่เข้ามาดูแลในเรื่องนี้เลย

สำหรับเรื่องดอกเบี้ยที่มีช่องว่างที่มากเกินไปเกิดจากไม่มีรัฐบาลเข้ามาดูแลบริหารจัดการ ดอกเบี้ยควรจะห่างกันสักประมาณ 3% ดังนั้นคนที่ฝากเงินควรจะได้ดอกเบี้ยสักเท่าไหร่ ในเมื่อดอกเบี้ยเงินกู้อยู่ที่ 7.25% แต่ตอนนี้ได้เพียง 2.75% ต่อปีเท่านั้น ทำให้ประชาชนต้องไปซื้อพันธบัตร และหุ้นกู้ที่มีความเสี่ยงเพื่อรับผลตอบแทนที่สูงกว่า แต่รัฐบาลไม่เห็นมาสนใจเรื่องนี้เลย เราถูกเอาเปรียบถ้ารัฐบาลบริหารได้ดี เราจะได้ผลตอบแทนมากกว่านี้ ทำให้คาดว่าปีนี้ถ้ารัฐบาลชุดนี้อยู่จะมีเอ็นพีแอล (หนี้เน่า)เป็นล้านๆราย บัตรเครดิตจะมีหนี้สูญอีกเพียบ จะมีคนล้มละลายเป็นล้านๆคน

**หนี้จะเพิ่มขึ้นหากรัฐบาลยังอยู่**

นายปรีดา กล่าวว่ารัฐบาลชุดนี้เข้ามารีบตักตวงสิ่งต่างๆ ดังนั้นการสร้างหนี้ต่างๆสุดท้ายจะตกมาที่ประชาชน มาตรการที่จะสร้างรายได้ให้ประชาชนให้ประเทศ ยังไม่เห็นอะไรที่เป็นตัวเป็นตนเลย โครงการทุกอย่างเหมือนทำไปวันๆเท่านั้น ทุกอย่างไม่มีความจริงใจ และจะกลับมาถึงประชาชน อย่างเช่นนโยบายข้าว ที่จะไปรวมตัวกับประเทศอื่นเพื่อบีบราคาข้าวสูงขึ้น และคนต่างชาติจะมองประเทศไทยอย่างไร โดยเฉพาะประเทศที่เปิดการซื้อขายเสรีกับไทย เวลาซื้อขายข้าวแพง เขาจะทำอย่างไร นอกจากสร้างหนี้แก่เราแล้ว ยังสร้างความเสื่อมเสียต่อสังคมไทยในสายตาชาวโลก

ส่วนนายชวินทร์ กล่าวว่า สิ่งที่อยากให้ทราบ คุณลองนึกดูว่าอะไรเป็นปัญหาเศรษฐกิจของไทยในอนาคตอันใกล้ นั่นก็คือปัญหาเงินเฟ้อซึ่งเป็นปัญหาระยะสั้น – ปานกลาง ดูจากดัชนีราคาอาหารเดือนเมษายนเพิ่มสูงขึ้นจากเดือนก่อน 4% แต่ปลายปีนี้ราคาข้าวจะถูกลงมามีอีก ซึ่งโอกาสเยอะ เพราะประเทศคู่แข่งขันจะเริ่มส่งออกเพิ่มขึ้น เกษตรกรไทยแห่ปลูกข้าว แต่ราคาน้ำมันซึ่งเป็นต้นทุนยังแพงอยู่ และทำให้เราขาดดุลการค้า

**วิธีแก้ปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจ**

นายชวินทร์ กล่าวว่า วิธีนี้ง่ายนิดเดียว คือให้ใครอยากประชุมก็ประชุมไป แต่รัฐบาลจะต้องเดินหน้าแก้เศรษฐกิจ ไม่ต้องสนใจกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

ด้านนายปรีดา กล่าวว่า นายกฯสมัคร ควรทำอย่างนี้และควรส่งคนมาให้บริการดูแลคนที่มาออกความเห็น โดยดูแลจัดที่จัดทางให้เขา เพราะจะได้ไม่เกิดปัญหาการจราจร รถจะได้ไม่ติด เหมือนที่รัฐบาลอังกฤษทำ ถ้าทำได้ต่างชาติจะเห็นทัศนคิตของท่านสมัครว่าเป็นประชาธิปไตย และเชื่อว่าถ้าทำได้หุ้นก็จะปรับตัวขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น