ผู้บริหาร RICH มั่นใจปีนี้รายได้ทะลุ 1 หมื่นล้านบาท หลังไตรมาสแรกประกอบการเจ๋งเหตุได้รับอานิสงส์ราคาเหล็กปรับตัวสูงขึ้น และปริมาณความต้องการก็สูง หลังบริษัทขยายฐานลูกค้าเพิ่ม ประกอลบกับที่ขยายกำลังการผลิตเพิ่มอีก 90,000 ตันต่อปี หลังโรงงานแห่งใหม่ติดตั้งเครื่องจักรแปรรูปและเริ่มเดินเครื่องผลิตเชิงพาณิชย์
นายสมเกียรติ วงศาโรจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ริช เอเชีย สตีล จำกัด (มหาชน)(RICH) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในปีนี้ว่าหลังจากประกาศผลประกอบการในไตรมาสแรกปีนี้ออกมา ทำให้มีความมั่นใจยิ่งขึ้นว่าจะมีรายได้ตามเป้าหมาย 1 หมื่นล้านบาทตามที่ตั้งเป้าไว้
โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากทั้งราคาเหล็กที่ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องและปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้น อันเนื่องมาจาก RICH มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอีก 90,000 ตันต่อปี จากปัจจุบันบริษัทมีกำลังการผลิตติดตั้งรวมเท่ากับ 125,000 ตันต่อปี หลังโรงงงานแห่งใหม่เดินเครื่องผลิตชิงพาณิชย์ได้แล้ว
นอกจากนี้ฐานลูกค้าของบริษัทได้ขยายกว้างขึ้น จากศูนย์กระจายสินค้า 4 แห่ง ที่สมุทรปราการ 1 แห่ง สมุทรสาคร 2 แห่ง และ พระนครศรีอยุธยา 1 แห่ง ที่ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงถือเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยผลักดันให้ผลงานบริษัทโตแบบก้าวกระโดดได้เมื่อเทียบกับปี 50
" ไตรมาสแรก RICH สร้างผลงานได้น่าพอใจมาก และในช่วงที่เหลือของปีนี้ ก็มีแนวโน้มว่าน่าจะทำได้ดีไม่แพ้กัน โดยพิจารณาจากหลาย ๆ ปัจจัย ทั้งเรื่องของราคาเหล็กซึ่งคาดว่าจะไต่ระดับสูงขึ้นอีก รวมทั้งการบริหารจัดการควบคุมความเสี่ยงเรื่องราคาเหล็กด้วยการดูแลปริมาณสินค้าคงคลังอย่างเหมาะสม จึงมั่นใจว่าเป้าหมายของเราน่าจะทำได้ตามที่ตั้งเอาไว้" นายสมเกียรติกล่าว
นอกจากนี้ RICH ได้ปรับกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจโดยเพิ่มสินค้าประเภทเหล็กแปรรูปที่มีอัตรากำไรขั้นต้น(margin) สูง รวมถึงเหล็กเกรดชนิดพิเศษ ซึ่งพบว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้า และคาดว่าจะทำให้อัตรากำไรขั้นต้นปีนี้จะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 7.9-8% จากปีก่อนที่ทำได้เฉลี่ย 5-7%
สำหรับไตรมาสแรกปีนี้ RICH มีกำไรสุทธิ 64.21 ล้านบาท พลิกจากไตรมาสแรกปี 50 ที่ขาดทุน 175 ล้านบาท อันเป็นผลจากบริษัทมีรายได้รวม 1,654.10 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 28.11% เนื่องจากราคาจำหน่ายสินค้าเฉลี่ยเพิ่มขึ้น รวมถึงรายได้อื่นที่ได้รับจากการรับชำระหนี้จากผู้บริหารแทนลูกหนี้การค้า กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน ที่สำคัญในไตรมาสนี้ไม่ได้ตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญ
นายสมเกียรติ วงศาโรจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ริช เอเชีย สตีล จำกัด (มหาชน)(RICH) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในปีนี้ว่าหลังจากประกาศผลประกอบการในไตรมาสแรกปีนี้ออกมา ทำให้มีความมั่นใจยิ่งขึ้นว่าจะมีรายได้ตามเป้าหมาย 1 หมื่นล้านบาทตามที่ตั้งเป้าไว้
โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากทั้งราคาเหล็กที่ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องและปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้น อันเนื่องมาจาก RICH มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอีก 90,000 ตันต่อปี จากปัจจุบันบริษัทมีกำลังการผลิตติดตั้งรวมเท่ากับ 125,000 ตันต่อปี หลังโรงงงานแห่งใหม่เดินเครื่องผลิตชิงพาณิชย์ได้แล้ว
นอกจากนี้ฐานลูกค้าของบริษัทได้ขยายกว้างขึ้น จากศูนย์กระจายสินค้า 4 แห่ง ที่สมุทรปราการ 1 แห่ง สมุทรสาคร 2 แห่ง และ พระนครศรีอยุธยา 1 แห่ง ที่ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงถือเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยผลักดันให้ผลงานบริษัทโตแบบก้าวกระโดดได้เมื่อเทียบกับปี 50
" ไตรมาสแรก RICH สร้างผลงานได้น่าพอใจมาก และในช่วงที่เหลือของปีนี้ ก็มีแนวโน้มว่าน่าจะทำได้ดีไม่แพ้กัน โดยพิจารณาจากหลาย ๆ ปัจจัย ทั้งเรื่องของราคาเหล็กซึ่งคาดว่าจะไต่ระดับสูงขึ้นอีก รวมทั้งการบริหารจัดการควบคุมความเสี่ยงเรื่องราคาเหล็กด้วยการดูแลปริมาณสินค้าคงคลังอย่างเหมาะสม จึงมั่นใจว่าเป้าหมายของเราน่าจะทำได้ตามที่ตั้งเอาไว้" นายสมเกียรติกล่าว
นอกจากนี้ RICH ได้ปรับกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจโดยเพิ่มสินค้าประเภทเหล็กแปรรูปที่มีอัตรากำไรขั้นต้น(margin) สูง รวมถึงเหล็กเกรดชนิดพิเศษ ซึ่งพบว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้า และคาดว่าจะทำให้อัตรากำไรขั้นต้นปีนี้จะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 7.9-8% จากปีก่อนที่ทำได้เฉลี่ย 5-7%
สำหรับไตรมาสแรกปีนี้ RICH มีกำไรสุทธิ 64.21 ล้านบาท พลิกจากไตรมาสแรกปี 50 ที่ขาดทุน 175 ล้านบาท อันเป็นผลจากบริษัทมีรายได้รวม 1,654.10 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 28.11% เนื่องจากราคาจำหน่ายสินค้าเฉลี่ยเพิ่มขึ้น รวมถึงรายได้อื่นที่ได้รับจากการรับชำระหนี้จากผู้บริหารแทนลูกหนี้การค้า กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน ที่สำคัญในไตรมาสนี้ไม่ได้ตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญ
