“โครงการไฮด์ พาร์ค” หันรุกหนักตลาดบ้านหรูอีกครั้ง หลังเฟสแรกยอดขายไม่กระเตื้อง ซุ่มปรับแผนใหม่หันทำบ้านสร้างเสร็จก่อนขายมากว่า 2 ปี ระบุลูกค้าเชื่อมั่นตัดสินใจซื้อเร็วขึ้น เตรียมเปิดขายเฟส 2 ต่อเนื่องหลังเฟสแรกขายไปแล้ว 65%
นางสุภาภร วารีเกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัทเอชโฮม จำกัด ผู้ดำเนินโครงการบ้านหรู ไฮด์ พาร์ควิภาวดี เปิดเผยว่า บริษัทได้เตรียมรุกตลาดบ้านหรูอีกครั้ง หลังจากที่ได้หยุดทำการตลาดมากว่า 32 ปี โดยโครงการดังกล่าวเริ่มเปิดขายในช่วงปลายปี 2547 ซึ่งเป็นการร่วมทุนของกลุ่มทุนจากสิงคโปร์ ฮ่องกง และตระกูลชยางกูร ด้วยการซื้อที่ดินของกลุ่มปูนใหญ่ เนื้อที่กว่า 300 ไร่
โดยโครงการไฮด์ พาร์ค มีโรงเรียนนานาชาติ “ฮาร์โรว์” ซึ่งเป็น “Modern Luxury Home in Harrow Society” แบ่งเนื้อที่ออกเป็นโรงเรียน 80 กว่าไร่ทะเลสาบ อีก 90 กว่าไร่ และสร้างบ้านเดี่ยวจำนวน 250 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 18-80 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 3,000 ล้านบาท แบ่งเป็น 3 เฟส รวมถึงสาธารณูปโภคบนเนื้อที่กว่า 130 ไร่ ซึ่งโครงการนี้จะเป็นรูปลักษณ์ใหม่ภายใต้คอนเซปต์การออกแบบที่เรียกว่า OEM หรือ Oriental Layout Plan with English Twist in Modern Setting มีลักษณะของการออกแบบในสไตล์ตะวันออก ด้วยรูปลักษณ์ที่เป็นแนวโมเดิร์น
นางสุภาภร กล่าวต่อว่า สาเหตุที่หยุดทำการตลาด เนื่องจากเดิมเป็นบ้านสั่งสร้าง ทำให้ลูกค้ามีการเปลี่ยนแปลงแบบบ่อยทำให้โครงการล่าช้า เมื่อลูกค้าใหม่เข้ามาดูโครงการก็ยังสร้างไม่เสร็จ มียอดขายช้าลง บริษัทจึงเปลี่ยนแผนการพัฒนาใหม่เป็นสร้างเสร็จก่อนขาย เมื่อลูกค้าเห็นบ้านก็จะตัดสินใจซื้อง่ายขึ้น ปัจจุบันเฟสแรก 70 ยูนิตสามารถขายไปได้แล้ว 65% ปัจจุบันส่งมอบแล้ว 20 ยูนิต
ทั้งนี้ บริษัทเตรียมเปิดเฟสที่สองต่อเนื่อง จำนวน 80 ยูนิต แต่จากการสำรวจความต้องการของลูกค้าพบว่า ต้องการพื้นที่ดินเพิ่มเพื่อทำสวนสีเขียวรอบบ้าน ทำให้บริษัทได้ขยายที่ดินออกเป็น 120-200 ตร.ว. ราคา 18-23 ล้านบาท ส่วนบ้านราคา 83 ล้านบาทนั้นมีจำนวน 8 ยูนิต ขายไปแล้ว 3 ยูนิต ลูกค้าเป็นคนไทยทั้งหมด สำหรับกลุ่มลูกค้ามีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยชาวต่างชาติ 40% ที่เหลือเป็นชาวไทย โดยเฉพาะผู้ปกครองของนักเรียนโรงเรียนนานาชาติ ฮาร์โรว์ ที่ปัจจุบันมีนักเรียนกว่า 1,300 คน
ส่วนที่ดินสะสมในย่านอำเภอสามโคก จ.ปทุมธานี จำนวน 700 ไร่ ภายในมีทะเลสาปกว่า 100 ไร่ ปัจจุบันยังไม่มีแผนนำมาพัฒนา เพราะทำเลดังกล่าวยังไม่มีศักยภาพเพียงพอ
นางสุภาภร วารีเกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัทเอชโฮม จำกัด ผู้ดำเนินโครงการบ้านหรู ไฮด์ พาร์ควิภาวดี เปิดเผยว่า บริษัทได้เตรียมรุกตลาดบ้านหรูอีกครั้ง หลังจากที่ได้หยุดทำการตลาดมากว่า 32 ปี โดยโครงการดังกล่าวเริ่มเปิดขายในช่วงปลายปี 2547 ซึ่งเป็นการร่วมทุนของกลุ่มทุนจากสิงคโปร์ ฮ่องกง และตระกูลชยางกูร ด้วยการซื้อที่ดินของกลุ่มปูนใหญ่ เนื้อที่กว่า 300 ไร่
โดยโครงการไฮด์ พาร์ค มีโรงเรียนนานาชาติ “ฮาร์โรว์” ซึ่งเป็น “Modern Luxury Home in Harrow Society” แบ่งเนื้อที่ออกเป็นโรงเรียน 80 กว่าไร่ทะเลสาบ อีก 90 กว่าไร่ และสร้างบ้านเดี่ยวจำนวน 250 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 18-80 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 3,000 ล้านบาท แบ่งเป็น 3 เฟส รวมถึงสาธารณูปโภคบนเนื้อที่กว่า 130 ไร่ ซึ่งโครงการนี้จะเป็นรูปลักษณ์ใหม่ภายใต้คอนเซปต์การออกแบบที่เรียกว่า OEM หรือ Oriental Layout Plan with English Twist in Modern Setting มีลักษณะของการออกแบบในสไตล์ตะวันออก ด้วยรูปลักษณ์ที่เป็นแนวโมเดิร์น
นางสุภาภร กล่าวต่อว่า สาเหตุที่หยุดทำการตลาด เนื่องจากเดิมเป็นบ้านสั่งสร้าง ทำให้ลูกค้ามีการเปลี่ยนแปลงแบบบ่อยทำให้โครงการล่าช้า เมื่อลูกค้าใหม่เข้ามาดูโครงการก็ยังสร้างไม่เสร็จ มียอดขายช้าลง บริษัทจึงเปลี่ยนแผนการพัฒนาใหม่เป็นสร้างเสร็จก่อนขาย เมื่อลูกค้าเห็นบ้านก็จะตัดสินใจซื้อง่ายขึ้น ปัจจุบันเฟสแรก 70 ยูนิตสามารถขายไปได้แล้ว 65% ปัจจุบันส่งมอบแล้ว 20 ยูนิต
ทั้งนี้ บริษัทเตรียมเปิดเฟสที่สองต่อเนื่อง จำนวน 80 ยูนิต แต่จากการสำรวจความต้องการของลูกค้าพบว่า ต้องการพื้นที่ดินเพิ่มเพื่อทำสวนสีเขียวรอบบ้าน ทำให้บริษัทได้ขยายที่ดินออกเป็น 120-200 ตร.ว. ราคา 18-23 ล้านบาท ส่วนบ้านราคา 83 ล้านบาทนั้นมีจำนวน 8 ยูนิต ขายไปแล้ว 3 ยูนิต ลูกค้าเป็นคนไทยทั้งหมด สำหรับกลุ่มลูกค้ามีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยชาวต่างชาติ 40% ที่เหลือเป็นชาวไทย โดยเฉพาะผู้ปกครองของนักเรียนโรงเรียนนานาชาติ ฮาร์โรว์ ที่ปัจจุบันมีนักเรียนกว่า 1,300 คน
ส่วนที่ดินสะสมในย่านอำเภอสามโคก จ.ปทุมธานี จำนวน 700 ไร่ ภายในมีทะเลสาปกว่า 100 ไร่ ปัจจุบันยังไม่มีแผนนำมาพัฒนา เพราะทำเลดังกล่าวยังไม่มีศักยภาพเพียงพอ
