xs
xsm
sm
md
lg

ลูกบ้านแลนด์ฯโวยตายผ่อนส่ง รง.เหล็กติดโครงการปล่อยสารก่อมะเร็ง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ลูกบ้านโครงการสีวลี สุวรรณภูมิ ของแลนด์ฯ โวยโรงงานเหล็กปล่อยสารพิษก่อมะเร็ง แถมส่งกลิ่นเหม็นจนแทบอยู่ไม่ได้ ระบุแลนด์ยื้อเวลาไม่เร่งแก้ไขปัญหา เตรียมยื่นหนังสือเปิดผนึกในวันที่ 7 พ.ค.นี้ ด้านผู้บริหารแลนด์ฯแจงปัญหาเกิดเมื่อเปิดโครงการได้ 1 ปี เผยแก้ปัญหามาโดยตลอด ปัจจุบันศาลออกหมายให้กรมควบคุมมลพิษตรวจสอบ นัดสืบพยาน 12 พ.ค.51

วานนี้ (6 พ.ค.51) ลูกบ้านโครงการสีวลี สุวรรณภูมิ ของบริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) นำโดยนางหรรษา ทองโกมล ได้ร้องเรียนต่อหนังสือพิมพ์ "ผู้จัดการรายวัน" ว่า ได้รับความเดือดร้อนจากโรงงานหล่อเหล็กที่ส่งกลิ่นเหม็นจนแทบอาศัยไม่ได้ ซึ่งเรื่องดังกล่าวได้แจ้งไปยังผู้บริหารบริษัทแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ฯ ให้เข้ามาดำเนินการเป็นเวลาเกือบ 2 ปีแล้วแต่ยังไม่ได้รับความคืบหน้าแต่อย่างใด

ดังนั้นในวันนี้ (7 พ.ค.) จึงเข้ายื่นหนังสือเปิดผนึกต่อผู้บริหารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ฯ เพื่อให้เข้ามาช่วยดูแล และแก้ปัญหาให้จบ โดยเร็วที่สุดภายใน 2 เดือน หากเรื่องดังกล่าวไม่ได้รับการแก้ไขตามกำหนด ก็จะดำเนินการเรียกร้องต่อไป

กรณีดังกล่าว นางหรรษา เปิดเผยว่า ตนได้เข้ามาซื้อบ้านในโครงการสีวลี สุวรรณภูมิ เป็นกลุ่มแรกๆเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา และได้เข้าอยู่อาศัย โดยเห็นว่ามีโรงงานอยู่ในบริเวณใกล้เคียง แต่ในขณะนั้นยังไม่มีปัญหาเรื่องกลิ่น และทางพนักงานขายได้ชีแจงว่าอาคารโรงงานดังกล่าวเป็นเพียงโกดังเก็บสินค้าเท่านั้น จึงได้ตัดสินใจซื้อบ้าน

เมื่ออยู่อาศัยมาได้ระยะหนึ่งกลับได้มีกลิ่นเหม็นจากโรงงาน ซึ่งจากการตรวจสอบสารพิษที่มาจากโรงงาน พบว่า เป็นสารเฟอร์มาดีไฮด์ ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง จึงได้รวบรวมลูกบ้านแจ้งไปยังเจ้าของโครงการให้รีบเข้ามาดำเนินการแก้ไข ซึ่งในเวลาต่อมาหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ผู้ว่าราชการจังหวัด กรมโรงงานอุตสาหกรรม กรมควบคุมมลพิษ องค์การบริหารส่วนตำบล และตำรวจ ฯ ได้เข้าตรวจสอบพื้นที่ พบว่าโรงงานดังกล่าวได้ส่งกลิ่นเหม็นออกมาจริง จึงสั่งปิดโรงงาน 30 วัน แต่ทางโรงงานกลับฝ่าฝืนยังเดินเครื่องผลิตและส่งกลิ่นเหม็นอย่างต่อเนื่อง

เมื่อเป็นเช่นนั้น จึงได้ฟ้องร้องต่อศาล ซึ่งแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ได้จ้างทนายความเข้ามาช่วยดำเนินการ โดยมีลูกบ้านจำนวน 16 คน เป็นโจทย์ยื่นฟ้อง ซึ่งแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ชี้แจงว่าที่ไม่ใช้ทนายของบริษัทฯ เพราะเกรงว่าจะมีเรื่องผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้อง

“เมื่อเรื่องอยู่ในชั้นศาลต้องใช้เวลานานอย่างน้อยๆ ก็ต้อง 4-5 ปี จึงจะจบ ลองนึกดูเราเอาเงินเก็บทั้งชีวิต 4-6 ล้านบาท มาซื้อบ้านก็หวังว่าจะได้อยู่อาศัยอย่างมีความสุขแต่มาเจอแบบนี้มันน่าผิดหวัง ปัญหาที่เกิดขึ้นแลนด์ฯ ทิ้งให้เนินนานมาเกือบ 2 ปี เหมือนยื้อเวลา ผู้บริหารที่ส่งมาร่วมประชุมกับลูกบ้านก็ไม่มีอำนาจตัดสินใจอะไร แถมยังขายโครงการอย่างต่อเนื่อง คนที่มาซื้อใหม่ก็จะเจอปัญหาเหมือนเรา ในวันนี้ (7 พ.ค.) เราจะยื่นหนังสือเปิดผนึกถึงผู้บริหารเพื่อให้เร่งดำเนินการให้เสร็จภายใน 2 เดือน” นางหรรษากล่าว

**แลนด์ฯแจงเร่งแก้ปัญหา
**12 พ.ค.นัดสืบพยาน*


นางสาวศุภรัชฏ์ วีระกุล ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ฯ กล่าวชี้แจงว่า เรื่องดังกล่าวเกิดหลังเปิดโครงการได้ 1 ปี เมื่อลูกบ้านแจ้งเข้ามา บริษัทฯได้แจ้งไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องข้างต้นให้เข้ามาดูแล แต่เมื่อโรงงานยังสร้างปัญหาต่อ บริษัทจึงได้ว่าจ้างทนายเพื่อช่วยเหลือลูกบ้านในการฟ้องร้องต่อศาล ล่าสุดศาลได้มีมหายออกไปยังกรมควบคุมมลพิษ ให้ส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบอีกครั้ง ในวันที่ 12 พฤษภาคมนี้จะนักสืบพบยานอีกครั้ง

“ในระหว่างที่รอศาลพิจารณาไตร่สวน ศาลได้นักเจรจาไกล่เกลี่ย แต่ลูกบ้านไม่ยอม เพราะต้องการให้สั่งปิดโรงงานเลย ซึ่งก็ไม่ถูกต้อง แต่โรงงานจะต้องแก้ไขไม่ให้มีมลพิษออกมาสร้างความเดือดร้อน เราไม่เคยนิ่งเฉยต่อปัญหาเลย แต่เราไม่สามารถไปเร่งศาลได้ ต้องเป็นไปตามกระบวนการศาล ซึ่งก็ใกล้ได้ข้อยุติแล้ว”

ปัจจุบันบริษัทได้หยุดขายโครงการแล้วจนกว่าจะแก้ปัญหาเรื่องนี้สำเร็จ ซึ่งโครงการดังกล่าวมีประมาณ 900 ยูนิต ขายได้แล้วกว่า 400 ยูนิตและมีผู้อยู่อาศัยเกือบทุกหลัง อย่างไรก็ตาม บริษัทไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะเกิดปัญหาขึ้น เพราะโรงงานตั้งอยู่ห่างจากโครงการถึง 500 เมตรคนละฝั่งถนน และพื้นที่นี้เป็นผังเมืองสีส้มหรือที่อยู่อาศัยหนาแน่น อีกทั้งยังผ่านรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

อนึ่งทางผู้บริหาร แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เตรียมแถลงข่าวชี้แจงถึงปัญหาที่เกิดขึ้นในวันนี้ (7 พ.ค.51)เวลา 10.00 น. ขณะที่ทางลูกบ้านเตรียมยื่นจดหมายเปิดผนึกในเวลา 9.30 น.ของวันเดียวกัน
กำลังโหลดความคิดเห็น