xs
xsm
sm
md
lg

เอื้อวิทยารอ ก.ล.ต.ให้ขาย IPO ระดมทุนขยายธุรกิจใน-ตปท.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อีสเทิร์นไวร์ เตรียมดัน เอื้อวิทยา เข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทย ก.ค.นี้ รอ ก.ล.ตไฟเขียวไฟลิ่ง ขายไอพีโอ 150 ล้านหุ้น หวังเงินระดมทุนกว่า 100 ล้านบาท ขยายธุรกิจพลังงาน-ขยายธุรกิจในส่วนการรับผลิตสินค้าและการให้บริการทางด้านวิศวกรรมไปยังตลาดต่างประเทศ

รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)แจ้งว่า บริษัท เอื้อวิทยา จำกัด (มหาชน) ซึ่งประกอบธุรกิจรับผลติเสาโครงเหล็กและจัดจำหน่ายสินค้าอุตสาหกรรม ได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) เพื่อเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) 150 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์)หุ้นละ 1 บาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวน 119 ล้านหุ้น

โดยจะเสนอขายแก่ประชาชนทั่วไป จำนวน 99 ล้านหุ้น อีก 20 ล้านหุ้น เสนอขายแก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทอีสเทิร์นไวร์ จำกัด (มหาชน)หรือ EWCในอัตรา 5 หุ้นเดิมของEWC ต่อ 1 หุ้นใหม่ และหุ้นEWCในฐานะผู้ถือหุ้นเดิมได้นำหุ้นเอื้อวิทยาออกมาขายจำนวน 31 ล้านหุ้น

สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้บริษัทจะนำไป ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจของบริษัท ใช้ในการซื้อเครื่องจักรและอุปกรณ์จำนวน 30 ล้านบาท และใช้ลงทุนขยายไปในธุรกิจพลังงานภาคอื่น ๆ ได้แก่ โครงการให้บริการด้านวิศวกรรมพลังงานทดแทน หรือโครงการขยายธุรกิจในส่วนการรับผลิตสินค้าและการให้บริการทางด้านวิศวกรรมไปยังตลาดต่างประเทศ ประมาณ 80-100 ล้านบาท

ทั้งนี้ บริษัทมีรายได้รวมปี 2548 จำนวน 704.34 ล้านบาท ซึ่งปี 2549 มีรายได้รวม 618.02 ล้านบาท และเพิ่มขึ้นในปี 2550 ที่มี 815.05 ล้านบาท ซึ่งในปี2551 บริษัทมีเป้าหมายที่จะรักษาโครงสร้างรายได้จากการรับผลิตเสาโครงเหล็กประเภทเสาโครงเหล็กสายส่งไฟฟ้าแรงสูง และเสาโครงเหล็กสถานีไฟฟ้าย่อยในสัดส่วนรวมกันไม่ต่ำกว่า 60% ถึง 70% ของรายได้รวม โดยปี2548 บริษัทมีกำไรสุทธิ46.83 ล้านบาท ปี 2549 มีกำไรสุทธิ 20.01 ล้านบาท และปี 2550 บริษัทมีกำไรสุทธิ 28.99 ล้านบาท

ปัจจุบัน บริษัทมีทุนจดทะเบียนจำนวน 450 ล้านบาท เรียกชำระแล้ว 250.50 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 250.50 ล้านหุ้น ซึ่งภายหลังจากเสนอขายหุ้นครั้งนี้ บริษัทมีทุนจดทะเบียนชำระแล้วเพิ่มเป็น 369.50 ล้านบาท และโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหญ่ ประกอบด้วย บริษัทอีสเทิร์นไวร์ จำกัด (มหาชน)หรือ EWCจำนวน 227.91 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 90.98% ภายหลังขายหุ้นเหลือ 196.91 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 53.29% กลุ่มครอบครัวลีนะบรรจง ถือหุ้นจำนวน 16.53 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 6.60% หลังจากขายไอพีโอถือ 16.53 ล้านหุ้นหรือคิดเป็น 4.48% นายเดชขจร ธีรวิจารณญาณกุล ถือหุ้น 6 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 2.40% ภายหลังขายไอพีโอ ถือ 6 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 1.62%

อย่างไรก็ตาม ผู้ถือหุ้นใหญ่ของEWC คือ นายโกมล จึงรุ่งเรืองกิจ ถือจำนวน 9.88 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 9.84% นายธนัท พันธศุกร จำนวน 4.72 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 4.72% นายวุฒิชัย ลีนะบรรจง ถือหุ้น 3.9 ล้านหุ้นหรือคิดเป็น 3.90% นายชนะชัย ลีนะบรรจง จำนวน 2.9 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 2.95%

นายภานุ คงแท่น ผู้จัดการฝ่ายวาณิชธนกิจ บล.ซีมิโก้ กล่าวว่า บรัทคาดว่าจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ประมาณเดือนกรกฎาคม 2551 หากก.ล.ต.อนุมัติไฟลิ่ง โดยคาดว่าจะระดมทุนได้มากกว่า 100 ล้านบาท จากที่บริษัทได้แจ้งไว้ โดยการขายหุ้นครั้งนี้ก็มีการนำหุ้นเดิมจาก EWC ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ มาขายด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น