เนาวรัตน์พัฒนาการ เล็งประมูลงานกว่า 77,000 ล้านบาท หวังได้งานแค่ 4,000 ล้านบาท มั่นใจรถไฟฟ้าสายสีม่วงเกิดแน่เพราะรัฐเซ็นสัญญาเงินกู้แล้ว พร้อมจับมือโอบายาชิเข้าร่วมประมูล เผยประมูลงานรัฐไม่เสี่ยง เหตุต้นทุนเพิ่มเกิน 4% เก็บค่าเคได้ ด้าน TRC โชว์Backlog 2,130 ล้านบาท หลังเซ็นสัญญาก่อสร้างศูนย์ผลิตไบโอดีเซล
นายวัชรพัธ วัชราภัย ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายวางแผนกลยุทธ์ บริษัท เนาวรัตน์พัฒนาการ จำกัด (มหาชน) หรือ NWR เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าประมูลงานใหม่ 11 โครงการ รวมมูลค่าประมาณ 77,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นงานก่อสร้างถนนในกรุงเทพฯและโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง มูลค่าโครงการ 54,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม บริษัทคาดว่าจะสามารถประมูลงานได้เพียง 4,000 ล้านบาทเท่านั้น ซึ่งในไตรมาสแรก สามารถประมูลงานใหม่ได้แล้ว 1,340 ล้านบาท
สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงที่รัฐบาลได้ไปเซ็นสัญญากับทางธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งญี่ปุ่น(เจบิก) นั้นคาดว่าจะสามารถก่อสร้างได้จริงและดำเนินการได้เป็นโครงการแรก ซึ่งบริษัทก็จะซื้อซองประกวดราคาและซื้อซองประมูลด้วย โดยร่วมกับทางบริษัทรับเหมาของทางญี่ปุ่นคือบริษัท โอบายาชิ
นอกจากนี้ บริษัทคาดว่าจะมียอดรับรู้รายได้ 4,000 ล้านบาทในปีนี้ จากปี 50 มียอดรับรู้รายได้ 3,850 ล้านบาท แม้ว่าในปีนี้จะได้รับผลกระทบจากต้นทุนวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะราคาเหล็กที่ขึ้นมา 24% จาก 24 บาท/กก.เมื่อปลายปี 50 มาเป็น 29 บาท/กก.ในขณะนี้ ทำให้บริษัทประสบปัญหากำไรขั้นต้นลดลง
อย่างไรก็ตามในการประมูลงานของภาครัฐนั้นแม้ว่าต้นทุนจะเพิ่มขึ้นแต่ก็มีความเสี่ยงน้อยเนื่องจากหากต้นทุนเพิ่มเกิน 4% ก็สามารถเคลมค่าเคได้ แต่ถ้าเป็นงานเอกชนจะต้องมีการคิดค่าต้นทุนที่เพิ่มขึ้นล่วงหน้าก่อนการประมูล เพื่อไม่ให้มีการขาดทุน ทั้งนี้ในปัจจุบันบริษัทจะมีกำไรขั้นต้นจากการประมูลงานประมาณ 6%
สำหรับรายได้หลักของบริษัทในปีนี้ จะมาจากการรับรู้รายได้จากงานในมือ (Backlog) ที่ปัจจุบันมีประมาณ 15,000 ล้านบาท จาก 25 โครงการ ในจำนวนดังกล่าวเป็นโครงการรัฐ 85% นอกจากนี้ ยังมีงานบางส่วนที่บริษัทสามารถประมูลได้ แต่ก็ยังไม่เซ็นสัญญา ซึ่งส่วนใหญ่เป็นงานของภาครัฐ
นายวัชรพัธ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันบริษัทมีขาดทุนสะสม 1,470 ล้านบาท ซึ่งเป็นการขาดทุนสะสมมาเป็นเวลา 10 ปีแล้ว ส่วนการล้างขาดทุนสะสม คงต้องใช้เวลาหลายปี หรืออย่างน้อยต้องรอให้บริษัทมียอดขายเกือบหมื่นล้านบาท จึงจะมีกำไรเพียงพอต่อการล้างขาดทุนสะสม อย่างไรก็ตาม ปีนี้คาดว่าจะพลิกจากการขาดทุนมาเป็นกำไรได้ เพราะไม่มีภาระต้องตั้งสำรองขาดทุนเหมือนเช่นปีก่อน จนทำให้ผลการดำเนินงานขาดทุน 1,100 ล้านบาท
ด้านนายสมัย ลี้สกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีอาร์ซี คอนสตัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRC เปิดเผยว่า บริษัทและบริษัท สหการวิศวกร จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย สามารถประมูลงานใหม่ได้เพิ่มขึ้น ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมามีโครงการในมือรวม 13 โครงการ มูลค่า 2,135 ล้านบาท โดยเป็นงานของ TRC 10 โครงการ ทูลค่า 1,569 ล้านบาท ล่าสุดได้เซ็นสัญญารับงานก่อสร้างศูนย์ผลิตไบโอ ดีเซล ที่จ.พระนครศรีอยุธยา มูลค่า 757 ล้านบาท ระยะเวลาก่อสร้าง 15 เดือน
นายวัชรพัธ วัชราภัย ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายวางแผนกลยุทธ์ บริษัท เนาวรัตน์พัฒนาการ จำกัด (มหาชน) หรือ NWR เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าประมูลงานใหม่ 11 โครงการ รวมมูลค่าประมาณ 77,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นงานก่อสร้างถนนในกรุงเทพฯและโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง มูลค่าโครงการ 54,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม บริษัทคาดว่าจะสามารถประมูลงานได้เพียง 4,000 ล้านบาทเท่านั้น ซึ่งในไตรมาสแรก สามารถประมูลงานใหม่ได้แล้ว 1,340 ล้านบาท
สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงที่รัฐบาลได้ไปเซ็นสัญญากับทางธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งญี่ปุ่น(เจบิก) นั้นคาดว่าจะสามารถก่อสร้างได้จริงและดำเนินการได้เป็นโครงการแรก ซึ่งบริษัทก็จะซื้อซองประกวดราคาและซื้อซองประมูลด้วย โดยร่วมกับทางบริษัทรับเหมาของทางญี่ปุ่นคือบริษัท โอบายาชิ
นอกจากนี้ บริษัทคาดว่าจะมียอดรับรู้รายได้ 4,000 ล้านบาทในปีนี้ จากปี 50 มียอดรับรู้รายได้ 3,850 ล้านบาท แม้ว่าในปีนี้จะได้รับผลกระทบจากต้นทุนวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะราคาเหล็กที่ขึ้นมา 24% จาก 24 บาท/กก.เมื่อปลายปี 50 มาเป็น 29 บาท/กก.ในขณะนี้ ทำให้บริษัทประสบปัญหากำไรขั้นต้นลดลง
อย่างไรก็ตามในการประมูลงานของภาครัฐนั้นแม้ว่าต้นทุนจะเพิ่มขึ้นแต่ก็มีความเสี่ยงน้อยเนื่องจากหากต้นทุนเพิ่มเกิน 4% ก็สามารถเคลมค่าเคได้ แต่ถ้าเป็นงานเอกชนจะต้องมีการคิดค่าต้นทุนที่เพิ่มขึ้นล่วงหน้าก่อนการประมูล เพื่อไม่ให้มีการขาดทุน ทั้งนี้ในปัจจุบันบริษัทจะมีกำไรขั้นต้นจากการประมูลงานประมาณ 6%
สำหรับรายได้หลักของบริษัทในปีนี้ จะมาจากการรับรู้รายได้จากงานในมือ (Backlog) ที่ปัจจุบันมีประมาณ 15,000 ล้านบาท จาก 25 โครงการ ในจำนวนดังกล่าวเป็นโครงการรัฐ 85% นอกจากนี้ ยังมีงานบางส่วนที่บริษัทสามารถประมูลได้ แต่ก็ยังไม่เซ็นสัญญา ซึ่งส่วนใหญ่เป็นงานของภาครัฐ
นายวัชรพัธ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันบริษัทมีขาดทุนสะสม 1,470 ล้านบาท ซึ่งเป็นการขาดทุนสะสมมาเป็นเวลา 10 ปีแล้ว ส่วนการล้างขาดทุนสะสม คงต้องใช้เวลาหลายปี หรืออย่างน้อยต้องรอให้บริษัทมียอดขายเกือบหมื่นล้านบาท จึงจะมีกำไรเพียงพอต่อการล้างขาดทุนสะสม อย่างไรก็ตาม ปีนี้คาดว่าจะพลิกจากการขาดทุนมาเป็นกำไรได้ เพราะไม่มีภาระต้องตั้งสำรองขาดทุนเหมือนเช่นปีก่อน จนทำให้ผลการดำเนินงานขาดทุน 1,100 ล้านบาท
ด้านนายสมัย ลี้สกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีอาร์ซี คอนสตัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRC เปิดเผยว่า บริษัทและบริษัท สหการวิศวกร จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย สามารถประมูลงานใหม่ได้เพิ่มขึ้น ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมามีโครงการในมือรวม 13 โครงการ มูลค่า 2,135 ล้านบาท โดยเป็นงานของ TRC 10 โครงการ ทูลค่า 1,569 ล้านบาท ล่าสุดได้เซ็นสัญญารับงานก่อสร้างศูนย์ผลิตไบโอ ดีเซล ที่จ.พระนครศรีอยุธยา มูลค่า 757 ล้านบาท ระยะเวลาก่อสร้าง 15 เดือน