“หมัก” ชี้ 2 ทางเลือกระดมทุน 3-5 แสนล้าน สร้างรถไฟฟ้า 9 สาย โดยออกบอนด์อายุ 6 ปี หรือตั้งกองทุนวายุภักษ์ 2 รมว.คมนาคม ประกาศหนุนใช้ทั้ง 2 แนวทาง ขณะที่ผู้ว่าฯ รฟม.ลั่นเดินหน้าสายสีม่วง ทันที เผยเตรียมบินเซ็นกู้เจบิก มี.ค.นี้
วันนี้ (25 ก.พ.) นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการลงทุนเมกะโปรเจกต์ โดยระบุว่า รัฐบาลพร้อมเดินหน้ารถไฟฟ้า 9 เส้นทาง ตามที่ได้ประกาศนโยบายไว้พร้อมกันภายในระยะเวลา 3 ปี เพื่อไม่ให้ประเทศเสียโอกาส ซึ่งจะใช้เงินลงทุนราว 3-5 แสนล้านบาท โดยเชื่อว่า มีความพร้อมที่จะระดมทุนจากในประเทศเพื่อนำมาใช้ในการก่อสร้าง ร่วมกับเงินกู้จากธนาคารเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (เจบิก) โดยแนวทางการกู้เงินในประเทศอาจออกเป็นพันธบัตรจำหน่ายให้กับประชาชน ซึ่งมีอายุ 6 ปี ให้ดอกเบี้ย 5% หรืออาจระดมทุนผ่านกองทุนวายุภักษ์ 2
นอกเหนือจากการลงทุนสร้างรถไฟฟ้าเส้นทางใหม่แล้ว รัฐบาลยังจะผลักดันแนวทางการซื้อหุ้น บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ บีทีเอส จากเจ้าหนี้ซึ่งถือหุ้นอยู่ในบีทีเอสประมาณ 89% เพื่อถือหุ้นใหญ่และมีสิทธิในการบริหารบริษัท
นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า จะพยายามผลักดันให้โครงการรถไฟฟ้าบางส่วนเดินหน้าให้ได้ภายในปีนี้ ได้แก่ รถไฟฟ้าสายสีม่วง สายสีแดง และสายสีน้ำเงิน โดยมอบหมายให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) องค์การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ไปร่วมประชุมหารือถึงความเป็นไปได้ที่จะดำเนินโครงการตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาราว 2-3 สัปดาห์
สำหรับการดำเนินโครงการดังกล่าว รัฐบาลจะเป็นผู้ลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานแล้วเปิดโอกาสให้เอกชนเข้ามารับสัมปทานบริหารการเดินรถ
นายสันติ ระบุว่า ภายในปี 2551 จะสามารถดำเนินการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วง เส้นทางบางซื่อ - บางใหญ่ - บางไทร ได้ โดยอาจมีการระดมทุนด้วยการตั้งกองทุนวายุภักษ์ 2 เนื่องจากจะมีประโยชน์ต่อค่าการเงินโดยรวม อีกทั้งอาจกู้เงินจากธนาคารเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น(เจบิก) ซึ่งมีต้นทุนดอกเบี้ยต่ำ ทั้งนี้ในระยะแรกจะกู้เงิน จำนวน 18,000 ล้านบาท เพื่อนำมาลงทุนก่อสร้างช่วงแรก เพื่อไม่ให้เกิดภาระดอกเบี้ย โดยภายใน 2 - 3 สัปดาห์ จะมีการหารือกับการรถไฟแห่งประเทศไทย การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย และสำนักงานนโยบายและแผนการจราจรและขนส่ง เพื่อกำหนดรายละเอียดร่วมกัน
นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า สำหรับการกำหนดสัดส่วนการระดมทุนโครงการเมกะโปรเจกต์ จำนวน 500,000 ล้านบาทนั้น จะต้องหารือกับกระทรวงการคลังเพื่อกำหนดแนวทางระดมทุนต่อไป
**เดินหน้าสายสีม่วง เซ็นเจบิก มี.ค.นี้
นายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศ (รฟม.) เปิดเผยความคืบหน้าในการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วง โดยระบุว่า ภายในเดือน มี.ค.นี้ รัฐบาลจะเซ็นสัญญากู้เงินจากเจบิกอัตราดอกเบี้ย 1.4% เพื่อก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วง พร้อมปฏิเสธกระแสข่าวการระดมเงินทุนจากกองทุนวายุภักษ์ 2 มาใช้ในการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายดังกล่าวด้วย โดยเชื่อว่าการระดมทุนในวายุภักษ์ 2 อาจนำไปใช้เป็นแหล่งทุนในการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายอื่นๆ ที่ยังต้องใช้แหล่งเงินทุนอีกมาก
นอกจากนี้ รฟม.จะมีการทบทวนเส้นทางในการก่อสร้างรถไฟฟ้า 9 สาย เพื่อปรับให้มีการเชื่อมต่อไปยังชานเมืองมากขึ้น ให้ประชาชนในย่านชานเมืองมีความสะดวกสบายในการเข้าถึงแหล่งขนส่งมวลชน อีกทั้งจะต้องพิจารณาค่าโดยสารในการเชื่อมต่อทุกเส้นทางให้ประชาชนเข้าถึงได้ด้วย
