xs
xsm
sm
md
lg

ธปท.เขย่าตะกร้าเงินหนีตาย ขายทิ้งดอลลาร์-ตุนทุนสำรองทองคำแทน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ธปท.ปรับตะกร้าเงินใหม่แล้ว ลดความเสี่ยงจากตลาดการเงินโลกผันผวน หลังยกเลิกมาตรการ 30% ไปเมื่อเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา โดยลดการถือครองเงินดอลลาร์สหรัฐ และหันไปถือครองทองคำแทน เพื่อรักษาเสถียรภาพตลาดเงินในประเทศ ขณะที่ ศูนย์วิจัยกสิกรฯ คาดการณ์กรอบเงินบาทในประเทศ สัปดาห์หน้า เคลื่อนไหวที่ 31.20-31.40 บาท/ดอลาร์

วันนี้(23 มี.ค.) มีรายงานข่าวแจ้งว่า แหล่งข่าวจากธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ได้ออกมาเปิดเผยกับสื่อมวลชน โดยระบุว่า ธปท.ได้มีการปรับตะกร้าเงินใหม่ เพื่อลดความเสี่ยงจากความผันผวนของเงินดอลลาร์สหรัฐ หลังประกาศยกเลิกมาตรการกันสำรอง 30% ไปเมื่อเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา และยังไม่มีเครื่องมือตัวใหม่ เข้ามาใช้ดูแลตลาดการเงิน เนื่อจากไม่จำเป็นแล้ว

ทั้งนี้ แหล่งข่าวจาก ธปท.ยอมรับว่า ธปท.มีการลดสัดส่วนการถือครองเงินดอลลาร์สหรัฐในทุนสำรอง ลง ขณะเดียวกันก็หันไปถือครองทองคำและเงินสกุลหลักอื่นๆ ที่น่าเชื่อถือเพิ่มขึ้น อาทิ เงินยูโร เยน และปอนด์ โดยก่อนหน้านี้ ธปท.มีการถือครองเงินดอลลาร์สหรัฐในสัดส่วนที่สูงกว่า 50% เพื่อดูแลรักษาเสถียรภาพตลาดการเงิน

“ทุนสำรองที่เพิ่มขึ้นไม่ได้มาจากการเข้าแทรกแซงค่าเงินบาททั้งหมด แต่ทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ส่วนหนึ่งในทุนสำรองก็มีมูลค่าเพิ่มขึ้นเช่นกัน” แหล่งข่าว เปิดเผยทางสื่อมวลชน เช้าวันนี้

สำหรับมูลค่าทองคำในทุนสำรองของไทย พบว่า เพิ่มสูงขึ้นมาโดยตลอด โดยเฉพาะช่วงที่ราคาทองคำตลาดโลกเริ่มปรับขึ้นเมื่อปลายปี 2550 เห็นได้จากเดือน พ.ย. 2550 มูลค่าทองคำในทุนสำรองระหว่างประเทศมีมูลค่า 7.09 หมื่นล้านบาท เดือน ธ.ค. 7.5 หมื่นล้านบาท จากนั้นเดือน ม.ค. 2551 กระโดดขึ้นเป็น 8.15 หมื่นล้านบาท และเดือน ก.พ. 8.2 หมื่นล้านบาท เท่ากับว่ามูลค่าทองคำในทุนสำรองเพิ่มสูงขึ้นกว่า 1.1 หมื่นล้านบาท

ทั้งนี้ แหล่งข่าวจาก ธปท. ยังชี้ว่า ราคาทองคำในตลาดโลกที่เพิ่มขึ้นหลายร้อยเปร์เซ็นต์ช่วงก่อนหน้านี้ ทำให้มูลค่าทุนสำรองระหว่างประเทศของไทยเพิ่มสูงตามไปด้วย โดยที่ผ่านมา ธปท.มีการซื้อทองคำสะสมเป็นระยะ ทำให้ได้ประโยชน์ในช่วงที่ราคาทองคำในตลาดโลกพุ่งไปสูงถึง 1,000 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์

บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด คาดกาณ์ค่าเงินบาทภายในประเทศ สัปดาห์นี้ อาจมีกรอบการเคลื่อนไหวที่ 31.20-31.40 บาทต่อดอลลาร์ โดยปัจจัยที่ควรจับตา ได้แก่ การเคลื่อนไหวของเงินทุนต่างชาติ (ก่อนการปิดงวดบัญชีของญี่ปุ่น) สัญญาณการเข้าแทรกแซงตลาดของ ธปท. และแรงขายเงินดอลลาร์ของผู้ส่งออก ตลอดจนทิศทางของเงินดอลลาร์ ซึ่งจะขึ้นกับการปรับฐานของตลาดสินค้าโภคภัณฑ์

นอกจากนี้ ยังรวมไปถึงตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ ที่สำคัญประกอบด้วย ยอดขายบ้านใหม่และบ้านมือสอง ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน รายได้-รายจ่ายส่วนบุคคล และดัชนีราคาการใช้จ่ายด้านการบริโภคส่วนบุคคลพื้นฐาน (Core PCE Price Index) เดือนกุมภาพันธ์ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ เดือนมีนาคม และจีดีพี (ขั้นสุดท้าย) ประจำไตรมาส 4/2550

โดยในสัปดาห์นี้ (24-28 มี.ค.2551) ธนาคารพาณิชย์จะมีการปิดสำรองสภาพคล่องรายปักษ์ในวันอังคาร และเข้าสู่ปักษ์ใหม่ในวันพุธ ขณะเดียวกันก็จะมีการเตรียมสภาพคล่องเพื่อรองรับการเบิกถอนเงินสดของลูกค้าในช่วงสิ้นเดือนและสำหรับการปิดงวดบัญชีสิ้นปีของญี่ปุ่นด้วย

อย่างไรก็ตาม อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นน่าจะยังคงทรงตัวใกล้ระดับ 3.25% ต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อน
กำลังโหลดความคิดเห็น