xs
xsm
sm
md
lg

“วิสิฐ” จี้รัฐบาลเร่งตั้ง กบช.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“วิสิฐ” หนุนรัฐบาลผลักดันกองทุนบำเหน็จบำนาญแห่งชาติโดยเร็ว หลังสัดส่วนวัยชราเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ห่วงไม่มีเงินออมไว้ใช่ยามเกษียณ ล่าสุด เผยผลวิจัยสมาชิก กบข. ส่วนใหญ่ไม่รู้จัก “LTF-RMF” เล็งใช้เครือข่าย บลจ.นครหลวงไทย ให้ความรู้สมาชิกเพิ่ม

นายวิสิฐ ตันติสุนทร เลขาธิการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เปิดเผยว่า รัฐบาลควรผลักดันการจัดตั้งกองทุนบำเหน็จบำนาญแห่งชาติ หรือ กบช.อย่างจริงจังมากขึ้น เพื่อส่งเสริมให้การเกิดการออมเงินภายหลังวัยเกษียณ ซึ่งไทยเองประเทศไม่กี่ประเทศที่ยังไม่มีกองทุนเพื่อการออมภาคบังคับสำหรับวัยเกษียณอายุ โดยหลังจากนี้ จะเข้าไปหารือกับรัฐบาลเพื่อกระตุ้นให้เห็นความสำคัญของเรื่องนี้ เพราะถ้าคนอายุ 60 แล้วไม่มีเงินออมเหลืออยู่เลยก็คงเป็นปัญหา

ทั้งนี้ หากมีการจัดตั้งกองทุนบำเน็จบำนาญแห่งชาติ จะสามารถครอบคลุมการออมของประชากรไทยได้ประมาณ 15-18 ล้านคน หรือ 30% ของประชากรทั้งหมด จากปัจจุบันที่มีสัดส่วนการออมเพื่อวัยเกษียณอยู่ที่ 22% เท่านั้น

“ถึงแม้เรื่องนี้ จะเป็นเรื่องที่เกิดได้ยาก เพราะเรื่องนี้เป็นต้นทุนของบริษัทเช่นกัน แต่ถ้ามีความตั้งใจที่จะทำก็สามารถทำได้เร็วอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ต้องพิจารณาถึงเหตุการณ์ที่อาจจะส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัทนั้นๆ ว่า จะยอมรับได้หรือไม่ ซึ่งแล้วแล้วต้องทำให้เพียงพอ และต้องมีระบบการบริหารจัดการที่ดีในการเรียกเก็บเงินสมทบดังกล่าว ขณะเดียวกัน ภาครัฐเองต้องเข้ามาจูงใจให้ประชาชนเข้ามาในส่วนนี้มากขึ้น” นายวิสิฐ กล่าว

นายวิสิฐ กล่าวว่า ในปีนี้ รัฐบาลน่าจะมองไปข้างหน้าถึงสังคมผู้สูงอายุ ว่า หลังจากเกษียณไปแล้วเขาจะอยู่กันอย่างไร ซึ่งในปัจจุบันเองก็มีจำนวนประชากรวัยชราเพิ่มขึ้นมาก โดยปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 10% และอีกประมาณอีก 20 ปีข้างหน้า น่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 15-20% ทั้งนี้ อัตราการเกิดลดลงทำให้วัยผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นจากปัจุจบันอัตราวัยทำงานต่อวัยเกษียณอยู่ที่ 7 ต่อ 1 ในอีก 20 ปีข้างหน้ามองว่าจะอยู่ที่ 4 ต่อ 2 และอีก 40 ปีข้างหน้าจะอยู่ที่ 2 ต่อ 1

ทั้งนี้ กบข.ได้เปิดเผยถึงผลการวิจัยเรื่องผลกระทบการเปลี่ยนโครงสร้างประชากรต่อวิถีชีวิตกับทิศทางการออมในอนาคตนั้น ซึ่งพบว่า จากการสำรวจส่วนใหญ่พบว่าประชากรในวัยเกษียณที่เป็นสมาชิกของ กบข.รู้จักการลงทุนในกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) น้อยมาก โดยทางเราอยากให้หน่วยงานทางภาครัฐและเอกชนให้ความรู้เกี่ยวกับระบบเงินออมของประเทศให้มากขึ้น

โดยในส่วนของ กบข.เอง ก็จะเข้าไปให้ความรู้เกี่ยวกับการลงทุนของกองทุนทั้ง 2 ประเภทให้มากขึ้น ซึ่งส่วนหนึ่งจะใช้เครือข่ายของ บลจ.นครหลวงไทย ซึ่งเป็นบริษัทที่ กบข.เข้าไปร่วมทุน ในการเข้าถึงกลุ่มสมาชิกในต่างจังหวัดเพิ่มขึ้นด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น