ผู้บริหาร ธปท.ยอมยกธงขาว เปิดทางให้ยกเลิกกันสำรอง 30% ระบุ ขณะนี้มีหลายปัจจัยที่เหมาะสม ทั้งนโยบายประชานิยม โครงการเมกะโปรเจกต์ ที่จะเริ่มอัดเม็ดเงินเข้าระบบ รอจังหวะเหมาะสมพร้อมประกาศทันที ล่าสุด เตีรยมเปิดแถลงข่าวใหญ่ 16.00 น.วันนี้
วันนี้ (29 ก.พ.) นางอมรา ศรีพยัคฆ์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายเศรษฐกิจในประเทศ สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ขณะนี้ปัจจัยหลายอย่างเอื้อต่อการยกเลิกมาตรการสำรอง 30% เงินทุนนำเข้าระยะสั้นแล้ว โดยเฉพาะเศรษฐกิจไทยมีโมเมนตัมที่จะขยายตัวต่อไปได้ จากครั้งก่อนที่เคยประเมินว่ามีความเปราะบาง
ประกอบกับ ภาครัฐที่กำลังจะมีมาตรการต่างๆ ออกมากระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมอีก โดยเฉพาะในด้านการลงทุนที่จะทำให้ความต้องการเงินดอลลาร์และเงินบาทมีความสมดุลกัน ก็จะทำให้เงินบาทอ่อนค่าลงไปได้ รวมทั้งมีมาตรการสนับสนุนการนำเงินออกไปลงทุนต่างประเทศ(outflow)
อย่างไรก็ตาม ธปท.ยังอยู่ระหว่างการรอดูจังหวะเวลาที่เหมาะสมในการยกเลิกมาตรการ 30% ดังกล่าว โดยเฉพาะผลทางด้านจิตวิทยาที่เป็นประเด็นสำคัญที่ทำให้มีการตื่นตระหนกและเทขายดอลลาร์ ซึ่งทำให้บาทแข็งค่าอย่างมากในช่วงก่อนหน้านี้
“เรื่อง 30% ทุกอย่างพร้อม เหลือแต่ปัจจัยทางด้านจิตวิทยาเท่านั้น” นางอมรา กล่าว
นางอมรา กล่าวเพิ่มเติมว่า ตอนนี้รัฐบาลก็รได้ส่งเสริมให้มีการนำเงินออกไปลงทุนต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2550 มีเงินที่ไหลออกไปลงทุนต่างประเทศถึง 8,376 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยเฉพาะไปลงทุนในตลาดตราสารหนี้และผ่านกองทุนต่างประเทศ ซึ่งสูงขึ้นกว่า 7 เท่าจากปี 2549 ที่มียอดเพียง 1,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ขณะที่แนวโน้มการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดของไทยจะลดน้อยลง เพราะคาดว่าจะมีการนำเข้าสินค้าเพิ่มขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
นางอมรา ชี้แจงเพิ่มเติมว่า ผู้ว่าการ ธปท.ได้ย้ำมาตลอดเวลาว่ามาตรการ 30% เป็นเพียงมาตรการชั่วคราว ซึ่ง ธปท.ก็ศึกษามาตรการหลายอย่างที่จะนำมาใช้รองรับสถานการณ์ โดยดูตัวอย่างจากในต่างประเทศประกอบด้วย
ส่วนจะมีการลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อดูแลค่าเงินบาทหรือไม่นั้น นางอมรา กล่าวว่า เวลานี้แรงกดดันเงินเฟ้อยังมีสูงอยู่จากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูง ซึ่งนโยบายการเงินมีการผ่อนคลายไปมากแล้ว และขณะนี้อัตราดอกเบี้ยไทยของไทยก็ต่ำสุดในภูมิภาคนี้ จึงไม่น่าจะมีปัญหาทำให้มีเงินไหลเข้า
ธปท.ระบุอีกว่า อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงของไทยติดลบ 0.5% ขณะที่เทียบอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯที่ยังเป็นบวก 0.25% มาเลเซียบวก 0.6% เกาหลีบวก 1.9 และจีนบวก 3%
นางธาริษา วัฒนเกส ผู้ว่าการ ธปท.กล่าวว่า ยืนยันว่าไม่ได้ถูกกดดันให้ประกาศเลิกเกณฑ์สำรอง 30% และมั่นใจว่า หลังเลิกเกณฑ์ 30% แล้ว จะรับมือการเคลื่อนย้ายเงินทุนได้
“นโยบายดอกเบี้ยของ ธปท.ในขณะนี้ ยังให้น้ำหนักกับเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ โดยยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับยกเลิกเกณฑ์ 30%”
ส่วนประเด็นการปลดจากตำแหน่ง หรือข่าวลือที่สะพัดช่วง 2-3 วันนี้ ขอยืนยันว่า จะทำงานในตำแหน่งต่อไป และไม่มีแรงกดดันใดๆ ตามที่เป็นข่าว