“สมัคร” ขอเวลาอีก 2 เดือน พิจารณากรณียกเลิกมาตรการสำรอง 30% ยันเลี้ยบ-ธาริษา พร้อมดำเนินการอย่างนิ่มนวล ขณะที่ทีมพี่เลี้ยง รมว.คลัง วิ่งให้คำปรึกษากันขาขวิด "ทนง" ปฎิเสธลั่น! ยันไม่ได้ล้วงลูกการทำงาน แค่เข้ามากินข้าว-แสดงความยินดี
วันนี้ (15 ก.พ.) นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ระบุว่า รัฐบาลขอเวลา 2 เดือน พิจารณากรณียกเลิกมาตรการสำรอง 30% ของเงินทุนนำเข้าระยะสั้นหรือไม่
“ตอนนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการ ต้องใช้เวลาดูประมาณ 2 เดือน ซึ่งตอนนี้ผมว่า เขาดูทุกอย่างและพยายามดำเนินการด้วยความนิ่มนวลอยู่แล้ว” นายสมัคร กล่าว
เมื่อต้นสัปดาห์นี้ นายแพทย์สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเผยหลังหารือกับผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุว่า การตัดสินใจเรื่องนี้จะชัดเจนก่อนการจัดโรดโชว์ในช่วงเดือน มี.ค.-เม.ย.นี้
ทั้งนี้ ธปท.ได้ประกาศใช้มาตรการกันสำรอง 30% มาตั้งแต่ปลายปี 2549 เพื่อสกัดกั้นเงินทุนระยะสั้นต่างประเทศที่เข้ามาเก็งกำไรเงินบาท และเพื่อชะลอการแข็งขึ้นอย่างรวดเร็วของเงินบาทเมื่อเทียบกับสกุลอื่นๆ
มีรายงานข่าวเพิ่มเข้ามาว่า นายทนง พิทยะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้เดินทางมาที่กระทรวงการคลัง เพื่อเข้าพบกับ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ขณะที่ รมว.คลัง อยู่ระหว่างการเตรียมยกร่างมาตรการชุดใหญ่เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมทั้งพิจารณาแนวทางการยกเลิกมาตรกการสำรอง 30% เงินทุนนำเข้าระยะสั้น และการเตรียมแผนงานเพื่อเดินทางไปโรดโชว์ที่ประเทศญี่ปุ่นเป็นชาติแรก โดยก่อนหน้านี้ นายทนง เป็นบุคคลหนึ่งที่ นพ.สุรพงษ์ ระบุว่าต้องการขอคำปรึกษาเกี่ยวกับงานด้านต่างๆ
ล่าสุด นายทนง ได้เปิดเผยภายหลังการหารือ โดยระบุว่า นักลงทุนญี่ปุ่นไม่ได้กังวลมาตรการกันสำรอง 30% มากนัก แต่กังวลเรื่อง พ.ร.บ.ประกอบธุรกิจต่างด้าว จึงอยากที่จะให้รัฐบาลมีความชัดเจนในเรื่องนี้โดยเร็ว เพราะนักลงทุนญี่ปุ่นจะได้มีความเชื่อมั่นและกลับเข้ามาลงทุนในประเทศเหมือนเดิม
นายทนง กล่าวอีกว่า ในวันนี้ ตนเองแค่เดินทางมาแสดงความยินดีกับ น.พ.สุรพงษ์ และร่วมรับประทานอาหาร พร้อมกับชี้แจงถึงการทำงานของตนในช่วงที่อยู่ในตำแหน่งว่าเป็นอย่างไร โดยปฎิเสธว่า ไม่ได้มีการหารือถึงสถานการณ์อัตราแลกเปลี่ยน และมาตรการกันสำรอง 30% แต่อย่างใด
