ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ซื้อธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์ของ จีอี มันนี่ ประเทศไทย มูลค่า 16,180 ล้านบาท เสร็จสมบูรณ์ ดันพอร์ตสินเชื่อธนาคารโตขึ้น 18% พร้อมก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์ในประเทศ
หลังจากที่ได้มีการลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้น เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2551 ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) แถลงว่า ในวันนี้ธนาคารได้เข้าถือหุ้นทั้งหมดของบริษัท จีอี แคปปิตอล ออโต ลีส จำกัด (มหาชน) (GECAL) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ จีอี มันนี่ ประเทศไทย เป็นที่เรียบร้อยแล้ว การลงทุนครั้งนี้มีมูลค่า 16,180 ล้านบาท และธนาคารได้รับโอนสินทรัพย์จำนวน 80,300 ล้านบาท จากการเข้าถือหุ้นดังกล่าว
GECAL เป็นผู้ให้บริการสินเชื่อรถยนต์รายใหญ่อันดับสองในประเทศไทย มีสินทรัพย์รวมจำนวน 80,300 ล้านบาท เงินให้สินเชื่อรวมจำนวน 79,300 ล้านบาท การเข้าซื้อกิจการ GECAL ถือเป็นการผนึกความแข็งแกร่งของทั้งสองบริษัทเข้าด้วยกัน เพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงบริการสินเชื่อรถยนต์แบบครบวงจรได้สะดวกยิ่งขึ้น โดยการเข้าซื้อครั้งนี้ส่งผลให้พอร์ตสินเชื่อของธนาคารเติบโตขึ้นทันทีประมาณ 18%
นาย ตัน คอง คูน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา กล่าวว่า ธนาคารรู้สึกยินดีที่ประสบผลสำเร็จในการเข้าซื้อกิจการ GECAL ครั้งนี้ เพราะทำให้ธนาคารเข้ามาบทบาทในตลาดเช่าซื้อรถยนต์ ซึ่งมีศักยภาพการเติบโตสูง และธุรกิจ GECAL ซึ่งมีส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยในระดับที่สูงกว่าก็จะช่วยให้ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยของธนาคารปรับตัวสูงขึ้นจากปัจจุบัน ขณะเดียวกัน ยังทำให้ธนาคารให้บริการทางการเงินที่หลากหลายยิ่งขึ้นแก่ลูกค้าบุคคลได้อย่างครบวงจร และเบ็ดเสร็จในจุดเดียว ลูกค้าเองก็สามารถเข้าถึงบริการสินเชื่อรถยนต์ของธนาคารได้ง่ายขึ้น ผ่านทางเครือข่ายสาขาของธนาคารที่มีเกือบ 570 แห่งทั่วประเทศ ความสำเร็จครั้งนี้ช่วยผลักดันให้ธุรกิจลูกค้าบุคคลของธนาคารเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว และยังเสริมสถานะความเป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจธนาคารให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น อีกทั้งยังนำเราเข้าใกล้เป้าหมายที่จะเป็นธนาคารที่ได้รับความชื่นชมมากที่สุดในประเทศไทยด้วย
นายพิริยะ วิเศษจินดา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท จีอี มันนี่ ประเทศไทย กล่าวว่า ศักยภาพในการทำธุรกิจของ GECAL จะมีมากยิ่งขึ้น เมื่อได้ผนึกรวมกับธนาคารกรุงศรีอยุธยา เพราะสามารถใช้ประโยชน์จากเครือข่ายสาขาของธนาคารได้อย่างเต็มที่ หลังจากนี้ จีอี มันนี่ ประเทศไทย จะมุ่งเน้นสร้างความเติบโตแบบก้าวกระโดด (Super-Growth Model) ซึ่งเป็นกลยุทธ์หลักในการขยายธุรกิจ โดยผ่านธุรกิจหลักที่มีอยู่ ซึ่งประกอบด้วย ธุรกิจบัตรเครดิต และสินเชื่อบุคคล รวมทั้งพัฒนาโอกาสการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจในภาคธุรกิจที่สำคัญ และผสานความร่วมมือทางธุรกิจกับธนาคารกรุงศรีอยุธยาในด้านอื่นๆ ต่อไป
หลังจากที่ได้มีการลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้น เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2551 ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) แถลงว่า ในวันนี้ธนาคารได้เข้าถือหุ้นทั้งหมดของบริษัท จีอี แคปปิตอล ออโต ลีส จำกัด (มหาชน) (GECAL) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ จีอี มันนี่ ประเทศไทย เป็นที่เรียบร้อยแล้ว การลงทุนครั้งนี้มีมูลค่า 16,180 ล้านบาท และธนาคารได้รับโอนสินทรัพย์จำนวน 80,300 ล้านบาท จากการเข้าถือหุ้นดังกล่าว
GECAL เป็นผู้ให้บริการสินเชื่อรถยนต์รายใหญ่อันดับสองในประเทศไทย มีสินทรัพย์รวมจำนวน 80,300 ล้านบาท เงินให้สินเชื่อรวมจำนวน 79,300 ล้านบาท การเข้าซื้อกิจการ GECAL ถือเป็นการผนึกความแข็งแกร่งของทั้งสองบริษัทเข้าด้วยกัน เพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงบริการสินเชื่อรถยนต์แบบครบวงจรได้สะดวกยิ่งขึ้น โดยการเข้าซื้อครั้งนี้ส่งผลให้พอร์ตสินเชื่อของธนาคารเติบโตขึ้นทันทีประมาณ 18%
นาย ตัน คอง คูน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา กล่าวว่า ธนาคารรู้สึกยินดีที่ประสบผลสำเร็จในการเข้าซื้อกิจการ GECAL ครั้งนี้ เพราะทำให้ธนาคารเข้ามาบทบาทในตลาดเช่าซื้อรถยนต์ ซึ่งมีศักยภาพการเติบโตสูง และธุรกิจ GECAL ซึ่งมีส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยในระดับที่สูงกว่าก็จะช่วยให้ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยของธนาคารปรับตัวสูงขึ้นจากปัจจุบัน ขณะเดียวกัน ยังทำให้ธนาคารให้บริการทางการเงินที่หลากหลายยิ่งขึ้นแก่ลูกค้าบุคคลได้อย่างครบวงจร และเบ็ดเสร็จในจุดเดียว ลูกค้าเองก็สามารถเข้าถึงบริการสินเชื่อรถยนต์ของธนาคารได้ง่ายขึ้น ผ่านทางเครือข่ายสาขาของธนาคารที่มีเกือบ 570 แห่งทั่วประเทศ ความสำเร็จครั้งนี้ช่วยผลักดันให้ธุรกิจลูกค้าบุคคลของธนาคารเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว และยังเสริมสถานะความเป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจธนาคารให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น อีกทั้งยังนำเราเข้าใกล้เป้าหมายที่จะเป็นธนาคารที่ได้รับความชื่นชมมากที่สุดในประเทศไทยด้วย
นายพิริยะ วิเศษจินดา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท จีอี มันนี่ ประเทศไทย กล่าวว่า ศักยภาพในการทำธุรกิจของ GECAL จะมีมากยิ่งขึ้น เมื่อได้ผนึกรวมกับธนาคารกรุงศรีอยุธยา เพราะสามารถใช้ประโยชน์จากเครือข่ายสาขาของธนาคารได้อย่างเต็มที่ หลังจากนี้ จีอี มันนี่ ประเทศไทย จะมุ่งเน้นสร้างความเติบโตแบบก้าวกระโดด (Super-Growth Model) ซึ่งเป็นกลยุทธ์หลักในการขยายธุรกิจ โดยผ่านธุรกิจหลักที่มีอยู่ ซึ่งประกอบด้วย ธุรกิจบัตรเครดิต และสินเชื่อบุคคล รวมทั้งพัฒนาโอกาสการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจในภาคธุรกิจที่สำคัญ และผสานความร่วมมือทางธุรกิจกับธนาคารกรุงศรีอยุธยาในด้านอื่นๆ ต่อไป