ศูนย์วิจัยกสิกรฯ คาดวาเลนไทน์ปีนี้ มีเม็ดเงินสะพัดใน กทม. ประมาณ 970 ล้านบาท ลดลง 3% เนื่องจากภาวะศก.ซบเซา ขณะที่พ่อค้าแม่ค้า ต่างคาดหวังต่อยอดขาย ส่วนพฤติกรรมวัยโจ๋ หันลดเข็มขัดมากขึ้น เน้นบอกรักผ่านสื่อ ออนไลน์ ส่วนธุรกิจม่านรูด คาดคึกคักเหมือนเดิม
วันนี้(8 ก.พ.) บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด เปิดเผยรายงานภาวะธุรกิจช่วงวันวาเลนไทน์ 14 ก.พ.นี้ คาดว่าจะไม่คึกคักมากนัก เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ยังซบเซา และราคาน้ำมันที่ยังอยู่ในเกณฑ์สูง ทำให้ผู้บริโภค อาจมีการปรับลดการจับจ่ายใช้สอยลงในช่วงที่ผ่านมา
สำหรับภาคธุรกิจแล้ว ช่วงนี้ ถือเป็นโอกาสทองที่จะเร่งยอดขายสินค้า ดังนั้นจึงเห็นว่า บรรดาธุรกิจต่างๆ เริ่มมีการโหมโรงกระตุ้นผู้บริโภคให้มีการจับจ่ายใช้สอยตั้งแต่ช่วงต้นเดือน ก.พ.โดยโยงทั้งตรุษจีนและเทศกาลวาเลนไทน์มาร่วมเป็นกิจกรรมทางการตลาดต่อเนื่องกัน เนื่องจากในปี 2551 นี้ วันตรุษจีนนั้นตรงกับวันที่ 7 ก.พ. ซึ่งอยู่ใกล้กับวันวาเลนไทน์ที่ตรงกับวันที่ 14 ก.พ.
บรรดาผู้ประกอบการต่างหวังเม็ดเงินที่จะสะพัดต่อเนื่องในช่วงตรุษจีนและเทศกาลวาเลนไทน์นี้ มาช่วยให้กิจการกระเตื้องขึ้น เนื่องจากราคาน้ำมันที่ยังอยู่ในเกณฑ์สูงส่งผลต่อต้นทุนการผลิตสินค้าและบริการหลากหลายประเภท ทำให้สินค้าและบริการต่างมีแนวโน้มปรับราคาสูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค ทำให้ผู้บริโภคยังคงเน้นประหยัดไม่จับจ่ายใช้สอยฟุ่มเฟือย บรรดาผู้ประกอบการในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเทศกาลวาเลนไทน์ต่างเร่งปรับกลยุทธ์เพื่อหวังเม็ดเงินมาประคองธุรกิจให้ฝ่าฟันกับหลากปัจจัยลบในปีนี้
สำหรับในส่วนของประชาชน บรรดาผู้ที่ให้ความสำคัญกับเทศกาลวาเลนไทน์ ต่างนัดหมายกันไปจับจ่ายซื้อของกันล่วงหน้า สินค้ายอดฮิตที่จะมีการมอบให้กันในวันวาเลนไทน์นั้นยังคงเป็นดอกกุหลาบ โดยเฉพาะดอกกุหลาบสีแดงและสีขาว
ศูนย์วิจัยกสิกรฯ คาดหมายว่า ราคาดอกกุหลาบในปีนี้จะใกล้เคียงกับในปีที่ผ่านมา ซึ่งนับว่าราคาไม่แพงมากนัก เนื่องจากปริมาณกุหลาบในประเทศมีปริมาณมากเพียงพอกับความต้องการ และกุหลาบนำเข้าก็มีกุหลาบจากจีนมาทดแทนกุหลาบจากเนเธอร์แลนด์ ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้ยอดจำหน่ายดอกกุหลาบในปีนี้เพิ่มขึ้น
ดังนั้นในช่วงวันวาเลนไทน์กิจการร้านจัดดอกไม้ เกษตรกรและผู้ค้าดอกไม้ต่างได้รับประโยชน์จากเงินสะพัดกันถ้วนหน้า อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาโดยรวมแล้ว คาดว่าในปี 2551 นี้ เงินสะพัดทั่วกรุงเทพฯ ในช่วงวันวาเลนไทน์ จะอยู่ที่ประมาณ 970 ล้านบาท ลดลงประมาณ 3% จากปีก่อนหน้า อันเป็นผลเนื่องมาจากภาวะเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ กิจกรรมยอดฮิตในช่วงวันวาเลนไทน์ คือ การบอกรักผ่านกามเทพไฮเทคต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์มือถือ อินเทอร์เน็ตโดยการฝากข้อความ รูปภาพ เสียงเพลง การส่งการ์ดออนไลน์ และการสั่งดอกไม้ออนไลน์ ซึ่งได้รับความนิยมมากขึ้นตามลำดับ คาดว่าในช่วงวันวาเลนไทน์ มีเม็ดเงินสะพัดในธุรกิจเหล่านี้ไม่น้อยทีเดียว
นอกจากนี้กิจกรรม 5 อันดับแรกที่นิยมทำในวันวาเลนไทน์ คือ การออกไปรับประทานอาหารนอกบ้าน โทรศัพท์คุยกันเป็นกรณีพิเศษ ดูภาพยนตร์ ส่งข้อความและรูปภาพผ่านโทรศัพท์มือถือ และช็อปปิ้ง ซึ่งหลากหลายกิจกรรมเหล่านี้ก่อให้เกิดเม็ดเงินสะพัดในหลากหลายธุรกิจเช่นกัน
สำหรับธุรกิจนอกระบบ ที่คาดว่าจะมีความคึกคัก แต่ไม่สามารถสำรวจทำผลวิจัยได้ คือ โรงแรมม่านรูด ซึ่งคาดว่าจะมีการใช้บริการคึกคักเหมือนกับทุกปี
