ตลาดหุ้นไทยวันนี้เริ่มพักฐาน ดัชนีแกว่งตัวจากแรงขายทำกำไร ช่วงนี้ ไร้ปัจจัยบวกหนุน ขณะที่ต่างชาติยังคงโยกเม็ดเงินเข้าพักในตลาดหุ้นกว่า 2 พันล้าน แนวโน้มพรุ่งนี้คาดแกว่งในกรอบ 800-820 จุด
ภาวะการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย วันนี้(5 ก.พ.) ดัชนีปิดตลาดช่วงบ่ายที่ระดับ 807.68 จุด ลดลง 3.88 จุด เปลี่ยนแปลง -0.48% มูลค่าการซื้อขาย 21,504 ล้านบาท หลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 160 หลักทรัพย์ ลดลง 156 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 121 หลักทรัพย์
โดยบรรยากาศในกาซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีเคลื่อนกรอบแคบสลับบวกและลบตลอดวัน โดยขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 815.56 จุด ส่วนดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 804.47 จุด
สำหรับสัดส่วนการลงทุนวันนี้ นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 2,718.53 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 2,000.70 ล้านบาท และนักลงทุนรายย่อยขายสุทธิ 717.83 ล้านบาท
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยวันนี้แกว่งตัวยืนอยู่ในแดนลบ ตามทิศทางดัชนี ดาวโจนส์ที่ปิดลดลง 108.03 จุด นักวิเคราะห์ปรับลดคำแนะนำลงทุนในหุ้นกลุ่มสถาบันการเงินลง ซึ่งสะท้อนให้ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ภูมิภาคเอเชีย รวมถึงตลาดหลักทรัพย์ไทยเคลื่อนไหวทิศทางเดียวกัน โดยในส่วนดัชนีนิกเกอิ ปิดลบ 114.20 จุด และดัชนี ฮั่งเส็ง ปิดลบ 223.38 จุด
นอกจากนี้ แรงเทขายทำกำไรที่เริ่มทยอยออกมาอย่างต่อเนื่อง หลังจาก 2-3 วันทำการที่ผ่านมา ดัชนีปรับเพิ่มขึ้นจากทุนต่างชาติ โดยไม่มีปัจจัยหนุนที่ชัดเจน ประกอบกับแรงซื้อที่เริ่มเบาบาง จากการที่นักลงทุนชะลอลงทุนในช่วงเทศกาลตรุษจีน ก็ฉุดให้บรรยากาศการลงทุนในตลาด
นายอภิสิทธิ์ ลิมป์ธำรงกุล รองผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เกียรตินาคิน กล่าวว่า ตลาดหุ้นวันนี้แกว่งตัว รอปัจจัยบวกใหม่ๆ อีกครั้ง หลังจากที่หุ้นขึ้นไปเมื่อสัปดาห์ก่อน
"วันนี้เป็นแกว่งตัวจากแรง take profit รอปัจจัยใหม่จากต่างประเทศ เพราะตลาดได้ปรับขึ้นรับเรื่องลดดอกเบี้ยไปแล้ว" นายอภิสิทธิ์ กล่าว
ทิศทางพรุ่งนี้ยังแกว่งตัวในกรอบประมาณ 800-820 จุด ช่วงนี้ wait and see เพราะหุ้นขึ้นมา 60 กว่าจุดแล้วยังคงไม่ไปไหนไกลในช่วงนี้
นายสุกิจ อุดมศิริกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานวิจัย บล.นครหลวงไทย กล่าวว่า ตลาดเริ่มปรับฐานเพราะหุ้นขึ้นแรงแล้วต้องหยุดพักบ้าง ช่วงนี้ตลาดน่าจะเริ่มกลับมามองเรื่องผลประกอบ หุ้นที่ผลประกอบการดีๆ หรือหุ้นปันผลสูงน่าจะได้ประโยนช์ ทิศทางพรุ่งนี้คล้ายวันนี้ ตลาดเริ่มแกว่งตัวออกด้านข้าง
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 ลำดับ ได้แก่ SCB มูลค่าการซื้อขาย 3,478.33 ล้านบาท ปิดที่ 86.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท , PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,563.46 ล้านบาท ปิดที่ 326.00 บาท ลดลง 2.00 บาท , BANPU มูลค่าการซื้อขาย 911.80 ล้านบาท ปิดที่ 444.00 บาท ลดลง 12.00 บาท , KBANK มูลค่าการซื้อขาย 899.62 ล้านบาท ปิดที่ 87.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท , PTTAR มูลค่าการซื้อขาย 875.53 ล้านบาท ปิดที่ 39.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
ภาวะการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย วันนี้(5 ก.พ.) ดัชนีปิดตลาดช่วงบ่ายที่ระดับ 807.68 จุด ลดลง 3.88 จุด เปลี่ยนแปลง -0.48% มูลค่าการซื้อขาย 21,504 ล้านบาท หลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 160 หลักทรัพย์ ลดลง 156 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 121 หลักทรัพย์
โดยบรรยากาศในกาซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีเคลื่อนกรอบแคบสลับบวกและลบตลอดวัน โดยขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 815.56 จุด ส่วนดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 804.47 จุด
สำหรับสัดส่วนการลงทุนวันนี้ นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 2,718.53 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 2,000.70 ล้านบาท และนักลงทุนรายย่อยขายสุทธิ 717.83 ล้านบาท
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยวันนี้แกว่งตัวยืนอยู่ในแดนลบ ตามทิศทางดัชนี ดาวโจนส์ที่ปิดลดลง 108.03 จุด นักวิเคราะห์ปรับลดคำแนะนำลงทุนในหุ้นกลุ่มสถาบันการเงินลง ซึ่งสะท้อนให้ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ภูมิภาคเอเชีย รวมถึงตลาดหลักทรัพย์ไทยเคลื่อนไหวทิศทางเดียวกัน โดยในส่วนดัชนีนิกเกอิ ปิดลบ 114.20 จุด และดัชนี ฮั่งเส็ง ปิดลบ 223.38 จุด
นอกจากนี้ แรงเทขายทำกำไรที่เริ่มทยอยออกมาอย่างต่อเนื่อง หลังจาก 2-3 วันทำการที่ผ่านมา ดัชนีปรับเพิ่มขึ้นจากทุนต่างชาติ โดยไม่มีปัจจัยหนุนที่ชัดเจน ประกอบกับแรงซื้อที่เริ่มเบาบาง จากการที่นักลงทุนชะลอลงทุนในช่วงเทศกาลตรุษจีน ก็ฉุดให้บรรยากาศการลงทุนในตลาด
นายอภิสิทธิ์ ลิมป์ธำรงกุล รองผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เกียรตินาคิน กล่าวว่า ตลาดหุ้นวันนี้แกว่งตัว รอปัจจัยบวกใหม่ๆ อีกครั้ง หลังจากที่หุ้นขึ้นไปเมื่อสัปดาห์ก่อน
"วันนี้เป็นแกว่งตัวจากแรง take profit รอปัจจัยใหม่จากต่างประเทศ เพราะตลาดได้ปรับขึ้นรับเรื่องลดดอกเบี้ยไปแล้ว" นายอภิสิทธิ์ กล่าว
ทิศทางพรุ่งนี้ยังแกว่งตัวในกรอบประมาณ 800-820 จุด ช่วงนี้ wait and see เพราะหุ้นขึ้นมา 60 กว่าจุดแล้วยังคงไม่ไปไหนไกลในช่วงนี้
นายสุกิจ อุดมศิริกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานวิจัย บล.นครหลวงไทย กล่าวว่า ตลาดเริ่มปรับฐานเพราะหุ้นขึ้นแรงแล้วต้องหยุดพักบ้าง ช่วงนี้ตลาดน่าจะเริ่มกลับมามองเรื่องผลประกอบ หุ้นที่ผลประกอบการดีๆ หรือหุ้นปันผลสูงน่าจะได้ประโยนช์ ทิศทางพรุ่งนี้คล้ายวันนี้ ตลาดเริ่มแกว่งตัวออกด้านข้าง
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 ลำดับ ได้แก่ SCB มูลค่าการซื้อขาย 3,478.33 ล้านบาท ปิดที่ 86.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท , PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,563.46 ล้านบาท ปิดที่ 326.00 บาท ลดลง 2.00 บาท , BANPU มูลค่าการซื้อขาย 911.80 ล้านบาท ปิดที่ 444.00 บาท ลดลง 12.00 บาท , KBANK มูลค่าการซื้อขาย 899.62 ล้านบาท ปิดที่ 87.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท , PTTAR มูลค่าการซื้อขาย 875.53 ล้านบาท ปิดที่ 39.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง