ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้น แนวเดียวกับตลาดต่างประเทศ คาดรับเม็ดเงินทุนไหลเข้ามากขึ้น ตามที่คาดการณ์ หลังอัตราผลตอบแทนจากตลาดเงินลดลงมาก เหตุเฟดลดดอกเบี้ย 2 ครั้ง ภาพโดยรวมจากสถานการณ์นอกประเทศ ยังไม่น่าวางใจ ส่วนการเมืองไทย เชื่อว่าไม่มีผลมากนัก จนกว่าจะเป็นรูปธรรมที่ชัดเจน สำหรับแนวโน้มสัปดาห์หน้า ภาพรวมยังเป็นบวก หากแบงก์ชาติไม่มีมาตรการสกัดความร้อนแรงในการเก็งกำไร
ภาวะการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย วันนี้(1 ก.พ.) ดัชนีปิดตลาดช่วงบ่ายที่ระดับ 810.86 จุด เพิ่มขึ้น 26.63 จุด เปลี่ยนแปลง +3.40% มูลค่าการซื้อขาย 42,227.91 ล้านบาท โดยบรรยากาศในการซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยพุ่งแรงตั้งแต่เปิดเทรดในช่วงเช้า ต่อเนื่องภาคบ่ายปรับบวกขึ้นได้กว่า 3% ดัชนีแตะจุดสูงสุดที่ระดับ 811.39 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ 794.36 จุด
สำหรับสัดส่วนการลงทุนในวันนี้ นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 8,202.95 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 1,485.91 ล้านบาท และนักลงทุนรายย่อยขายสุทธิ 6,717.05 ล้านบาท ด้านหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 313 หลักทรัพย์ ลดลง 65 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 73 หลักทรัพย์
นักวิเคราะห์เผย ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นตามคาดการณ์ และมีทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในต่างประเทศ ทั้งสหรัฐ ยุโรป และเอเชีย โดยเป็นผลจากการที่รัฐบาลสหรัฐปรับลดดอกเบี้ย ส่งผลให้นักลงทุนโยกเงินออกจากตลาดการเงิน และเข้ามาเก็งกำไรในตลาดหุ้นมากขึ้น ผลจาอัตราผลตอบแทนจากตลาดเงินขณะนี้ ลดลงมามาก
สำหรับปัจจัยภายในประเทศ ยังไม่มีอะไรเด่นๆ ที่เข้ามาหนุน มองว่าโผ ครม.ที่ออกมา ไม่มีผลต่อการลงทุนในช่วง 1-2 วันนี้ คงต้องรอดูทีมเศรษฐกิจที่เข้ามาแก้ไขปัญหา การวางนโยบายที่ชัดเจนเป็นรูปธรรม และวางรากฐานความแข็งแกร่งให้เศรษฐกิจได้ตริง ในระยะยาว
อย่างไรก็ตาม ตรงนี้ก็ยังไม่สามารถละเลยความเสี่ยงจากปัจจัยภายนอกได้ เพราะการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด หรือว่ามีมาตรการกระตุ้น 1.5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ของประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช ไม่ได้เป็นหลักประกันว่า ปัญหาของสหรัฐอเมริกาจะถึงจุดต่ำสุดแล้ว หรือจะมีผลในเชิงปฏิบัติไปในทางที่ดีอย่างมาก ตรงนี้คงจะต้องรอดูไปอีกระยะหนึ่งก่อน
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้านั้น ภาพรวมยังเป็นบวก พร้อมให้แนวรับ 790-800 จุด ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 820 จุด โดยมีกรอบสวิงบวกลบประมาณ 5 จุด
หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 ลำดับ ได้แก่ PTT มูลค่าการซื้อขาย 4,080.75 ล้านบาท ปิดที่ 338.00 บาท เพิ่มขึ้น 12.00 บาท , SCB มูลค่าการซื้อขาย 3,730.76 ล้านบาท ปิดที่ 82.00 บาท เพิ่มขึ้น 6.00 บาท ล PTTAR มูลค่าการซื้อขาย 2,826.72 ล้านบาท ปิดที่ 39.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท , BANPU มูลค่าการซื้อขาย 1,900.07 ล้านบาท ปิดที่ 424.00 บาท ลดลง 8.00 บาท , PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,290.44 ล้านบาท ปิดที่ 152.00 บาท เพิ่มขึ้น 5.00 บาท
ภาวะการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย วันนี้(1 ก.พ.) ดัชนีปิดตลาดช่วงบ่ายที่ระดับ 810.86 จุด เพิ่มขึ้น 26.63 จุด เปลี่ยนแปลง +3.40% มูลค่าการซื้อขาย 42,227.91 ล้านบาท โดยบรรยากาศในการซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยพุ่งแรงตั้งแต่เปิดเทรดในช่วงเช้า ต่อเนื่องภาคบ่ายปรับบวกขึ้นได้กว่า 3% ดัชนีแตะจุดสูงสุดที่ระดับ 811.39 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ 794.36 จุด
สำหรับสัดส่วนการลงทุนในวันนี้ นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 8,202.95 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 1,485.91 ล้านบาท และนักลงทุนรายย่อยขายสุทธิ 6,717.05 ล้านบาท ด้านหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 313 หลักทรัพย์ ลดลง 65 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 73 หลักทรัพย์
นักวิเคราะห์เผย ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นตามคาดการณ์ และมีทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในต่างประเทศ ทั้งสหรัฐ ยุโรป และเอเชีย โดยเป็นผลจากการที่รัฐบาลสหรัฐปรับลดดอกเบี้ย ส่งผลให้นักลงทุนโยกเงินออกจากตลาดการเงิน และเข้ามาเก็งกำไรในตลาดหุ้นมากขึ้น ผลจาอัตราผลตอบแทนจากตลาดเงินขณะนี้ ลดลงมามาก
สำหรับปัจจัยภายในประเทศ ยังไม่มีอะไรเด่นๆ ที่เข้ามาหนุน มองว่าโผ ครม.ที่ออกมา ไม่มีผลต่อการลงทุนในช่วง 1-2 วันนี้ คงต้องรอดูทีมเศรษฐกิจที่เข้ามาแก้ไขปัญหา การวางนโยบายที่ชัดเจนเป็นรูปธรรม และวางรากฐานความแข็งแกร่งให้เศรษฐกิจได้ตริง ในระยะยาว
อย่างไรก็ตาม ตรงนี้ก็ยังไม่สามารถละเลยความเสี่ยงจากปัจจัยภายนอกได้ เพราะการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด หรือว่ามีมาตรการกระตุ้น 1.5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ของประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช ไม่ได้เป็นหลักประกันว่า ปัญหาของสหรัฐอเมริกาจะถึงจุดต่ำสุดแล้ว หรือจะมีผลในเชิงปฏิบัติไปในทางที่ดีอย่างมาก ตรงนี้คงจะต้องรอดูไปอีกระยะหนึ่งก่อน
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้านั้น ภาพรวมยังเป็นบวก พร้อมให้แนวรับ 790-800 จุด ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 820 จุด โดยมีกรอบสวิงบวกลบประมาณ 5 จุด
หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 ลำดับ ได้แก่ PTT มูลค่าการซื้อขาย 4,080.75 ล้านบาท ปิดที่ 338.00 บาท เพิ่มขึ้น 12.00 บาท , SCB มูลค่าการซื้อขาย 3,730.76 ล้านบาท ปิดที่ 82.00 บาท เพิ่มขึ้น 6.00 บาท ล PTTAR มูลค่าการซื้อขาย 2,826.72 ล้านบาท ปิดที่ 39.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท , BANPU มูลค่าการซื้อขาย 1,900.07 ล้านบาท ปิดที่ 424.00 บาท ลดลง 8.00 บาท , PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,290.44 ล้านบาท ปิดที่ 152.00 บาท เพิ่มขึ้น 5.00 บาท