ภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ พุ่งขึ้นแรง รับอานิสสงค์เม็ดเงินต่างชาติทะลักเข้าเอเชีย หลังเฟดลดดอกเบี้ย 0.5% ส่งผลต่างดอลลาร์อ่อน ต่างชาติโยกเงินเก็งกำไรกันจ้าละหวั่น ส่วนความคืบหน้าด้านการเมือง มีผลเล็กน้อย ประเมิน ครม.ทีมเศรษฐกิจ เป็นการแบ่งเค้ก มากกว่าต้องการเข้ามาแก้ไขปัญหา สำหรับแนวโน้มพรุ่งนี้ คาดเม็ดเงินยังทะลักต่อ ดัชนีหุ้นไทยและย่านเอเชีย ยังมีโอกาสปรับขึ้นต่อ มองแนวรับที่ 780 จุด แนวต้าน 800 จุด
ภาวะการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย วันนี้(31 ม.ค.) ดัชนีปิดตลาดช่วงบ่ายที่ระดับ 784.23 จุด เพิ่มขึ้น 20.75 จุด เปลี่ยนแปลง +2.72% มูลค่าการซื้อขาย 33,868.05 ล้านบาท โดยบรรยากาศในการซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งแดนบวกและลบในช่วงเช้า แต่พอช่วงบ่ายดัชนีกลับพุ่งแรงกว่า 3% โดยแตะจุดสูงสุดที่ระดับ 787.74 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 760.75 จุด
หลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 264 หลักทรัพย์ ลดลง 73 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 106 หลักทรัพย์ สำหรับสัดส่วนการลงทุน วันนี้ นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 3,778.33 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 178.08 ล้านบาท และนักลงทุนรายย่อยขายสุทธิ 3,956.41 ล้านบาท
นักวิเคราะห์ชี้ ตลาดหุ้นไทยวันนี้พุ่งขึ้นแรง ด้วยวอลุ่มเทรดที่เข้ามาอย่างหนาแน่น เป็นการโยกเม็ดเงินของนักลงทุนต่างชาติ หลังธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ปรับลดดอกเบี้ย 0.50% ส่งผลให้เงินดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลัก นักลงทุนจึงต้องย้ายเงินเข้ามาหาผลตอบแทนที่สูงกว่าในตลาดหุ้นย่านเอเชีย รวมถึงตลาดหุ้นไทย และคาดว่าจะต่อเนื่องอีก 1-2 วัน แต่จะอยู่นานแค่ไหน คงต้องจับตาภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐเป็นหลัก
ส่วนความคืบหน้าด้านการเมือง เชื่อว่าอาจมีผลเล็กน้อย โดยประเมินว่า โผคณะรัฐมนตรี(ครม.) ที่มีรายชื่อทีมเศรษฐกิจ และการจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรี เป็นแค่การแบ่งเค้กของพรรคจัดตั้งรัฐบาล โดยไม่ได้มีการวางเป้าหมายหลักที่หน้างาน คือ การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ที่กำลังวิกฤติอยู่ในขณะนี้ โดยเฉพาะปัญหาค่าเงินบาท และปัญหาค่าครองชีพ
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้(1 ก.พ.) คาดว่า ตลาดหุ้นไทยน่าจะปรับตัวขึ้นได้ต่อเนื่องจากวันนี้ โดยมองแนวรับที่ 780 จุด แนวต้าน 800 จุด
หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 ลำดับ ได้แก่ PTT มูลค่าการซื้อขาย 4,535.41 ล้านบาท ปิดที่ 326.00 บาท เพิ่มขึ้น 14.00 บาท , SCB มูลค่าการซื้อขาย 3,373.33 ล้านบาท ปิดที่ 76.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท , PTTAR มูลค่าการซื้อขาย 2,278.07 ล้านบาท ปิดที่ 37.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท , BBL มูลค่าการซื้อขาย 1,711.67 ล้านบาท ปิดที่ 118.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท , PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,515.06 ล้านบาท ปิดที่ 147.00 บาท เพิ่มขึ้น 5.00 บาท
ภาวะการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย วันนี้(31 ม.ค.) ดัชนีปิดตลาดช่วงบ่ายที่ระดับ 784.23 จุด เพิ่มขึ้น 20.75 จุด เปลี่ยนแปลง +2.72% มูลค่าการซื้อขาย 33,868.05 ล้านบาท โดยบรรยากาศในการซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งแดนบวกและลบในช่วงเช้า แต่พอช่วงบ่ายดัชนีกลับพุ่งแรงกว่า 3% โดยแตะจุดสูงสุดที่ระดับ 787.74 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 760.75 จุด
หลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 264 หลักทรัพย์ ลดลง 73 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 106 หลักทรัพย์ สำหรับสัดส่วนการลงทุน วันนี้ นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 3,778.33 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 178.08 ล้านบาท และนักลงทุนรายย่อยขายสุทธิ 3,956.41 ล้านบาท
นักวิเคราะห์ชี้ ตลาดหุ้นไทยวันนี้พุ่งขึ้นแรง ด้วยวอลุ่มเทรดที่เข้ามาอย่างหนาแน่น เป็นการโยกเม็ดเงินของนักลงทุนต่างชาติ หลังธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ปรับลดดอกเบี้ย 0.50% ส่งผลให้เงินดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลัก นักลงทุนจึงต้องย้ายเงินเข้ามาหาผลตอบแทนที่สูงกว่าในตลาดหุ้นย่านเอเชีย รวมถึงตลาดหุ้นไทย และคาดว่าจะต่อเนื่องอีก 1-2 วัน แต่จะอยู่นานแค่ไหน คงต้องจับตาภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐเป็นหลัก
ส่วนความคืบหน้าด้านการเมือง เชื่อว่าอาจมีผลเล็กน้อย โดยประเมินว่า โผคณะรัฐมนตรี(ครม.) ที่มีรายชื่อทีมเศรษฐกิจ และการจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรี เป็นแค่การแบ่งเค้กของพรรคจัดตั้งรัฐบาล โดยไม่ได้มีการวางเป้าหมายหลักที่หน้างาน คือ การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ที่กำลังวิกฤติอยู่ในขณะนี้ โดยเฉพาะปัญหาค่าเงินบาท และปัญหาค่าครองชีพ
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้(1 ก.พ.) คาดว่า ตลาดหุ้นไทยน่าจะปรับตัวขึ้นได้ต่อเนื่องจากวันนี้ โดยมองแนวรับที่ 780 จุด แนวต้าน 800 จุด
หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 ลำดับ ได้แก่ PTT มูลค่าการซื้อขาย 4,535.41 ล้านบาท ปิดที่ 326.00 บาท เพิ่มขึ้น 14.00 บาท , SCB มูลค่าการซื้อขาย 3,373.33 ล้านบาท ปิดที่ 76.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท , PTTAR มูลค่าการซื้อขาย 2,278.07 ล้านบาท ปิดที่ 37.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท , BBL มูลค่าการซื้อขาย 1,711.67 ล้านบาท ปิดที่ 118.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท , PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,515.06 ล้านบาท ปิดที่ 147.00 บาท เพิ่มขึ้น 5.00 บาท
