xs
xsm
sm
md
lg

โบรกฯ ยี้ทีม ศก.รัฐบาลใหม่ “ปกรณ์” ไม่มั่นใจ “เลี้ยบ” นั่งขุนคลัง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


บล.ธนชาต ชี้โผรายชื่อทีมเศรษฐกิจรัฐบาลใหม่ ไม่มีน้ำยากระตุ้นภาคการลงทุน ขณะที่มีแรงกดดันจากต่างประเทศ คาดส่งผลต่างชาติยังเทขายต่อเนื่อง ขณะที่นักลงทุนสถาบัน ยังเป็นตัวประคองภาวะตลาดในช่วงนี้ ล่าสุด ปธ.ตลาดหุ้น แบ่งรับแบ่งสู้ “หมอเลี้ยบ” นั่งเก้าอี้ขุนคลัง ระบุแม้ไม่มีประสบการณ์ แต่ขอให้ตั้งใจเพื่อเข้ามาแก้ไขปัญหาจริงๆ ขณะที่ภาคธุรกิจเปิดฉากไล่บี้รัฐบาลใหม่ ต้องเร่งสร้างความเชื่อมั่น ย้ำนโยบายเศรษฐกิจต้องชัดเจน และรัฐมนตรีคลังต้องได้รับการยอมรับ

วันนี้ (21 ม.ค.) นายแสงธรรม จรณชัยกุล ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ธนชาต จำกัด กล่าวถึงภาวะตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ คาดว่าดัชนียังมีความผันผวนสูง โดยมีปัจจัยลบทั้งในประเทศ และต่างประเทศยังเป็นแรงกดดันที่สำคัญ แม้ว่าประเด็นการเมืองในประเทศที่มีความชัดเจนในการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ โดยมีกำหนดการเปิดประชุมสภาครั้งแรกในวันนี้ ซึ่งหลายคนเชื่อว่าน่าจะส่งผลดีต่อจิตวิทยาการลงทุน

นายแสงธรรม ประเมินว่า โผรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ที่คลอดออกมา โดยเฉพาะรายชื่อผู้มาดำรงตำแหน่งหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ อาจจะเป็นปัจจัยเสี่ยงที่กดดันบรรยากาศการลงทุน เพราะปรากฎรายชื่อของนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ ดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ ควบตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์

นอกจากนี้ ยังมีรายชื่อของนายแพทย์สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ที่จะมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ซึ่งมองว่ายังไม่ใช่บุคคลที่ตลาดทุนคาดหวัง และเชื่อมั่นในการเข้ามาบริหารงานด้านเศรษฐกิจให้มีประสิทธิภาพสูงสุดได้จริง จึงอาจมีแรงขายทำกำไรออกมา และฉุดให้ดัชนีหุ้นวันนี้มีโอกาสปรับลดลงได้ แต่เชื่อว่านักลงทุนสถาบันยังเป็นตัวประคองภาวะตลาดฯ

นอกจากนี้ ตลาดหุ้นต่างประเทศส่วนใหญ่ที่ปรับตัวลดลง โดยเฉพาะดัชนีดาวโจนส์ของตลาดหุ้นสหรัฐ ซึ่งปิดลบ 59.91 จุด จากความกังวลเศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวจากวิกฤตตลาดสินเชื่อ อาจทำให้นักลงทุนต่างชาติแ ละกองทุนมีแรงขายออกมาต่อเพื่อถือครองเงินสดลดความเสี่ยงจากการขาดสภาพคล่องจากปัญหาซับไพรม์ และทำให้ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียรวมถึงตลาดหุ้นไทย ถูกผลกระทบเชิงลบด้วย

ล่าสุด นายปกรณ์ มาลากุล ณ อยุธยา ประธานกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวถึงกระแสข่าวรายชื่อของ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ที่จะเข้ามานั่งตำแหน่ง รมว.คลังนั้น ก็เชื่อว่าคงเป็นบุคคลมีความรู้ความสามารถ

“แค่มีคุณสมบัติให้มีความตั้งใจจริงที่แก้ไขปัญหาบ้านเมือง มีสมอง และมีความคิด แม้ว่าจะไม่มีประสบการณ์ แต่ถ้ามีทีมงานที่ดีและเป็นที่ยอมรับผมก็เชื่อว่าจะสร้างความเชื่อมั่นได้”

นายปกรณ์ ยังคาดอีกว่า ตลาดหุ้นไทยจะปรับตัวดีขึ้นเนื่องจากความเชื่อมั่นการลงทุนกลับมา หลังการเมืองชัดเจน

“เรื่องการเมืองน่าจะสร้างความน่าเชื่อมั่นด้านจิตวิทยาการลงทุน ประกอบกับราคาหุ้นในตลาดหุ้นไทยปรับลดลงตั้งแต่ต้นปีในระดับที่พอสมควร และดัชนีหุ้นไทยปรับลดลงมา 8% เนื่องจากนักลงทุนต่างชาติเทขาย 2.8 หมื่นล้านบาท มาตั้งแต่ต้นปี 51 ถือว่าเข้าสู่จุดต่ำสด คิดว่าไม่น่าจะปรับลดลงอีกมากนัก”

**ภาคเอกชนจี้ติด สเป็กขุนคลัง-ฟื้นความเชื่อมั่น

นายประพัฒน์ โพธิวรคุณ อดีตประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวสัมมนา "วิกฤต หรือ โอกาส อุตสาหกรรมไทยปี 2008" จัดโดยโครงการบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยรามคำแหง ว่า สถานการณ์ทางเศรษฐกิจของไทยในปี "51 ยังต้องเผชิญกับปัญหาราคาน้ำมันแพง ค่าเงินบาทที่ผันผวนและคงไม่เห็นค่าเงินบาทกลับอ่อนค่าลงไปเหมือนในอดีต ดังนั้น ภาคเอกชนต้องเน้นทำประกันความเสี่ยง อย่าปล่อยให้ธุรกิจยืนอยู่บนความเสี่ยงของเงินบาทที่ผันผวน เพราะเศรษฐกิจสหรัฐยังมีปัญหา เงินบาทยังแข็งค่าในระดับปัจจุบัน 3-6 เดือน ขณะที่ปัจจัยอัตราดอกเบี้ยไม่น่ากระทบต่อภาคอุตสาหกรรมมากนัก ที่สำคัญนักลงทุนที่เข้ามาขยายกิจการลงทุนในระยะยาวต่างพอใจศักยภาพพื้นฐานเศรษฐกิจไทย

นายประพัฒน์ กล่าวว่า แม้จะมีปัญหาการเมืองสะดุดบ้าง แต่นักลงทุนเหล่านั้นทราบถึงการปกครองของไทยดี โดยเฉพาะญี่ปุ่น หรือตะวันตกที่เข้ามาลงทุนเป็นเวลานานและไม่สนใจด้วยว่านายกรัฐมนตรีจะเป็นนายสมัคร สุนทรเวช หรือไม่ เพราะยังมีการปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย แต่รมว.คลัง ต้องเป็นบุคคลที่สร้างความเชื่อมั่นให้กับต่างชาติ เพราะการดำเนินนโยบายทางการคลังถือว่ามีความสำคัญต่อเศรษฐกิจโดยรวม และมองว่าเมื่อต่างชาติยังสนใจเข้ามาลงทุนในประเทศจำนวนมาก แต่ทำไมนักลงทุนในประเทศไม่กล้าขยายการลงทุนในบ้านตัวเอง ซึ่งอาจเสียโอกาสในการทำธุรกิจได้และควรให้ความสำคัญใช้งบฝึกอบรมบุคลากรให้มีศักยภาพ ไม่ควรเป็นห่วงเกินไปว่าเมื่อฝึกให้มีความรู้เชี่ยวชาญแล้วแรงงานจะไม่อยู่ในบริษัทเดิม นั่นเป็นความคิดแบบเก่า เพราะหากมีแรงจูงใจที่ดีจากสถานประกอบการพนักงานคงไม่หนีไปไหน

นายบุญมา ชัยเสถียรทรัพย์ ผู้อำนวยการฝ่ายทรัพยากรบุคคลประจำประเทศไทย บริษัท ดีเอชแอล เอ็กเซล ซัพพลาย เชน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ค่าเฉลี่ยการขยายตัวเศรษฐกิจของประเทศเพื่อนบ้านในปี "50 อยู่ที่ประมาณ 5.7-6% แต่ไทยยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ย ซึ่งคาดกันว่าจะเติบโต 4% แต่ไทยยังมีโอกาสที่นักลงทุนเข้ามาลงทุน แต่สิ่งที่นักลงทุนต้องการคือความชัดเจนของนโยบายด้านเศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่ เพราะถือว่าเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญหากไม่ดำเนินการตามที่ประกาศไว้ ที่สำคัญการบริหารงานยุคใหม่ต้องใส่ใจเรื่องคุณธรรม ความโปร่งใส ไม่ใช่หวังผลกำไรเพียงอย่างเดียว เพราะจะสร้างชื่อเสียงให้กับองค์กรไปอีกนาน

นายสันติ วิลาสศักดานนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ให้สัมภาษณ์ถึงความเชื่อมั่นหลัง 6 พรรคการเมืองมีความชัดเจนในการจัดตั้งรัฐบาล ว่า ถือเป็นสัญญาณที่ดีต่อประเทศไทย ทั้งภาพความมั่นคงทางการเมือง เศรษฐกิจ ที่จะส่งผลให้นักลงทุนทั้งไทยและต่างชาติ รวมถึงประชาชนมีความเชื่อมั่นกลับคืนมา คาดหวังว่ารัฐบาลชุดนี้น่าจะมีความสมานฉันท์กัน แม้จะมาจากหลายพรรคการเมืองก็ตาม ทั้งนี้จากการพูดคุยกันภายในกลุ่มนักธุรกิจภาคอุตสาหกรรม และนายธนาคาร ต่างต้องการเห็นหน้าตาทีมเศรษฐกิจ โดยเฉพาะผู้ที่เข้ามาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ เพราะเป็นตัวสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบาย
กำลังโหลดความคิดเห็น