เครือเนชั่นฯ เร่งแสดงจุดยืนจรรยาบรรณสื่ออินเตอร์ฯ ยันไม่ทำรายการให้ "ทีพีบีเอส ทีวี" เลี่ยงถูกข้อครหาแอบงาบผลประโยชน์ทับซ้อน ขณะที่ "หย่อง" ยันขายทิ้งหุ้น "เนชั่นกรุ๊ป" กลับคืนบริษัทแล้ว
นายอดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เนชั่น บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า เครือเนชั่นฯ จะสนับสนุนการเกิดขึ้นของโทรทัศน์สาธารณะในประเทศไทยและในฐานะผู้ผลิตรายการ ขอแสดงจุดยืนเพื่อไม่ให้เกิดประเด็นข้อกล่าวหามีผลประโยชน์ทับซ้อน กับกรณีนายเทพชัย หย่อง บรรณาธิการอำนวยการเครือเนชั่นฯ ได้รับการแต่งตั้งจากคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 15 ม.ค.นี้ ให้เป็นกรรมการและรักษาการผู้อำนวยการชั่วคราวของสถานีโทรทัศน์สาธารณะ หรือทีพีบีเอส
นายอดิศักดิ์ กล่าวว่า นายเทพชัย ได้ลาออกจากการเป็นพนักงานและผู้บริหารเครือเนชั่นฯ และขายหุ้นที่ถือไว้ทั้งหมดแล้ว ตามพระราชบัญญัติองค์การกระจายเสียงและเผยแพร่สาธารณะแห่งประเทศไทย
แม้ว่านายเทพชัย ได้ยืนยันว่าการพิจารณารายการจากผู้ผลิตภายนอกจะดำเนินการอย่างโปร่งใสยึดแนวทางคัดเลือกจากรายการคุณภาพสอดคล้องกับเจตนารมณ์ของทีวีสาธารณะ โดยจะไม่ปิดโอกาสหรือเลือกปฏิบัติเอื้อประโยชน์ต่อผู้ผลิตรายใดรายหนึ่ง แม้กระทั่งเครือเนชั่น ก็ยังควรมีสิทธิ์เช่นเดียวกับผู้ผลิตรายการโทรทัศน์รายอื่นๆ
นายอดิศักดิ์ กล่าวอีกว่า เนชั่นบรอดแคสติ้งฯจะสนับสนุนและตรวจสอบการเกิดขึ้นของทีวีสาธารณะให้เป็นไปตามเจตนารมณ์เพื่อสาธารณะอย่างแท้จริงด้วยการเปิดเวทีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นจากทุกฝ่ายผ่าน Nation Channel ที่เป็นสถานีข่าว 24 ชั่วโมงแห่งแรกของประเทศไทยที่ออกอากาศมาเกือบ 8 ปีแล้ว และในฐานะ"สื่อมวลชนอิสระ"จะยังคงทำหน้าที่ตรวจสอบการทำงานของคณะกรรมการนโยบายชั่วคราวทีวีสาธารณะอย่างเข้มข้น เพื่อช่วยทำให้กระบวนการเปลี่ยนถ่ายจากทีไอทีวีมาเป็น Thai PBS ดำเนินไปอย่างโปร่งใสและสร้างการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนของสังคม
รวมทั้งช่วยตรวจสอบการแทรกแซงจากอำนาจรัฐและอำนาจทุนที่แม้พ.ร.บ.ฉบับนี้มีกลไกป้องกันไว้หลายทาง แต่ไม่อาจวางใจได้ว่ารัฐบาลชุดใหม่จะไม่เข้ามาแทรกแซงเช่นในอดีตที่เกิดขึ้นกับสถานีโทรทัสน์ไอทีวีที่มีการแทรกแซงจากอำนาจทุนและอำนาจรัฐจนเกิดปัญหาไม่สามารถทำงานได้ตามเจตนารมณ์ทีวีเสรีหลังเหตุการณ์เดือนพฤษภาคม 2535
"กระบวนการเกิดขึ้นของทีวีสาธารณะในประเทศไทยแห่งแรก ในนาม Thai PBSเป็นหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญในการปฏิรูปสื่อโทรทัศน์อย่างเป็นรูปธรรมและนำไปสู่การเกิดขึ้นของสื่อสาธารณะในรูปแบบอื่นๆที่จะมีผลต่อกระบวนการพัฒนาประชาธิปไตยของไทยภายใต้พรบ.ฉบับนี้ที่ไม่ได้จำกัดเฉพาะในบทเฉพาะกาลการเปลี่ยนทีไอทีวี เป็นทีวีสาธารณะเพียงช่องเดียว พรบ.ฉบับนี้ยังเปิดโอกาสให้เปิดวิทยุสาธารณะและสื่ออื่นๆภายใต้องค์การสื่อสาธารณะที่จะมีการจัดตั้งขึ้นใหม่"
สำหรับความคืบหน้าของการจัดตั้ง "ทีพีบีเอส ทีวี" หลังจากศาลปกครองกลางนัดไต่สวนฉุกเฉิน ในคำร้องที่ตัวแทนพนักงาน "ทีไอทีวี" ยื่นต่อศาลฯ ให้เพิกถอนคำสั่งของกรมประชาสัมพันธ์ ที่ให้ยุติการแพร่ภาพออกอากาศของสถานีวิทยุโทรทัศน์ระบบยูเอชเอฟหรือทีไอทีวีเมื่อวันที่ 15 ม.ค.ที่ผ่านมา
โดยล่าสุดวานนี้ ศาลปกครองนัดฟังคำสั่งว่าจะกำหนดมาตราการคุ้มครองชั่วคราวคดีที่พนักงานทีไอทีวี ฟ้องขอให้ยกเลิกคำสั่งกรมประชาสัมพันธ์ ที่ให้สถานีโทรทัศน์ทีไอทีวียุติการแพร่ภาพหรือไม่ ในวันนี้ โดยศาลจะแจ้งคำสั่งให้ทราบทางโทรสารช่วงเวลา 13.00 น.
นายอดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เนชั่น บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า เครือเนชั่นฯ จะสนับสนุนการเกิดขึ้นของโทรทัศน์สาธารณะในประเทศไทยและในฐานะผู้ผลิตรายการ ขอแสดงจุดยืนเพื่อไม่ให้เกิดประเด็นข้อกล่าวหามีผลประโยชน์ทับซ้อน กับกรณีนายเทพชัย หย่อง บรรณาธิการอำนวยการเครือเนชั่นฯ ได้รับการแต่งตั้งจากคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 15 ม.ค.นี้ ให้เป็นกรรมการและรักษาการผู้อำนวยการชั่วคราวของสถานีโทรทัศน์สาธารณะ หรือทีพีบีเอส
นายอดิศักดิ์ กล่าวว่า นายเทพชัย ได้ลาออกจากการเป็นพนักงานและผู้บริหารเครือเนชั่นฯ และขายหุ้นที่ถือไว้ทั้งหมดแล้ว ตามพระราชบัญญัติองค์การกระจายเสียงและเผยแพร่สาธารณะแห่งประเทศไทย
แม้ว่านายเทพชัย ได้ยืนยันว่าการพิจารณารายการจากผู้ผลิตภายนอกจะดำเนินการอย่างโปร่งใสยึดแนวทางคัดเลือกจากรายการคุณภาพสอดคล้องกับเจตนารมณ์ของทีวีสาธารณะ โดยจะไม่ปิดโอกาสหรือเลือกปฏิบัติเอื้อประโยชน์ต่อผู้ผลิตรายใดรายหนึ่ง แม้กระทั่งเครือเนชั่น ก็ยังควรมีสิทธิ์เช่นเดียวกับผู้ผลิตรายการโทรทัศน์รายอื่นๆ
นายอดิศักดิ์ กล่าวอีกว่า เนชั่นบรอดแคสติ้งฯจะสนับสนุนและตรวจสอบการเกิดขึ้นของทีวีสาธารณะให้เป็นไปตามเจตนารมณ์เพื่อสาธารณะอย่างแท้จริงด้วยการเปิดเวทีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นจากทุกฝ่ายผ่าน Nation Channel ที่เป็นสถานีข่าว 24 ชั่วโมงแห่งแรกของประเทศไทยที่ออกอากาศมาเกือบ 8 ปีแล้ว และในฐานะ"สื่อมวลชนอิสระ"จะยังคงทำหน้าที่ตรวจสอบการทำงานของคณะกรรมการนโยบายชั่วคราวทีวีสาธารณะอย่างเข้มข้น เพื่อช่วยทำให้กระบวนการเปลี่ยนถ่ายจากทีไอทีวีมาเป็น Thai PBS ดำเนินไปอย่างโปร่งใสและสร้างการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนของสังคม
รวมทั้งช่วยตรวจสอบการแทรกแซงจากอำนาจรัฐและอำนาจทุนที่แม้พ.ร.บ.ฉบับนี้มีกลไกป้องกันไว้หลายทาง แต่ไม่อาจวางใจได้ว่ารัฐบาลชุดใหม่จะไม่เข้ามาแทรกแซงเช่นในอดีตที่เกิดขึ้นกับสถานีโทรทัสน์ไอทีวีที่มีการแทรกแซงจากอำนาจทุนและอำนาจรัฐจนเกิดปัญหาไม่สามารถทำงานได้ตามเจตนารมณ์ทีวีเสรีหลังเหตุการณ์เดือนพฤษภาคม 2535
"กระบวนการเกิดขึ้นของทีวีสาธารณะในประเทศไทยแห่งแรก ในนาม Thai PBSเป็นหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญในการปฏิรูปสื่อโทรทัศน์อย่างเป็นรูปธรรมและนำไปสู่การเกิดขึ้นของสื่อสาธารณะในรูปแบบอื่นๆที่จะมีผลต่อกระบวนการพัฒนาประชาธิปไตยของไทยภายใต้พรบ.ฉบับนี้ที่ไม่ได้จำกัดเฉพาะในบทเฉพาะกาลการเปลี่ยนทีไอทีวี เป็นทีวีสาธารณะเพียงช่องเดียว พรบ.ฉบับนี้ยังเปิดโอกาสให้เปิดวิทยุสาธารณะและสื่ออื่นๆภายใต้องค์การสื่อสาธารณะที่จะมีการจัดตั้งขึ้นใหม่"
สำหรับความคืบหน้าของการจัดตั้ง "ทีพีบีเอส ทีวี" หลังจากศาลปกครองกลางนัดไต่สวนฉุกเฉิน ในคำร้องที่ตัวแทนพนักงาน "ทีไอทีวี" ยื่นต่อศาลฯ ให้เพิกถอนคำสั่งของกรมประชาสัมพันธ์ ที่ให้ยุติการแพร่ภาพออกอากาศของสถานีวิทยุโทรทัศน์ระบบยูเอชเอฟหรือทีไอทีวีเมื่อวันที่ 15 ม.ค.ที่ผ่านมา
โดยล่าสุดวานนี้ ศาลปกครองนัดฟังคำสั่งว่าจะกำหนดมาตราการคุ้มครองชั่วคราวคดีที่พนักงานทีไอทีวี ฟ้องขอให้ยกเลิกคำสั่งกรมประชาสัมพันธ์ ที่ให้สถานีโทรทัศน์ทีไอทีวียุติการแพร่ภาพหรือไม่ ในวันนี้ โดยศาลจะแจ้งคำสั่งให้ทราบทางโทรสารช่วงเวลา 13.00 น.
