BSEC กำไรงวดสิ้นปีลดลงเกือบ 44% เนื่องจากการซื้อขายหลักทรัพย์โดยรวมในตลาดฯ ค่อนข้างต่ำ ส่งผลให้รายได้ค่านายหน้าการซื้อขายหลักทรัพย์ลดลง บวกการขาดทุนในการซื้อขายหลักทรัพย์ เหตุได้รับผลกระทบจากปัญหาการเมืองภายในประเทศ
นายประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ บีฟิท จำกัด (มหาชน) (BSEC) แจ้งผลการดำเนินงานประจำปี 2550 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2550 บริษัทมีกำไรสุทธิ 139.11 ล้านบาท ลดลง 108.31 ล้านบาท คิดเป็น 43.78% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 247.42 ล้านบาท ทำให้กำไรต่อหุ้นลดลงเหลือ 0.17 บาท จากเดิม 0.54 บาท
เนื่องจากรายได้รวมของบริษัทลดลง โดยเฉพาะค่านายหน้าจาการซื้อขายหลักทรัพย์ เพราะได้รับผลกระทบโดยตรงจากการซื้อขายหลักทรัพย์โดยรวมของตลาดที่ค่อนข้างเบาบางจากหลายปัจจัยทั้งภายในและภายนอกประเทศ ทั้งปัญหาการเมืองภายในประเทศ การเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันในตลาดโลก และปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจในสหรัฐฯ ซึ่งมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อบรรยากาศการลงทุนทั่วโลก และยังส่งผลให้การลงทุนของบริษัทรับรู้ผลขาดทุนจากการซื้อขายหลักทรัพย์อีกด้วย
ขณะที่การดำเนินธุรกรรมวาณิชธนกิจของบริษัทตั้งแต่ปลายปี 2549 ทำให้รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการเพิ่มขึ้น รวมทั้งรายได้อื่นล้วนเพิ่มขึ้นการบริหารจัดการการให้กู้ยืมเพื่อซื้อหลักทรัพย์จากธุรกรรมซื้อขายหลักทรัพย์แก่ลูกค้า ส่วนค่าใช้จ่ายสูงขึ้น อันเป็นผลจากการที่บริษัทมุ่งเน้นในส่วนของระบบซื้อขายหลักทรัพย์ผ่านอินเทอร์เน็ต เช่นเดียวกับค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงานและค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับอาคารสถานที่และอุปกรณ์เพิ่มขึ้น
นายประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ บีฟิท จำกัด (มหาชน) (BSEC) แจ้งผลการดำเนินงานประจำปี 2550 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2550 บริษัทมีกำไรสุทธิ 139.11 ล้านบาท ลดลง 108.31 ล้านบาท คิดเป็น 43.78% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 247.42 ล้านบาท ทำให้กำไรต่อหุ้นลดลงเหลือ 0.17 บาท จากเดิม 0.54 บาท
เนื่องจากรายได้รวมของบริษัทลดลง โดยเฉพาะค่านายหน้าจาการซื้อขายหลักทรัพย์ เพราะได้รับผลกระทบโดยตรงจากการซื้อขายหลักทรัพย์โดยรวมของตลาดที่ค่อนข้างเบาบางจากหลายปัจจัยทั้งภายในและภายนอกประเทศ ทั้งปัญหาการเมืองภายในประเทศ การเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันในตลาดโลก และปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจในสหรัฐฯ ซึ่งมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อบรรยากาศการลงทุนทั่วโลก และยังส่งผลให้การลงทุนของบริษัทรับรู้ผลขาดทุนจากการซื้อขายหลักทรัพย์อีกด้วย
ขณะที่การดำเนินธุรกรรมวาณิชธนกิจของบริษัทตั้งแต่ปลายปี 2549 ทำให้รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการเพิ่มขึ้น รวมทั้งรายได้อื่นล้วนเพิ่มขึ้นการบริหารจัดการการให้กู้ยืมเพื่อซื้อหลักทรัพย์จากธุรกรรมซื้อขายหลักทรัพย์แก่ลูกค้า ส่วนค่าใช้จ่ายสูงขึ้น อันเป็นผลจากการที่บริษัทมุ่งเน้นในส่วนของระบบซื้อขายหลักทรัพย์ผ่านอินเทอร์เน็ต เช่นเดียวกับค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงานและค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับอาคารสถานที่และอุปกรณ์เพิ่มขึ้น
