นายกฯ เตือนผู้ว่าการ ธปท.ดูแลค่าบาทมีเสถียรภาพใกล้เคียงเพื่อนบ้าน โดยเช้าวันนี้ ค่าเงินบาทยังแข็งต่อเนื่องแตะ 33.10 บาท/ดอลลาร์ สูงสุดรอบ 10 ปี “ธาริษา” ยันค่าเงินบาท ยังเกาะกลุ่มตลาดในภูมิภาค
วันนี้ (14 ม.ค.) พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการแก้ไขผลกระทบทางเศรษฐกิจ ซึ่งเกิดจากการแข็งค่าของเงินบาท โดยระบุว่า การดูแลอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งขณะนี้ค่าเงินบาทแข็งค่าแตะระดับ 33.10-33.14 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ กรณีนี้ รัฐบาลไม่นิ่งนอนใจและพร้อมดูแลเสถียรภาพค่าเงินบาท ให้อยู่ในระดับใกล้เคียงประเทศเพื่อนบ้าน และกลุ่มประเทศคู่ค้า
ทั้งนี้ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา กระทรวงการคลัง ได้หารือกับ นางธาริษา วัฒนเกส ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในเรื่องการดูแลเสถียรภาพของค่าเงินบาทไปแล้ว นอกจากนี้ กระทรวงการคลัง และผู้ว่าการ ธปท.มีความเห็นพ้องกันว่า การที่ผู้ส่งออกที่ได้นำเงินดอลลาร์มาขายในตลาดจำนวนหนึ่งนั้น มีส่วนทำให้ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น ดังนั้น ตนอยากขอความร่วมมือจากผู้ส่งออกว่าขอให้ช่วยกันในส่วนนี้ด้วย
ล่าสุด นางธาริษา ผู้ว่าการ ธปท.ออกมาเปิดเผยถึงสาเหตุการแข็งค่าของเงินบาท เช้าวันนี้ เชื่อว่า เกิดจากการเทขายของภาคเอกชน คาดว่า จะยังส่งผลกระทบแค่ชั่วคราวเท่านั้น พร้อมระบุ ค่าเงินบาทยังเกาะกลุ่มสกุลเงินในภูมิภาค
“ธปท.ยืนยันว่า ระดับเงินบาทในขณะนี้ ไม่แข็งค่ากว่าสกุลเงินอื่นๆ เราอยู่ตรงกลางในภูมิภาค และยังสามารถแข่งขันได้”
นางธาริษา ระบุอีกว่า เงินบาทควรจะเคลื่อนไหวตามค่าเงินในภูมิภาค ถ้าค่าเงินของเรากับภูมิภาคเกาะกลุ่มไปในทิศทางเดียวกัน เราก็จะไม่เสียเปรียบด้านการส่งออก
ตอนนี้ ธปท.ไม่ห่วงเรื่องเงินเฟ้อ แม้ราคาน้ำมันสูงขึ้น โดยการพิจารณาดอกเบี้ยนโยบายของ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ก็ยังคงให้น้ำหนักกับการขยายตัวของเศรษฐกิจ และ อัตราเงินเฟ้อ และขอยืนยันว่า ธปท.จะพิจารณาทั้ง 2 เรื่องอย่างนี้เป็นประจำ
อย่างไรก็ตาม ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ครั้งต่อไปก็คงจะพิจารณาข้อมูลทั้งอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อ
“ตรงไหนมีปัจจัยเสี่ยงมากก็จะให้น้ำหนักเรื่องนั้นมากที่สุด” ผู้ว่าการ ธปท.ระบุทิ้งท้าย
โดยค่าเงินบาทในช่วงเช้าวันนี้ เปิดตลาดที่ระดับ 33.13/33.15 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ นับเป็นการปรับตัวแข็งค่าทุบสถิติในรอบ 10 ปี โดยแข็งค่าต่อเนื่อง เมื่อเทียบกับปิดตลาดวันศุกร์ที่ผ่านมา อยู่ที่ 33.14/17 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่ค่าเงินบาทในตลาดออฟชอร์อยู่ที่ 29.50/55 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อเทียบกับวันศุกร์ที่ผ่านมาอยู่ที่ 29.50/60 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ
ทั้งนี้ นักค้าเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา กล่าวว่า สัปดาห์นี้คงจะเห็นเงินบาทแข็งค่าแตะระดับ 33.00 บาท/ดอลลาร์ เพราะทิศทางดอลลาร์ยังอ่อนค่าต่อเนื่อง ปัญหาหลักจากเศรษฐกิจสหรัฐฯที่อ่อนตัว โดยล่าสุดตัวเลขการค้าเดือน พ.ย.ของสหรัฐฯ เป็นตัวเลขขาดดุลการค้าสูงที่สุดในรอบ 14 เดือน เนื่องจากการนำเข้าที่เพิ่มขึ้นสูงโดยเฉพาะนี้น้ำมัน อย่างไรก็ตาม ปัจจัยในประเทศยังคงต้องจับตาว่า ธปท.จะแทรกแซงเงินบาทต่อเนื่องหรือไม่
