ตลาดหุ้นไทยวันนี้ร่วงแรงกว่า 15 จุด สัญญาณทางเทคนิคไม่ดี หลังหลุดแนว 850 จุด เป็นไปทิศทางเดียวกับตลาดอื่นๆ ในย่านภูมิภาคเอเชีย รับผลจากเหตุการณ์รุนแรงในปากีสถาน ราคาน้ำมันสูง และวิตกเศรษฐกิจสหรัฐที่อาจชะลอมากกว่าคาด นักลงทุนควรติดตามปัจจัยการเมืองอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะประเด็นใบเหลือง-ใบแดง และควรดูว่าต่างชาติยังขายสุทธิหรือไม่ พร้อมให้แนวรับ 840-835 ส่วนแนวต้าน 850, 860 จุด
ภาวะการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) วันนี้(2 ม.ค.) ดัชนีปิดตลาดช่วงบ่ายที่ระดับ 842.97 จุด ลดลง 15.13 จุด เปลี่ยนแปลง -1.76% มูลค่าการซื้อขาย 12,900.04 ล้านบาท โดยบรรยากาศในการซื้อขายหุ้น ตลอดทั้งวัน ดัชนีหุ้นไทยส่วนใหญ่อยู่ในแดนลบ ขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดที่ระดับ 860.69 จุด และจุดต่ำสุดที่ 842.97 จุด
หลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 106 หลักทรัพย์ ลดลง 199 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 112 หลักทรัพย์ สำหรับสัดส่วนการลงทุน วันนี้ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 736.25 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 413.61 ล้านบาท นักลงทุนรายย่อยซื้อสุทธิ 1,149.86 ล้านบาท
นายพิชัย เลิศสุพงศ์กิจ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการตลาด บล.ธนชาต กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงมากกว่าที่คาดไว้ โดยสัญญาณทางเทคนิคไม่ดีเกิดสัญญาณขายหลังดัชนีฯหลุดแนว 850 จุด ซึ่งตลาดหุ้นไทยได้ปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่ปรับตัวลง โดยเฉพาะตลาดหุ้นไต้หวัน และเกาหลี มีการปรับตัวลงมากในวันนี้ เนื่องจากรับผลจากเหตุการณ์ความรุนแรงในปากีสถาน และราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นสูง รวมถึงการวิตกเกี่ยวกับเศรษฐกิจของสหรัฐฯที่อาจจะชะลอตัวลงมากกว่าที่มองไว้
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลง ส่วนหนึ่งยังมาจากแรงขายทำกำไรภายหลังเสร็จสิ้นการทำ Window Dressing ในช่วงปลายปีที่แล้ว(2550) ซึ่งทำให้ราคาหุ้นมีการปรับตัวขึ้นมาก
อย่างไรก็ดี ตลาดฯยังให้น้ำหนักหลักอยู่ที่การเมือง ซึ่งขณะนี้ทุกอย่างได้เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตยก็เป็นที่พอใจแล้ว หลังจากที่ได้รัฐบาลแล้ว ก็อาจจะมีการเปิดสภาได้ในวันที่ 22 มกราคม 2551 ถ้ากกต.ได้รับรองผลการเลือกตั้งไม่ต่ำกว่า 95% หรือคิดเป็นการแจกใบแดง-ใบเหลืองต้องไม่เกิน 24 ใบ ก็จะทำให้เปิดสภาได้ และขั้นตอนต่อไปก็ต้องมองไปถึงมาตรการที่จะมากระตุ้นเศรษฐกิจไทยต่อไป
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้(3 ม.ค.) แนะให้จับตาดูพอร์ตลงทุนของต่างชาติวันนี้ว่าจะโชว์ยอดขายสุทธิหรือเปล่า หากโชว์ยอดขายสุทธิก็อาจจะทำให้นักลงทุนวิตกกังวลได้ และให้ดูตัวแปรทางการเมืองในวันพรุ่งนี้ด้วยที่ทางกกต.จะสรุปการให้ใบเหลือง-ใบแดง พร้อมให้แนวรับ 840-835 จุด ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 850, 860 จุด
หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 ลำดับ ได้แก่ PTTAR มูลค่าการซื้อขาย 2,970.26 ล้านบาท ปิดที่ 47.25 บาท , PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,342.22 ล้านบาท ปิดที่ 157.00 บาท ลดลง 7.00 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,234.52 ล้านบาท ปิดที่ 368.00 บาท ลดลง 8.00 บาท , TTA มูลค่าการซื้อขาย 382.11 ล้านบาท ปิดที่ 45.00 บาท ลดลง 2.25 บาท , KBANK มูลค่าการซื้อขาย 330.96 ล้านบาท ปิดที่ 84.00 บาท ลดลง 3.00 บาท
ภาวะการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) วันนี้(2 ม.ค.) ดัชนีปิดตลาดช่วงบ่ายที่ระดับ 842.97 จุด ลดลง 15.13 จุด เปลี่ยนแปลง -1.76% มูลค่าการซื้อขาย 12,900.04 ล้านบาท โดยบรรยากาศในการซื้อขายหุ้น ตลอดทั้งวัน ดัชนีหุ้นไทยส่วนใหญ่อยู่ในแดนลบ ขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดที่ระดับ 860.69 จุด และจุดต่ำสุดที่ 842.97 จุด
หลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 106 หลักทรัพย์ ลดลง 199 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 112 หลักทรัพย์ สำหรับสัดส่วนการลงทุน วันนี้ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 736.25 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 413.61 ล้านบาท นักลงทุนรายย่อยซื้อสุทธิ 1,149.86 ล้านบาท
นายพิชัย เลิศสุพงศ์กิจ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการตลาด บล.ธนชาต กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงมากกว่าที่คาดไว้ โดยสัญญาณทางเทคนิคไม่ดีเกิดสัญญาณขายหลังดัชนีฯหลุดแนว 850 จุด ซึ่งตลาดหุ้นไทยได้ปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่ปรับตัวลง โดยเฉพาะตลาดหุ้นไต้หวัน และเกาหลี มีการปรับตัวลงมากในวันนี้ เนื่องจากรับผลจากเหตุการณ์ความรุนแรงในปากีสถาน และราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นสูง รวมถึงการวิตกเกี่ยวกับเศรษฐกิจของสหรัฐฯที่อาจจะชะลอตัวลงมากกว่าที่มองไว้
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลง ส่วนหนึ่งยังมาจากแรงขายทำกำไรภายหลังเสร็จสิ้นการทำ Window Dressing ในช่วงปลายปีที่แล้ว(2550) ซึ่งทำให้ราคาหุ้นมีการปรับตัวขึ้นมาก
อย่างไรก็ดี ตลาดฯยังให้น้ำหนักหลักอยู่ที่การเมือง ซึ่งขณะนี้ทุกอย่างได้เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตยก็เป็นที่พอใจแล้ว หลังจากที่ได้รัฐบาลแล้ว ก็อาจจะมีการเปิดสภาได้ในวันที่ 22 มกราคม 2551 ถ้ากกต.ได้รับรองผลการเลือกตั้งไม่ต่ำกว่า 95% หรือคิดเป็นการแจกใบแดง-ใบเหลืองต้องไม่เกิน 24 ใบ ก็จะทำให้เปิดสภาได้ และขั้นตอนต่อไปก็ต้องมองไปถึงมาตรการที่จะมากระตุ้นเศรษฐกิจไทยต่อไป
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้(3 ม.ค.) แนะให้จับตาดูพอร์ตลงทุนของต่างชาติวันนี้ว่าจะโชว์ยอดขายสุทธิหรือเปล่า หากโชว์ยอดขายสุทธิก็อาจจะทำให้นักลงทุนวิตกกังวลได้ และให้ดูตัวแปรทางการเมืองในวันพรุ่งนี้ด้วยที่ทางกกต.จะสรุปการให้ใบเหลือง-ใบแดง พร้อมให้แนวรับ 840-835 จุด ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 850, 860 จุด
หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 ลำดับ ได้แก่ PTTAR มูลค่าการซื้อขาย 2,970.26 ล้านบาท ปิดที่ 47.25 บาท , PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,342.22 ล้านบาท ปิดที่ 157.00 บาท ลดลง 7.00 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,234.52 ล้านบาท ปิดที่ 368.00 บาท ลดลง 8.00 บาท , TTA มูลค่าการซื้อขาย 382.11 ล้านบาท ปิดที่ 45.00 บาท ลดลง 2.25 บาท , KBANK มูลค่าการซื้อขาย 330.96 ล้านบาท ปิดที่ 84.00 บาท ลดลง 3.00 บาท