อีกไม่กี่วันจะถึงการแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ โดยทางประเทศอินโดนีเซียประกาศออกมาว่ากีฬาอะไรที่ไม่มีลุ้นจะไม่ส่งแข่ง ทำให้จากเดิมที่จะส่งมาร่วม 2 พันคน ตอนนี้เหลือเพียง 1 พันกว่าคน เพื่อประหยัดงบประมาณ ซึ่งส่งผลกระทบต่อว่ายน้ำลีลา หรือ ระบำใต้น้ำ ที่ก่อนหน้านี้มีการชิงชัย 3 รายการคือ ประเภททีม, ประเภทคู่หญิง และ ประเภทคู่ผสม ซึ่งอินโดนีเซีย ได้ถอนตัวประเภทคู่ผสม ทำให้ตอนนี้เหลือเพียง 2 ประเทศคือ ไทย กับ มาเลเซีย ตามหลักการซีเกมส์แล้วไม่สามารถทำการแข่งขันได้เพราะทีมมีไม่ถึง 3 ทีม
”โค้ชลูกหว้า“ ญาณินี จาตุรงคกุล ผู้ฝึกสอนว่ายน้ำลีลาทีมชาติไทย เปิดเผยว่า จากการที่อินโดนีเซียถอนนักกีฬาในอีเวนต์ว่ายน้ำลีลา ประเภทคู่ผสม ทำให้อีเวนต์นี้มีชาติส่งแข่งเพียง 2 ชาติ คือ ไทยและมาเลเซีย ทำให้ไม่สามารถแข่งขันได้ตามระเบียบ เพราะอย่างน้อยต้องมี 3 ชาติ ทำให้ส่งผลกระทบต่อทัพว่ายน้ำลีลาไทยมาก เพราะประเภทคู่ผสมไทยมีลุ้นเหรียญทอง และก็มั่นใจว่าได้แน่นอนเพราะประเภทนี้เราเป็นแชมป์เอเชีย ส่วนประเภททีม และ คู่หญิง อาจจะลุ้นยากแต่ก็ติด 1-3 ได้ แต่ก็เป็นเรื่องที่น่าเสียดายมาก เพราะถ้ามีการแข่งขันคู่ผสมก็มีโอกาสสูงมากที่ไทยจะได้เหรียญทอง
ด้าน “โค้ชตึก” นายธนาวิชญ์ โถสกุล เลขาธิการสมาคมกีฬาทางน้ำแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ถึงแม้ว่าจะไม่มีประเภทคู่ผสมในซีเกมส์ครั้งนี้ แต่ก็จะสนับสนุนให้นักว่ายน้ำลีลาชายและคู่ผสมเก็บตัวฝึกซ้อมพัฒนาต่อไป เพราะที่ผ่านมาก็ทำผลงานได้ดีมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการที่สุพิชญา ทรงพันธุ์ และ กันตินันท์ อดิศัยสิริบุตร ร่วมกันคว้าอันดับ 8 ในรายการชิงแชมป์โลก 2025 ที่ประเทศสิงคโปร์ เป็นผลงานที่ยอดเยี่ยม และสามารถต่อยอดได้อนาคต
“จากการที่สหพันธ์ฯเพิ่งให้มีการเพิ่มผู้ชายเข้ามาในกีฬาว่ายน้ำลีลาได้ไม่กี่ปี ทำให้หลายชาติในยุโรปก็มีการสร้างนักกีฬามาแล้ว แต่ในเอเชียและอาเซียนอาจจะยังน้อยอยู่ แต่ของไทยถือว่ามีศักยภาพแล้ว ซึ่งก็จะให้การสนับสนุนในการแข่งขันรายการต่างๆ ต่อไปในอนาคต เมื่อมีการบรรจุอีเวนต์คู่ผสมในมหกรรมกีฬา ไทยจะมีลุ้นเหรียญแน่นอน” โค้ชตึกกล่าว
สำหรับว่ายน้ำลีลาซีเกมส์ จะแข่งกันที่มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ วิทยาเขตสุวรรณภูมิ (เอแบค บางนา) ระหว่างวันที่ 10-13 ธ.ค.2568


