xs
xsm
sm
md
lg

"พีกี้ ไบลน์เดอร์ส" สู่สนามใหม่ เบอร์มิงแฮม ซิตี้ / คอลัมน์ “Final Whistle" โดย "ผู้เล่นคนที่ 12"

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



คอลัมน์ “Final Whistle" โดย "ผู้เล่นคนที่ 12"

เชื่อว่าส่วนใหญ่น่าจะได้ชมซีรีส์เรื่อง "พีกี้ ไบลน์เดอร์ส" (Peaky Blinders) ทาง เน็ตฟลิกซ์ เป็นเรื่องราวเมื่อปี 1919 ที่เมืองเบอร์มิงแฮม ประเทศอังกฤษ ของมาเฟียจากแก๊งข้างถนนแพร่ขยายอิทธิพลก้าวกระโดดจนไปถึงเล่นการเมืองระดับประเทศ นำโดยผู้นำครอบครัวที่มีชื่อว่า ทอมมี่ เชลบี้ ที่กล้าได้กล้าเสียชนิดที่ว่านำชีวิตของญาติพี่น้องเข้าไปเสี่ยง

ซีรีส์ถ่ายทอดออกมาได้ดีทั้งบรรยากาศของเรื่อง เสื้อผ้าเครื่องแต่งตัว เสื้อผ้าหน้าผม โดยเฉพาะตัวเอก คิลเลียน เมอร์ฟีย์ ที่สวมบทหัวหน้าแก๊งย้อนยุคได้เท่สุดๆ ยังมี ทอม ฮาร์ดี้ ร่วมแสดงอีกด้วย ตลอดจนถึงนักแสดงมากฝีมืออีกเพียบ ใครยังไม่ได้ดูให้รีบเลย เพราะอีกไม่นานกำลังจะมีในเวอร์ชั่นภาพยนตร์ออกมาให้ชมกันอีกด้วย

ดังนั้นในเมื่อเรื่องนี้เกี่ยวกับเมืองเบอร์มิงแฮม ก็มีเรื่องมาเล่าให้ฟังเกี่ยวกับ เบอร์มิงแฮม ซิตี้ สโมสรฟุตบอลที่ตอนนี้โลดแล่นอยู่บนเวที แชมเปียนชิป โดยเคยขึ้นมาเล่นบนลีกสูงสุดอย่าง พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ ก่อนที่จะตกชั้นไป ถือเป็นทีมเก่าแก่ทีมหนึ่งที่ก่อตั้งมาแล้ว 150 ปีหรือเมื่อปี 1875

ปัจจุบัน เบอร์มิงแฮม ซิตี้ อยู่ภายใต้เจ้าของคือ เบอร์มิงแฮม สปอร์ตส์ โฮลดิ้งส์ มีหุ้น 51.7 เปอร์เซนต์ ส่วน เชลบี้ คอมปานีส์ มีหุ้น 45.96 เปอร์เซนต์ ประธานสโมสรคือ ทอม วากเนอร์ นักการเงินชาวอเมริกัน ซึ่งมี ทอม เบรดี้ ตำนานนักอเมริกันฟุตบอล เอ็นเอฟแอล ถือหุ้นอยู่ด้วย

ดังนั้นเจ้าของ เบอร์มิงแฮม ซิตี้ ที่ค่อนข้างกว้างขวางและมีเส้นสายรู้จักคนเยอะทางฝั่งสหรัฐอเมริกา จึงปิ๊งไอเดียทาบทาม สตีเวน ไนท์ ผู้สร้างซีรีส์ "พีกี้ ไบลน์เดอร์ส" มาเป็นที่ปรึกษาในการก่อสร้างสนามเหย้าแห่งใหม่ภายใต้ธีมปล่องไฟให้เหมือนย้อนไปในเมืองยุคอุตสาหกรรมเมื่อครั้งอดีต โดยพร้อมทุ่มเงินไม่อั้น 3 พันล้านปอนด์เลยทีเดียว

สนามดั่งเดิมของ เบอร์มิงแฮม ซิตี้ คือ เซนต์ แอนดรูว์ ที่มีความจุเพียง 29,409 ที่นั่ง ไหนๆ จะสร้างใหม่ทั้งทีแล้วก็ให้อลังการไปเลย ทอม วากเนอร์ เจ้าของทีมจึงต้องการให้ดีไซน์ของสนามเป็นหนึ่งในคอนเซปต์ที่ถูกพูดถึงมากที่สุด แบบแปลนนี้สร้างสรรค์โดย Heatherwick Studio ร่วมกับบริษัท Manica ในรัฐแคนซัส

อย่างที่บอกไปแล้วว่ากันว่าการสร้างสนามแห่งใหม่นี้เป็นการย้อนรำลึกถึงประวัติศาสตร์อุตสาหกรรมของเมือง เบอร์มิงแฮม โดยปล่องไฟที่ตั้งอยู่ในเมืองสเมธวิก เคยครองสถิติปล่องไฟที่สูงที่สุดในโลก ด้วยความสูงถึง 312 ฟุต ระหว่างปี ค.ศ. 1835 ถึง 1842

โปรเจ็คต์สนามแห่งใหม่นี้ตั้งอยู่บนพื้นที่ 48 เอเคอร์ ที่จะรู้จักกันในชื่อ Sports Quarter ใน Bordesley ทางตะวันออกของเมืองเบอร์มิงแฮม มีกำหนดอวดโฉมพร้อมแบบจำลองในช่วงปลายปีนี้ วากเนอร์ รวมถึง เบรดี้ ต้องการให้สนามกีฬาแห่งนี้เป็นสถานที่สำหรับจัดงานทั้งระดับชาติและระดับนานาชาติต่อไปในอนาคตอีกด้วย

สนามใหม่ของสโมสร เบอร์มิงแฮม ซิตี้ จะสะท้อนให้เห็นถึงประวัติศาสตร์ตลอด 150 ปีที่ผ่านมา พร้อมหวังว่าจะคงอยู่ต่อไปอีก 150 ปีข้างหน้า หากสร้างเสร็จสมบูรณ์คาดว่าจะมีความจุอยู่ที่ 62,000 ที่นั่งเลยทีเดียว พร้อมที่จะเป็นหนึ่งในสนามหากว่าอนาคตข้างหน้าประเทศอังกฤษรับหน้าเสื่อจัดการแข่งขันกีฬาทัวร์นาเมนต์ใหญ่ๆ

เอ่ยชื่อ เบอร์มิงแฮม ซิตี้ แฟนบอลรุ่นใหม่ๆ น่าจะไม่ทันดูในยุคคุมทัพของ สตีฟ บรูซ กุนซือที่เคยเป็นอดีตกองหลัง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ย้อนไปเมื่อปี 2011 เบอร์มิงแฮม เคยได้แชมป์ ลีก คัพ ด้วยการเอาชนะ อาร์เซนอล 2-1 ปีนั้น "ปืนใหญ่" คุมโดย อาร์แซน เวนเกอร์ อัดแน่นด้วยนักเตะดังๆ นำโดย โรเบอร์ ฟาน เพอร์ซี, ซาเมียร์ นาสรี ฯลฯ

เบอร์มิงแฮม ปี 2011 ที่ได้แชมป์ ลีก คัพ มีนักเตะดังๆ หลายคนทั้ง เบน ฟอสเตอร์, สตีเฟ่น คาร์, เลียม ริดจ์เวลล์, เซบาสเตียน ลาร์สสัน, แบร์รี่ เฟอร์กูสัน, ลี โบวเยอร์, โอบาเฟมี่ มาร์ตินส์, นิโกล่า ซิกิช, มาร์ติน ยีราเน็ค, เควิน ฟิลลิปส์, สจ๊วร์ต พาร์นาบี้ ฯลฯ เอ่ยชื่อมาแบบนี้แฟนบอลยุค 90 หรือ 2000 ย่อมรู้จักกันเป็นอย่างดี
กำลังโหลดความคิดเห็น