โนวัค ยอโควิช นักเทนนิสมือ 2 ของโลก ฟันอัดฉีด 7 หลัก (คิดเป็นเงินไทย) หลังเอาชนะ คาร์ลอส อัลคาราซ จาก สเปน คว้าเหรียญทอง โอลิมปิก 2024 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (4 ส.ค.)
การรีแมตช์ วิมเบิลดัน 2024 รอบชิงชนะเลิศ ผลปรากฏว่า ยอโควิช วัย 37 ปี ล้างตาคู่ปรับต่างวัย 2 เซตรวด 7-6(7/3), 7-6(7/2) ที่โรลังด์ การ์รอส
ส่งผลให้ หวดชาวเซิร์บ กลายเป็นผู้เล่นคนที่ 5 ของประวัติศาสตร์ คว้าแชมป์ครบ 4 แกรนด์ สแลม กับ เหรียญทองโอลิมปิก ต่อจาก สเตฟฟี กราฟ (1988), อังเดร อากัสซี (1996), ราฟาเอล นาดาล (2008) และ เซเรนา วิลเลียมส์ (2012)
ขณะเดียวกัน "โนเล" ยังซิวเหรียญทองที่ 2 แก่ทัพนักกีฬาเซอร์เบีย ที่ปารีส และเหรียญทองที่ 8 ของประเทศ และยังได้รับเงินรางวัลก้อนโต
เซอร์เบีย ตั้งโบนัสแก่นักกีฬาทุกคน กรณีคว้าเหรียญทองโอลิมปิก คนละ 218,000 เหรียญสหรัฐ (ราว 7.7 ล้านบาท) ติดกลุ่มเงินอัดฉีดสูงสุดของประเทศที่เข้าร่วม โอลิมปิก ครั้งนี้
เงินอัดฉีดดังกล่าวมีมูลค่าสูงสุดเทียบกับประเทศอื่นๆ ของทวีปยุโรป แต่ยังต่ำกว่า ฮ่องกง ตั้งไว้ 768,000 เหรียญสหรัฐ (27 ล้านบาท) แก่ฮีโร่เหรียญทอง โอลิมปิก
นอกจากนี้ แชมป์ แกรนด์ สแลม 24 สมัย ยังได้รับเงินบำนาญตอบแทน เมื่ออายุครบ 40 ปีบริบูรณ์ ซึ่งเหลือระยะเวลาไม่ถึง 3 ปี นับจากปัจจุบัน
ยอโควิช กวาดเงินรางวัลจากการแข่งขันมากกว่า 143 ล้านปอนด์ (6,450 ล้านบาท) ตลอดอาชีพ สูงสุดของประวัติศาสตร์เฉพาะกีฬาเทนนิส
