เป็นเรื่องที่ดีของแฟนๆวอลเลย์บอลที่ตอนนี้ “โส” โสรยา พรมหล้า อดีตมือเซตหน้าหวานทีมชาติไทย ได้กลับมาลงเล่นได้แล้ว โดยไปเปิดประสบการณ์ใหม่ในการเล่นลีกอาชีพที่คาซัคสถานเป็นเวลา 1 ฤดูกาล
ที่ผ่านมา โสรยา ถือว่าเป็นมือเซตอัจฉริยะคนหนึ่งของไทยเป็นดาวรุ่งในยุคของ “โค้ชอ๊อด” เกียรติพงษ์ รัชตเกรียงไกร ในฐานะมือเซตตัวที่ 3 ของ นุศรา ต้อมคำ กับ พรพรรณ เกิดปราชญ์ มีผลงานยอดเยี่ยมมากในระดับสโมสรกับ อยุธยา ATCC ซึ่งเวลานั้นถือว่าฝีมือการเซตบอลไม่เป็นสองรองใครในไทยแลนด์ลีก จนย้ายมาอยู่กับทีมขอนแก่นเป็นเวลาสั้นๆ แล้วก็มาฟอร์มฮอตอีกครั้งกับทีมสุพรีม ไม่ว่าจะอยู่ทีมไหนก็มักจะมีส่วนช่วยทีมประสบความสำเร็จทุกครั้งกวาดแชมป์เข้าสโมสรมากมาย รวมไปถึงตำแหน่งมือเซตยอดเยี่ยมที่ได้ครอบครองแทบจะทุกครั้ง
แล้วด้วยความน่ารักสดใสอารมณ์ดีของ โสรยา ก็เป็นที่ชื่นชอบของบรรดาแฟนคลับลูกยางที่มักจะเข้ามาให้กำลังใจเธออยู่เสมอในยามที่ลงแข่งขัน แต่ก็น่าเสียดายที่ โสรยา มาอยู่ในยุคเดียวกับมือเซตระดับโลกอย่าง “นุศรา ต้อมคำ” ทำให้โอกาสในการรับใช้ชาติมีน้อยมาก แต่เธอก็ไม่ย่อท้อขยันทำผลงานกับสโมสร แม้ว่าชั่วโมงบินกับทีมชาติไทยจะมีให้เห็นบ้างเป็นประปราย แต่แมตซ์ล่าสุดของเธอก็คือการไปแข่งขันซีเกมส์ที่กัมพูชา ซึ่งถือว่าเป็นครั้งแรกของโสรยาในวัย 32 ปี
“แม้ว่าจะเล่นวอลเลย์บอลมานานแต่ก็เพิ่งมีโอกาสไปแข่งซีเกมส์เป็นครั้งแรก ยอมรับว่าดีใจมากที่ได้โอกาสนี้ ถึงแม้ว่าซีเกมส์จะเป็นแมตช์ที่เราก็รู้อยู่แล้วว่าศักยภาพของทีมไทยเหนือกว่าทุกทีม มันก็เลยเป็นความกดดันของเราว่าถ้าเกิดไม่ได้แชมป์ขึ้นมาอาจจะโดนโลกโซเชียลถล่มเละแน่นอน เพราะตำแหน่งมือเซตถือว่าเป็นตำแหน่งที่สำคัญ ถ้าเราเซตดีเซตสวยคนตีก็จะตีได้ง่าย แต่ถ้าเราเซตไม่ดี เซตเสีย หรือเซตแล้วคนตีตีลำบากทีมก็อาจจะแพ้ได้ นี่แหละความกดดันของมือเซต”
“แล้วยิ่งในซีเกมส์รอบชิงกับเวียดนามที่ตอนนี้เขาก็พัฒนาขึ้นมาแทบจะไล่ไทยทันแล้ว ยอมรับว่ากดดันมากเพราะเราจะแพ้ไม่ได้ แล้วยิ่งเจอพวกเกรียนคีย์บอร์ดคอมเม้นในด้านลบมันก็ยิ่งหดหู่ใจ ก็พยายามจะไม่เปิดอ่าน แล้วค่อยๆทำสมาธิเรียกสติตัวเอง ซึ่งก็เป็นฝ่ายไทยที่เอาชนะไปได้ เหมือนยกภูเขาออกจากอก มันรู้สึกโล่งใจมากๆ ที่เราป้องกันแชมป์ไว้ได้อีกสมัย”
การที่ โสรยา ได้รับโอกาสในทีมชาติมากขึ้น ทำให้แฟนๆวอลเลย์บอลเริ่มมีความหวังแล้วว่าทีมสาวไทยจะไม่ขาดช่วงของมือเซตแน่นอนหลังจากที่ นุศรา อำลาทีมชาติไป โดยในตอนนั้นที่เข้าตาก็มี พรพรรณ เกิดปราชญ์, โสรยา พรมหล้า และ สิริมา มานะกิจ แล้วยิ่งตอนนั้น โสรยา มีข่าวว่าสโมสรจากลีกเกาหลีใต้สนใจอยากดึงตัวไปร่วมทีม ซึ่งถือว่าเป็นข่าวดังเลยหลังจบซีเกมส์ และทาง สุพรีม ต้นสังกัดในเวลานั้นก็มีท่าทียินดีเป็นอย่างยิ่งที่ โสรยา จะได้ออกไปเล่นต่างแดน โดยทุกฝ่ายไม่ว่าจะเป็นสโมสรและนักกีฬาก็พอใจกับการทาบทามในครั้งนี้
“พอรู้ข่าวว่ามีสโมสรจากเกาหลีใต้สนใจดึงเราไปเล่นอาชีพก็รู้สึกดีใจมากๆ เพราะเป็นครั้งแรกในขีวิตเลยนะที่จะได้ไปเล่นอาชีพที่ต่างประเทศ และตอนนั้นก็รู้สึกว่าฟอร์มกำลังพีคมาก เป็นช่วงที่กำลังมั่นใจในตัวเองและไปได้สวยกับทีมชาติไทย ก็หวังว่าจะได้ประสบการณ์อะไรที่แปลกใหม่ในการเล่นลีกอาชีพที่เกาหลีใต้ เพราะที่นั่นก็ถือว่าคนให้ความสนใจกีฬาวอลเลย์บอลเยอะมาก“
แต่แล้วช่วงเวลากับการดีใจที่กำลังไปเล่นลีกเกาหลีใต้ก็ต้องยุติลงเพราะพบว่า โสรยา ตั้งครรภ์ ”มันเป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูกเลย เพราะใจหนึ่งก็เสียใจที่ไม่ได้ไปเล่นลีกอาชีพต่างประเทศเพราะมันคือเป้าหมายของนักกีฬาอาชีพ แต่อีกใจหนึ่งก็รู้สึกดีใจนะที่เรากำลังจะเป็นแม่คนแล้ว ก็ยอมรับตามตรงเลยว่าเครียดมาก ไม่รู้จะทำอย่างไรดีแล้วไหนจะเรื่องทีมชาติอีกที่เขายังไม่รู้ว่าท้อง แต่ก็ยังโชคดีที่ได้พี่กิ๊ฟ (วิลาวัณย์ อภิญญาพงศ์) เป็นคนค่อยให้คำปรึกษา“
”พี่กิ๊ฟก็แนะนำว่าให้ไปตรวจครรภ์เลยว่ามีอายุเท่าไรแล้ว พอผลตรวจออกมาปรากฏว่าตั้งท้องตั้งแต่ก่อนไปซีเกมส์ พอย้อนความคิดดูว่าตอนนั้นเราก็สมบุกสมบันมาก แต่ยังดีที่เด็กในท้องแข็งแรงดี ส่วนเรื่องไปเล่นลีกเกาหลีใต้ก็ต้องยกเลิกสัญญาไป และทีมชาติไทยก็เข้าไปคุยกับโค้ช ซึ่งทางทีมชาติก็ไม่ได้ว่าอะไร เลยทำให้เราสบายใจและมุ่งมั่นดูแลตัวเองในการเป็นคุณแม่มือใหม่“
”พอเคลียร์ทุกอย่างจบ ก็กลับไปใช้ชีวิตอยู่เชียงราย แต่ยังดีที่โรงเรียนเทศบาล 6 นครเชียงรายรู้ว่าเรากลับมาบ้าน ก็เลยได้ชวนให้ไปฝึกสอนเด็กทักษะวอลเลย์บอลในช่วงระหว่างที่ท้องยังไม่โตพอสอนได้ ก็นับว่าเป็นอีก 1 ความฝันของตัวเองในการที่อยากเป็นครูสอนวอลเลย์บอล เพราะอยากเอาความรู้ที่มีไปถ่ายทอดต่อให้กับเยาวชน ซึ่งโรงเรียนเทศบาล 6 ก็มีทีมวอลเลย์บอล เราก็ลงไปช่วยสอนเรื่องเบสิค ทักษะ และ สกิลให้กับน้องๆ จนท้องโตก็เลิกสอน กลับมาดูแลตัวเองต่อเตรียมความพร้อมการเป็นคุณแม่ป้ายแดง“
“ในที่สุดการรอคอยก็มาถึงในวันที่คลอดลูกสาวลืมตาดูโลก ด้วยความที่เราเป็นคนชอบเทพเจ้ากรีกเลยตั้งชื่อจริงให้ลูกว่า อาธีน่า ซึ่งเป็นเทพีแห่งยุทธศาสตร์ สงคราม และ ปัญญา ส่วนชื่อเล่นคือ เอลล่า ก็เป็นเด็กที่แข็งแรงมากๆ ส่วนจะให้เจริญรอยตามเป็นนักกีฬาวอลเลย์บอลหรือไม่ก็ต้องดูอีกทีว่าเขาชอบหรือเปล่า“
หลังจากที่ โสรยา อยู่เลี้ยงลูกได้ราวๆ 6 เดือน ซึ่งระหว่างนั้นก็มีการซ้อมเบาๆ ออกกำลังกายเพื่อเรียกสภาพรูปร่างของตัวเองให้กลับมาเหมือนเดิมเพื่อให้พร้อมกับการกลับไปเล่นวอลเลย์บอลอีกครั้ง ปรากฏว่าสโมสรการ์เซีย ของลีกคาซัคสถาน กำลังอยากได้มือเซต และสโมสรสุพรีมได้ส่งโปรไฟล์ โสรยา พร้อมวีดีโอการแข่งขันให้ดู ซึ่งทีมการ์เซียก็ให้ความสนใจพร้อมกับเซ็นสัญญา 1 ฤดูกาลทันที ทำให้ โสรยา ได้กลับไปเล่นอาชีพอีกครั้งและยังเป็นลีกต่างประเทศอย่างที่หวังไว้
“ก็ถือว่าดีใจที่ได้กลับไปเล่นวอลเลย์บอลอีกครั้ง และก็ดีใจที่ได้ไปเล่นลีกต่างประเทศ ต้องขอขอบคุณทีมสุพรีมที่เจรจาหาทีมให้ โดยเซ็นสัญญา 8 เดือน จะไปตอนเดือนสิงหาคมนี้ ส่วนเรื่องลูกก็ยอมรับว่าคิดถึงมาก แต่เทคโนโลยีสมัยนี้สามารถวีดีโอคอลได้ ก็จะทำให้เราใกล้กันมากขึ้น ส่วนสามีก็ไม่มีปัญหาอะไรสนับสนุนเต็มที่ และก็หวังว่าจะฟิตกลับมาเล่นทีมชาติได้อีกครั้ง ตอนนี้แม้ว่าอายุจะ 32 ปีแล้วแต่ก็ยังมีความกระหายชัยชนะอยู่ ก็คิดไว้ว่าจะเล่นต่ออีกสัก 5-6 ปีแล้วค่อยรีไทตัวเอง แล้วจะสอนเด็กอย่างจริงจัง”
โสรยา พรมหล้า มือเซตตัวมัมที่แท้ทรูกลับมาแล้ว แฟนคลับที่คิดถึงเธอเตรียมเชียร์ได้เลย งานนี้มือเซตหน้าหวานขอพิสูจน์ตัวเองอีกครั้งเป้าหมายใหญ่คือการหวนคืนทีมชาติไทย