ความเคลื่อนไหวหลังจบการแข่งขันฟุตบอลรีโว่ คัพ 2023/24 รอบชิงชนะเลิศ ที่มีรถกระบะ ยี่ห้ออีซูซุ คันหนึ่ง เกิดเหตุเพลิงลุกไหม้ทั้งคัน เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.ที่ผ่านมา จากการจุดพลุแฟลร์ของแฟนบอลกลุ่มหนึ่ง
ล่าสุดมีการยืนยันจากตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี ว่า แฟนบอลของทีม "เดอะ แรบบิท" บีจี ปทุม ยูไนเต็ด รายหนึ่ง เป็นผู้ก่อเหตุในครั้งนี้ และเจ้าตัวเข้ามามอบตัวเป็นที่เรียบร้อยตั้งแต่วันที่ 18 มิถุนายนที่ผ่านมา
ก่อนหน้านี้กลายเป็นเรื่องราวดราม่าใหญ่โตจากการที่รถกระบุของ นายอรุณ เชิดโฉม อายุ 46 ปี ที่พาลูกมาแข่งบอลบริเวณดังกล่าว และนำรถมาจอดด้านหลังอัฒจันทร์โซน N จนเกิดเหตุไฟไหม้รถจากการโดนพลุแฟลร์ของแฟนบอล
สุดท้าย ปวิณ ภิรมย์ภักดี ส่งตัวแทนของสโมสร พานายอรุณ เชิดโฉม ไปถอยรถกระบะอีซูซุ คันใหม่ มูลค่า 1.1 ล้านบาท ทันที เมื่อวันที่ 18 มิ.ย.ที่ผ่านมา ได้รับเสียงชื่นชมจากโลกโซเชียลเป็นอย่างมาก
ทั้งนี้ตอนที่เกิดเหตุดราม่าเรื่องจุดพลุแฟลร์จนไฟลุกไหม้รถกระบะคันดังกล่าว แฟนบอลอุลตร้าส์ เมืองทอง โดนข้อครหาจากสังคมว่าเป็นตัวต้นเหตุ เพราะมีภาพปรากฎตามหน้าสื่อว่าพวกเขาจุดพลุแฟลร์กันอย่างชัดเจนหลังจบเกมนัดชิงฯ รีโว่ คัพ
ก่อนที่สุดท้ายจะมีแถลงการณ์อย่างเป็นทางการจากเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า แท้ที่จรงแล้วบุคคลที่ก่อเหตุได้แก่แฟนบอลของทีม บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ไม่ใช่แฟนบอลเมืองทอง ยูไนเต็ด อย่างที่หลายคนเข้าใจแต่อย่างใด
ตามการรายงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี ระบุว่า "เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานจนทราบตัวผู้กระทำผิด และเมื่อวันที่ 18 มิ.ย.67 ได้เข้ามามอบตัวที่ สภ.คลองหลวง จากการสอบถามผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าตนได้เดินทางมาชมฟุตบอลที่สนามเมน สเตเดียม โดยมาเชียร์ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด เมื่อการแข่งขันเสร็จสิ้นทีมรักของตนเป็นฝ่ายชนะ จึงมาหยิบพลุแฟลร์ที่ตนซ่อนไว้ ก่อนจะทำการจุด พันปลายของพลุขึ้นไปบนฟ้าแต่พลุแฟลร์เกิดการระเบิดขึ้น ทำให้วิถีของพลุแฟลร์ไม่วิ่งขึ้นฟ้า แต่วิ่งขนานพื้นไปถูกรถกระบะคันดังกล่าว จนเกิดเพลิงไหม้ขึ้น"