เกิดเหตุเพลิงไหม้รถกระบะคันหนึ่งบริเวณติดกับ ธรรมศาสตร์ สเตเดียม ที่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ในเกมรอบชิงชนะเลิศรีโว่ คัพ 2023/24 ที่ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด เอาชนะ เมืองทอง ยูไนเต็ด 1-0 เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.ที่ผ่านมา
ชมคลิป
จากการรายงานระบุว่า รถกระบะสีขาวคันดังกล่าวที่จอดอยู่บริเวณหลังอัฒจันทร์โซน N เป็นของผู้ปกครองที่พาเด็กๆ เดินทางมาแข่งขันฟุตบอลในระแวกนั้น ไม่ใช่แฟนบอลที่เดินทางมาเชียร์ฟุตบอลแต่อย่างใด
ผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่ามีพลุแฟลร์จากแฟนบอลที่จุดกันตอนเชียร์บอล ลอยตกลงมาที่รถ ทำให้สะเก็ดไฟร่วงใส่ผ้ายางปิดฝาท้าย ก่อนจะลุกลามเข้าห้องโดยสาร ประจวบเหมาะกับในช่วงหลังเกมฟุตบอลนัดดังกล่าวแข่งขันกันจบ มีภาพปรากฎการจุดพลุแฟลร์จากกองเชียร์ในสนาม
นายอรุณ เจ้าของรถกระบะที่โดนไฟไหม้ รู้สึกอึ้ง และแทบพูดไม่ออกเมื่อได้มาเห็นภาพดังกล่าว โดยเจ้าตัวระบุว่า รถคันนี้ไม่มีประกัน ตนเองพาลูกชายมาแข่งบอล ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเกมรอบชิงชนะเลิศรีโว่ คัพ ซึ่งตนขับมาจอดทั้งแต่เที่ยง เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้มาจอดตรงนี้ได้
ในส่วนของรถที่โดนไฟไหม้ไปนั้น ตนก็ต้องใช้งานต่อไป ตอนนี้เหลือแต่กุญแจรถดอกเดียว ผมจะทำงานอย่างไร อยากรู้ว่าเมื่อเป็นแบบนี้ สมาคมฯ หรือใครจะรับผิดชอบ การไปแจ้งความนั้น กระบวนการยุติธรรมช้า ตอนนี้ต้องการคนออกมารับผิดชอบ รถต้องใช้ทำมาหากิน เข้าใจว่าต้องให้เวลาเจ้าหน้าที่สืบสวน แต่ตนต้องใช้รถ ก็ต้องเข้าใจตนเองด้วย
“ผมประชาชนคนหนึ่ง ผมไม่รู้เรื่องว่าเกิดอะไรขึ้นกับเกมกีฬาพวกคุณ จัดก็ไม่ว่า ผมก็ชอบ ผมก็นักฟุตบอล แต่เกิดแบบนี้ใครรับผิดชอบ ฝากสื่อทุกสำนัก เรื่องนี้ผมไม่ยอม ผมเป็นพลเมือง ไม่เกี่ยวข้องกับกีฬานี้”
“อาจมีกองเชียร์นอกลู่นอกแถว แต่มันเกิดแบบนี้ได้ไง ทำไมก่อนเข้างานไม่ตรวจ ไม่มีมาตรการตรวจเข้มเหรอ แล้วประชาชนตาดำๆ อย่างผมมาเจอเหตุ ถ้ารู้ว่าเสี่ยงแบบนี้ ผมไม่มาหรอก ทัวร์นาเมนต์ใหญ่ๆ ต้องมีการป้องกัน นี่มันปลายเหตุ ต้นเหตุไม่ควรเกิดขึ้นด้วยซ้ำ ว่าเอาพลุเข้าสนามแข่ง” นายอรุณ กล่าว
ล่าสุดมีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งเข้าตรวจสอบรถกระบะคันดังกล่าวที่ถูกไฟไหม้แล้ว พร้อมติดต่อขอกล้องวงจรปิดบริเวณโดยรอบ เพื่อหาตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีกันต่อไป
พ.ต.ท. สุชัย แสงส่อง. รอง ผกก.สอบสวน สภ.คลองหลวง เปิดเผยว่า การกระทำเช่นนี้เข้าข่ายความผิด/ผู้ใดกระทำให้เกิดเพลิงไหม้โดยประมาท และเป็นเหตุให้ทรัพย์ของผู้อื่นเสียหาย หรือการกระทำโดยประมาทนั้นน่าจะเป็นอันตรายแก่ชีวิตของบุคคลอื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินเจ็ดปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ล่าสุดชุดสืบสวนพอทราบกลุ่มและตัวบุคคลที่จุดพลุแฟลร์ครั้งนี้แล้วอยู่ระหว่างดำเนินการตามขั้นตอนของกฏหมายต่อไป.