คอลัมน์ “Final Whistle" โดย "ผู้เล่นคนที่ 12"
ก่อนอื่นเลยต้องขอแสดงความยินดีพร้อมกับยกขึ้นหิ้งสำหรับความยอดเยี่ยมของ "ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด มหาอำนาจลูกหนังจากสเปน ที่คว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก สมัยที่ 15 หลังจากเอาชนะ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ 2-0 ที่ เวมบลีย์ สเตเดี้ยม ประเทศอังกฤษ เมื่อวันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา
เรอัล มาดริด เหมือนถูกโฉลกกับถ้วยใบนี้เหลือเกิน เพราะอะไรก็ดูจะเข้าทางเป็นใจให้หมด โดย 11 ปีหลังสุดกวาดไปถึง 6 สมัย นำโด่ง 15 สมัยชนิดที่ว่าทีมอื่นไม่ต้องไล่ ตามมาแบบห่างๆ เป็น เอซี มิลาน 7 สมัย ขณะที่ คาร์โล อันเชล็อตติ ก็ขึ้นแท่นยอดโค้ช คุมทีมได้ถ้วยยุโรป 5 สมัยกับ มิลาน 2 ครั้งปี 2003 กับ 2007 และกับ มาดริด 3 ครั้งปี 2014, 2022 และ 2024
แต่ที่สำคัญเลยคือปีหน้า ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก จะเป็นฤดูกาลที่ 70 ของทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลสโมสรยุโรปนี้ที่จัดโดย สหพันธ์ฟุตบอลยุโรป หรือ ยูฟ่า และเป็นฤดูกาลที่ 33 นับตั้งแต่เปลี่ยนชื่อจาก ยูโรเปียน แชมเปียน คลับส์ หรือที่เรารู้จักกันว่า แชมเปียนส์ ลีก มาเป็น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ดังนั้นจะมีการเปลี่ยนรูปแบบใหม่
ถึงตรงนี้ใครที่ชินกับระบบแบ่งกลุ่มอาจจะไม่ชอบหรืองง โดยจะบอกเลยว่าฤดูกาลหน้า 2024-25 จะยกเลิกรอบแบ่งกลุ่มและจะมาใช้ระบบ "ลีก" ที่มีทั้งหมด 36 ทีม แต่ทุกทีมจะไม่เจอกันหมด
ก่อนอื่นเลยจะแบ่งโถตามค่าสัมประสิทธิ์มีทั้งหมด 4 โถ ในแต่ละโถจะมี 9 ทีม แล้วจะมีการจับสลากมี 4 โถก็จับขึ้นมาโถละ 2 ทีมเป็น 8 ทีมที่ทีมหนึ่งจะต้องเจอ ทีมหนึ่งจะเตะ 8 นัดแบ่งเป็นเหย้า 4 นัดและเยือน 4 นัดเจอกันแบบไม่ซ้ำทีมและไม่เจอกับทีมที่มาจากลีกเดียวกัน
ไม่งงมันไม่ได้ยากขนาดนั้นอย่าเพิ่งทำหน้างงมันเข้าใจง่ายส่วนชนะได้ 3 แต้มเสมอได้ 1 แต้มและแพ้ไม่มีแต้ม ถ้าเตะครบ 8 นัดคะแนนเท่ากันวัดประตูได้-เสียและถ้ายังเท่ากันอีกค่อยวัดประตูยิงได้
เมื่อแต่ละทีมเตะครบ 8 นัดเท่ากันหมดก็จะมาดูตารางลีกอันดับ 1 ถึง 8 ผ่านเข้าไปยืนรอในรอบ 16 ทีมสุดท้ายแบบอัตโนมัติ อันดับ 9-24 จับคู่กันเพื่อเตะเพลย์ออฟโดยไม่ต้องจับสลากง่ายๆ เลยคือ (9เจอ24/10เจอ23/11เจอ22/12เจอ21/13เจอ20/14เจอ19/15เจอ18/16เจอ17) แข่งแบบเหย้า-เยือนเพื่อหาผู้ชนะ 8 ทีมเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย
ขณะที่อันดับ 25-36 ตกรอบไม่มีการไปเตะ ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก กลับบ้านทันที ส่วนเมื่อได้ 16 ทีมเข้ารอบแล้วก็เจอกันเตะแบบเหย้า-เยือนเหมือนเดิมคือไปต่อรอบ 8 ทีมสุดท้ายตามด้วยรอบรองชนะเลิศไปจนถึงรอบชิงชนะเลิศ
มาดูกันว่าระบบใหม่นี้จะหยุด เรอัล มาดริด ไม่ให้เป็นแชมป์ได้หรือไม่ แต่บอกเลยว่าอยากไม่น้อย เพราะ "ราชันชุดขาว" เพิ่งประกาศคว้าแนวรุกคนใหม่ คีเลียน เอ็มบัปเป้ ดาวยิงทีมชาติฝรั่งเศส ที่สำคัญได้มาแบบฟรีๆ เพราะหมดสัญญากับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ดังนั้นไม่ต้องสงสัยว่าจะเป็นสุดยอดดีลแน่นอน
ส่วนที่มีอยู่แล้วก็โหดๆ ทั้ง วินิซิอุส จูเนียร์ รวมถึง จู๊ด เบลลิ่งแฮม คนนี้มีโอกาสสูงที่จะคว้า บัลลงดอร์ หลังปีล่าสุดยิง 23 ประตูจาก 42 นัดรวมทุกรายการนำ เรอัล มาดริด เป็นแชมป์ ลา ลีกา สเปน และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ปีแรกบอกเลยว่าเหมือนฝันจริงๆ อีกทั้งซัมเมอร์นี้จะไปเตะ ยูโร 2024 ที่เยอรมนี หากว่า อังกฤษ ทำผลงานได้ดีรับรองว่าแข้งวัย 20 ปีจะได้ "บอลทอง" อย่างไร้คู่แข่ง