xs
xsm
sm
md
lg

ว่าด้วยเรื่องทำน้ำหนักมวย / ลักษมณ์ นันทิวัชรินทร์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



คอลัมน์ “ริงไซด์ ไฟต์คลับ” โดย “ลักษมณ์ นันทิวัชรินทร์”

ต้องขอพูดเรื่องการทำน้ำหนักมวยอีกที เพราะตอนนี้เห็นมากขึ้นเรื่อยๆ สำหรับกรณีที่มาเกินแล้วไม่ลด หรือลดไม่ลง หรือมาเกินชนิดไม่ต้องลุ้นเลยว่าจะลดลงหรือไม่ โดยแลกกับการโดนปรับหักค่าตัวไปตามส่วน แล้วคู่ชกก็ยอมชกด้วยโดยแบกน้ำหนักกันไป ล่าสุดที่ทำให้ต้องเขียนเรื่องนี้อีกครั้ง ก็มาจากรายการ “วันใหญ่” One Fight Night 17 ที่ซัดกันไปเมื่อเช้าวันเสาร์ที่ 9 ธันวาคมที่ผ่านมา เพื่อให้ตรงกับเวลาถ่ายทอดสดไปที่สหรัฐอเมริกาในช่วง “ไพรม์ไทม์” พอดี คู่เปิดรายการเป็นนักมวยไทยจอมลุยจากเวที “วัน ลุมพินี” ที่เพิ่งได้สัญญาขึ้นประเดิมเวทีในรายการ “วันใหญ่” เป็นครั้งแรก “โล้นทองคำ” ทองพูน พีเคแสนชัยมวยไทยยิม พบกับนักชกอังกฤษ เอลลิส บาร์โบซา คู่นี้จริงๆ แล้วตกลงชกกันในพิกัด 120 ปอนด์ คือเล็กกว่าสตรอว์เวทของ One นิดหน่อย (ในรายการของวัน พิกัดสตรอว์เวทคือ 125 ปอนด์)

ปรากฏว่าในการชั่งน้ำหนัก นักชกไทยปล่อยน้ำหนักมาเต็มคาราเบล ชั่งน้ำหนักได้ 130.5 ปอนด์ เกินพิกัดที่ตกลงกันถึง 10.5 ปอนด์ หรือเกือบ 5 กิโลกรัม แต่งานนี้ต้องบอกว่าทางคู่ชกของ “โล้นทองคำ” นั้น “ทันกัน” ตกตาชั่งมาตกกลับไม่โกง เอลลิส บาร์โบซ่า ขึ้นชั่งน้ำหนักได้ 132.25 ปอนด์ คือหนักเกินพิกัดไป 12.15 ปอนด์หรือ 5.5 กิโลกรัม หนักเกินกว่าทองพูนไปอีก 1.75 ปอนด์ เรียกว่าทั้งสองฝ่ายปล่อยน้ำหนักกะเอาเปรียบคู่ต่อสู้สุดๆ ไปเลย ปรากฏว่ามาเกือบเท่ากัน เลยตกลงกันด้วยดีชกกันที่พิกัด 132.25 ปอนด์ ไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบ หรือเอาจริงนักมวยไทยกลายเป็นเสียเปรียบนิดหน่อยด้วยซ้ำ สุดท้ายทองพูนเดินทื่อๆ ไปหวังทิ่มหมัดอย่างเดียว โดนต่อยร่วงยก 3 เรียบร้อย

อีกคู่ที่เห็นชัดๆ ก็คือนักชกดาวรุ่งวัย 17 ปีชาวมาเลเซีย โจฮัน กาซาลี ที่ต่อยใครต่อใครน็อกมากราวรูด ตกลงชกกับตัวตึงคิกบ๊อกซิ่งที่ทาง “วัน แชมเปี้ยนชิป” พยายามปั้นสุดฤทธิ์ เอ๊ดการ์ ตาร์บาเรซ นักชกเม็กซิกันที่ชกในรายการของวันมา 2 ไฟต์พ่ายน็อกรวด ไฟต์นี้ก็ไม่มีปัญหาวัยรุ่นอย่างโจฮัน กาซาลี ตุ๊ยท้องตาร์บาเรซลงไปนอนงอก่องอขิงแค่ยกแรก แต่โชว์ฟอร์มดีขนาดนี้ทางวัยรุ่นมาเลเซียชวดโบนัส 5 หมื่นเหรียญเพราะ “ตกตาชั่ง” เหมือนกัน ตกลงกันที่พิกัดฟลายเวท 135 ปอนด์ นักชกเม็กซิกันมา 137.5 คือเกิน 2.5 ปอนด์ กะมาลด หรือกะมาเอาเปรียบนิดๆ หน่อยๆ พอเป็นกระษัย แต่นักชกมาเลเซียมาถึง 141.5 ปอนด์ เกินพิกัดไป 6.5 ปอนด์ หนักกว่าตาร์บาเรซไป 4 ปอนด์หรือ 1.8 กิโลกรัม เกือบ 2 กิโลกรัม พลังหมัดมาเต็มไม่ลดน้ำหนักมาเลยแบบนี้ทิ่มใครก็ร่วงไม่ต้องสงสัย

ตอนนี้แฟนรายการ “วัน” เริ่มบ่นๆ กันเสียงดังขึ้นเรื่อยๆ แล้วเรื่องมวยมาแบบไม่ทำน้ำหนัก คือถ้ามาเกิน 2-3 ปอนด์ ยังพอฟังได้ว่าพยายามแล้ว แต่เอาไม่ลงจริงๆ แต่มาเกิน 5 ปอนด์ 6 ปอนด์ หรืออย่างคู่ ทองพูน ที่เกินกันคนละ 10 ปอนด์เศษๆ มันไม่ใช่แล้ว มันไม่ทำน้ำหนักมาเลย จนตอนนี้จะกลายเป็นค่านิยมใหม่ไปแล้ว ปล่อยน้ำหนักมากะเอาเปรียบคู่ต่อสู้ แล้วทางรายการก็คงไม่อยากให้เสียรายการ ก็ปล่อยให้นักมวยตกลงกันเองว่าจะชกหรือไม่ นักมวยอยากได้ค่าตัวก็ยอมชก คนมาเกินก็ยอมโดนปรับ เพราะค่าตัวในรายการมันเฟ้อมาก ปรับได้ปรับไป ยังเหลือค่าตัวเยอะอยู่ดี และไม่มีบทลงโทษอื่นๆ ตอนนี้บอกเลยว่า “วัน เอฟซี” ที่โฆษณาตัวเองว่าใส่ใจในสุขภาพของนักมวย ต้องหามาตรการจัดการให้เหมาะสมแล้ว จะลงทุนหานักมวยตัวสำรองไว้ หรือจะตัดใจยกเลิกคู่ที่ทำน้ำหนักไม่ได้ไปเลย จ่ายค่าตัวคนที่มาตามพิกัดส่วนหนึ่ง คนที่มาเกินก็ไม่ได้ค่าตัวไปเลย ต้องหาทางจัดการจริงๆ จังๆ แล้ว ไม่อย่างนั้นพิกัดน้ำหนักของ “วัน เอฟซี” ที่ปกติก็แปลกๆ กว่าชาวบ้านเขาอยู่แล้ว ก็จะกลายเป็นตัวเลขตลกๆ ไว้ดูกันขำๆ เท่านั้น
กำลังโหลดความคิดเห็น