ชาตรี ศิษย์ยอดธง ประธานวัน แชมเปียนชิพ องค์กรศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวระดับโลก ออกมาเผยเรื่องราวผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่าเขาโดนนักท่องเที่ยวท้าต่อยที่ฟิตเนส ณ โรงแรมแห่งหนึ่งในอ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์
บิ๊กบอสแห่งศึก ONE เผยว่าระหว่างที่เขากำลังออกกำลังกายในฟิตเนสของโรงแรม จู่ๆ ก็มีชายคนหนึ่งมาหาเรื่องชวนทะเลาะวิวาททำนองท้าต่อย แต่เจ้าตัวไม่อยากจะให้เรื่องบานปลาย ไม่อยากใช้ความรุนแรง จึงเลือกที่จะกล่าวปฏิเสธแบบสุภาพ
"นักท่องเที่ยวหัวรุนแรงรายหนึ่งเดินมาประจันหน้า แล้วท้าชกกับผมเมื่อวานนี้ที่ฟิตเนสของโรงแรงประจำที่ผมไปพักในเมืองหัวหิน ประเทศไทย ผมมักจะแวะมาพักผ่อนระหว่างมาทำงานที่เมืองไทย เขามาเผชิญหน้ากับผมเพื่อขอใช้เครื่องออกกำลังกายซึ่งอ้างว่าเป็นของตัวเอง ตอนนั้นผมขอโทษเขาไปอย่างสุภาพ แต่ก็บอกไปด้วยว่านี่ไม่ใช่เครื่องของเขา ผมก็แค่มาใช้งานตอนที่มันกำลังว่าง ผมรู้สึกประหลาดใจมากที่เขาถามผมว่าผมมีปัญหากับเขาเหรอ ออกไปเจอกันข้างนอกหน่อยไหม" ชาตรี เริ่มกล่าว
"ผมคิดไม่ออกเลยสักนิดว่าผมจะเดินออกไปข้างนอกเพื่อสั่งสอนคนขี้คุยแบบนี้อย่างไรดี แต่ผมเห็นว่าเขามากับแฟน ผมตัดสินใจไม่อยากทำให้สถานการณ์บานปลาย ผมเลยรีบขอโทษเขาไปอย่างสุภาพอีกหนึ่งครั้ง และอวยพรให้เขามีสุขภาพที่ดี ก่อนจะเดินออกมา"
"ผมไม่สามารถพูดได้ว่าผมสุดยอดแค่ไหนเมื่อเทียบกับเหล่าแชมป์โลกของ ONE แต่บอกได้เลยว่าผมคือหนึ่งในคนที่เชี่ยวชาญศิลปะการป้องกันตัวที่ฝึกมาตลอดทั้งชีวิต ตอนนี้ผมยังฝึกซ้อมตลอด 6 วันต่อสัปดาห์ ทั้งมวยไทย, บราซิเลียน ยิวยิตสู ผมก็แค่อยากจะบอกว่านายคนนี้ไม่ได้รู้เรื่องการต่อสู้ หรือศิลปะการป้องกันตัวอะไรเลย เขาแค่เข้ามาก่อกวนในพื้นที่ส่วนตัวของผม เขามีกล้ามที่ใหญ่โต แต่ดูแล้วอ่อนแอมาก ต่อให้เขาหนักกว่าผม 20-30 ปอนด์ ผมก็มั่นใจว่าผมจะทำให้เขาลงไปหมอบกับพื้นได้ภายในไม่กี่นาที เขาคนนั้นรอดพ้นจากการน็อกไปได้ หรืออาจสำลักหมดสติต่อหน้าผู้หญิงของเขา กล้ามเนื้อของเขาไม่อาจเอาชนะการต่อสู้ของผม ทักษะ การฝึกฝน และประสบการณ์ ไม่เคยทำให้ผมหยุด"
"แน่นอน ผมขอบคุณที่การฝึกศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวของผมมันทำให้ผมมีความมั่นใจ และมีความอ่อนน้อมถ่อมตน มันทำให้ผมมั่นใจว่าผมสามารถจัดการกับธุรกิจของผมได้ยามอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องป้องกันตัว ซึ่งมันหมายถึงความอ่อนน้อมถ่อมตนที่เลือกจะเดินจากไป คนส่วนใหญ่ใช้ชีวิตโดยไม่รู้ว่าควรป้องกันตัวเอง หรือคนที่ตนรักอย่างไร หากคุณเข้ามาถามผม ผมคิดว่าการฝึกศิลปะป้องกันตัวเองในชีวิตจริง เช่น มวยไทย, บราซิเลียน ยิวยิตสู, มวยปล้ำ, MMA ฯลฯ ควรเป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาของเด็กทุกคนตั้งแต่ชั้นอนุบาล จนถึงมัธยมปลาย แน่นอนมันจะช่วยให้คุณโดนลดการกลั่นแกล้ง หรือการทะเลาะวิวาททางกายภาพลงอย่างแน่นอน"
"ผมอยากเป็นนักรบที่อยู่ในสวน มากกว่าเป็นคนสวนที่อยู่ในสงคราม" ปธ.วัน แชมเปียนชิพ เขียนประโยคปิดท้าย