คอลัมน์ “ริงไซด์ ไฟต์คลับ” โดย “ลักษมณ์ นันทิวัชรินทร์”
ต้องเขียนถึงอย่างต่อเนื่องสำหรับศึก “วัน ลุมพินี” หรือ “วัน ฟรายเดย์ ไฟต์ มวยวันวันศุกร์” ที่จัดเป็นสัปดาห์ที่ 3 ที่สนามมวยเวทีลุมพินี รามอินทรา โดยครั้งนี้มีมวยขาลุยอย่าง ช่อฟ้า ท.แสงเทียนน้อย พบกับ เพชรสุขุมวิท บอยบางนา ซึ่งทั้งคู่ก็เดินเข้าใส่กันชนิดไม่มีการถอยหลัง สาดอาวุธเข้าใส่กันไม่ยั้งสมชื่อนักมวยสายบู๊ เพชรสุขุมวิทได้ทิ่มขวาจนช่อฟ้าก้นเตี้ยโดยนับ 8 ไปก่อนในยกแรก จากนั้นแม้ช่อฟ้าจะเดินเข้าหาหวังเรียกคะแนนคืน แต่เพชรสุขุมวิทก็โต้กลับเนื้อๆ เน้นๆ ครบยกเพชรสุขุมวิทเอาชนะคะแนนไปได้แบบสะใจแฟนมวยทั่วสนาม
คู่ที่ต้องเขียนถึงก็เห็นจะเป็นรายการศึกศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสาน MMA ที่ “ครูตอง วันชิน” ชนนภัทร วิรัชชัย นักสู้ MMA รุ่นบุกเบิกของวงการ MMA ไทย ได้หวนคืนสังเวียนอีกครั้งในรอบสองปีเศษ หลังจากหยุดไปนานในช่วงที่มีสถานการณ์การระบาดของโรค “โควิด-19” พบกับจอมปล้ำจากอิหร่าน โพริยาร์ กอลปูร์ ที่เด็กกว่าถึง 10 ปี สถิติสู้มา 5 ชนะ 4 แพ้ 1 แต่ส่วนใหญ่เป็นรายการในอิหร่าน เรียกว่าประเดิมรายการใหญ่ระดับอินเตอร์เป็นครั้งแรก ก่อนชก “ครูตอง” มีหวาดเสียวเล็กน้อยตอนชั่งน้ำหนักที่ค่าน้ำในร่างกายเกือบไม่ผ่าน แต่สุดท้ายทำค่าน้ำและน้ำหนักได้ตามเกณฑ์ได้ขึ้นชกหวุดหวิด นักสู้ไทยเปิดตัวแบบมีลีลาและสีสันตามแบบฉบับ ก่อนออกลีลากวนประสาทคู่ต่อสู้ด้วยการยืนมองกอลปูร์ที่เต้นไปเต้นมาไม่เข้าซักทีด้วยท่าทีอ่อนอกอ่อนใจในช่วงต้นยกแรก
พอเข้าใส่กันจริงๆ จอมปล้ำจากอิหร่านไล่ลาก “ครูตอง” ลงพื้นอย่างเดียว แต่ชนนภัทรถือเป็นนักสู้ไทยที่ฝึกเกมบนพื้นมาอย่างดีมากๆ ไม่มีอาการตระหนกแก้สถานการณ์จนลุกขึ้นมาได้ แม้จะโดนแจกใบเหลืองเพราะไปจับเชือกเข้าก็ตาม นักสู้อิหร่านยังพยายามเข้ารวบเลยโดนเข่า “วันชิน” เข้าเต็มหัวจนร่วง ลุกขึ้นมาก็เริ่มเข้ามวยหลวม “ครูตอง” โยนเข่าเข้าลำตัวอีก 2 ดอกเรียกเสียงเฮจากแฟนๆ สนั่น จากนั้นชนนภัทรทิ่มฮุคขวาจนกอลปูร์ร่วงและไม่ปล่อยโอกาสทองให้ผ่านพ้นตามไปคร่อมแล้วอัดศอกและท่อนแขนไม่ยั้งจนกรรมการยุติการต่อสู้แค่ยกแรกท่ามกลางเสียงไชโยโห่ร้องของแฟนมวยรอบสนาม “ครูตอง” คว้าชัยชนะอย่างงดงามพร้อมคว้าโบนัสจาก “บิ๊กบอส” ชาตรี ศิษย์ยอดธงอีก 10,000 เหรียญ
ต้องบอกว่า “ครูตอง วันชิน” ถือเป็นนักสู้แบบฉบับของนักสู้ไทยที่จะหันมาเอาดีทาง MMA คือต้องฝึกเกม “กราวด์ไฟต์” หรือเกมนอนสู้มาให้ชำนาญ เรื่องการป้องกันการถูกลากลงพื้นนี้นักมวยไทยถือเป็นเบอร์ 1 ในโลกอยู่แล้ว แต่ถ้าลงมาบนพื้นแล้วความที่ไม่ชำนาญก็มักตื่นตระหนก พยายามรีบลุก โดยไม่จัดระเบียบร่างกายให้ดี ไม่ดูจังหวะในการลุกให้ดี สุดท้ายกลายเป็นเสียเปรียบหนักอาจถึงพ่ายไปเลย แต่ “ครูตอง” ไม่รีบลุก ป้องกันตัวไว้ก่อน แล้วพอได้จังหวะค่อยแก้ไขสถานการณ์ลุกขึ้นมา รวมทั้งการที่ “ครูตอง” เป็นนักสู้ที่ลูกหนักไม่เป็นรองใคร ขอให้โดนเท่านั้นเป็นพลิกสถานการณ์ได้ทันที ไฟต์นี้แม้จะออกอาการเปลี้ยจากการทำน้ำหนักแต่ก็ยังฮึดสาดอาวุธจนเอาชนะไปได้สวยๆ ตอนนี้ต้องรอดูว่าทาง “วัน เอฟซี” จะจัดนักสู้ไทยขึ้นสังเวียนอีกครั้งเมื่อไหร่แฟนๆ รอตามเชียร์ แต่สิ่งหนึ่งที่ได้เห็นชัดๆ วันนี้คือเวทีมวยขึงเชือก ไม่เหมาะกับการต่อสู้แบบ MMA ก็เป็นเรื่องที่ทาง “วัน เอฟซี” ต้องไปหาทางแก้ไขต่อไป แต่ต้องถือว่ารายการ “วัน ลุมพินี” ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก แฟนๆ เข้ามาเชียร์กันเต็มสนาม เสียงเชียร์กระหึ่มบรรยากาศสุดยอด มวยชกกันมันส์ทุกคู่ มีนับมีน็อก ที่ไม่น็อกก็สาดอาวุธใส่กันตลอด ถ้ารักษามาตรฐานได้ขนาดนี้เชื่อว่ารายการนี้ฮิตติดใจแฟนมวยแน่นอน