คอลัมน์ “Golf Healing” โดย “พลโทนายแพทย์ สมศักดิ์ เถกิงเกียรติ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกระดูกประจำโรงพยาบาลพระมงกุฎ และ โรงพยาบาลรามคำแหง มีประสบการณ์ในการดูแลผู้ป่วยมากกว่า 30 ปี somsak_doctor@hotmail.com”
“สวัสดีค่ะนาย” น้องลิเดียทำเสียงอ่อนเสียงหวานทักนาย..ชูสง่า ขณะขับรถกอล์ฟมารับพลางพูดต่อ “ขอบคุณนะคะนาย กล้วยของนายลูกใหญ่เบ้อเริ่ม กินลูกเดียวจุกเลย” ประโยคหลังนี้เล่นเอาคนได้ยินอมยิ้มไปทั้งก๊วน โดยเฉพาะเจ้าเก่งที่ต้องรับภาระแบกกล้วยน้ำว้าเครือใหญ่จากต้นบ้านเฮียไปแจกให้บรรดาบัดดี้ ณ ที่พักรวมอย่างลำบากลำบน จนพี่หมอเห็นแล้วสงสารพูดปลอบใจว่า “เก่ง เดี๋ยวเองกินกล้วยสักสองลูกนะ กล้วยมีประโยชน์มหาศาลทำให้สุขภาพดี พี่หมอกินเป็นประจำ” แต่เจ้าเด็กอ้วนมันเบื่อกล้วยเลยทำหูทวนลม
กล้วยเป็นผลไม้ที่ควรนำมาดูแลสุภาพ เพราะนอกจากจะได้รับประโยชน์สูงแล้ว ยังราคาไม่แพง กินถูกวิธีแล้วได้ทั้งบำรุงผิว และดูแลสุขภาพ ด้วยภูมิปัญญาไทยการนำกล้วยมาใช้ประโยชน์เกือบทุกส่วนที่สามารถนำมาใช้ในการส่งเสริมสุขภาพ ป้องกัน รักษา และฟื้นฟูร่างกายตามหลักการแพทย์แผนไทยได้ด้วย
กล้วยอุดมไปด้วยสารพัดสาระสำคัญหลายชนิด มีไฟเบอร์สูง มรโพแทสเซียม และมีกรมอมิโนที่จำเป็นต่อร่างกาย นพ.ขวัญชัย วิศิษฐานนท์ รองอธิบดีกรมการแพทย์และการแพทย์ทางเลือกบอกว่า กล้วยสามารถนำมาใช้ทางสาธารณสุข โดยมีประโยชน์ 4 ด้าน ดังนี้
1.ด้านการส่งเสริมสุขภาพ
-ผลกล้วย ช่วยลดริ้วรอยและความเสื่อมของเซลล์ เพราะมีสารเบต้าแคโรทีน โดยนำกล้วยสุก1ผลมาบดผสมน้ำผึ้งพอกหน้า 15 นาที แล้วล้างออก ช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้แก่ผิว ผิวจะเนียนนุ่ม แต่ต้องระวังไม่ให้เข้าตา
-เปลือกกล้วย ช่วยแก้ปัญหาข้อศอกและข้อเข่าด้าน โดยนำมาขัดถูและพอกไว้ 10-15 นาที เนื่องจากมีสารลูทีน วิตามินA และ E ทำให้ผิวนุ่ม
2.ด้านการป้องกันโรค
เพราะกล้วยมีสาร ทริปโตเฟน (Tryptophan) ซึ่งเป็นสารตั้งต้นฮอร์โมนเซโรโทนิน ที่ช่วยให้เกิดความสุขและอารมณ์ดี นอกจากนี้กากใยของกล้วยช่วยทำให้ขับถ่ายง่าย จึงควรกินกล้วยสุกวันละ 1 ผล ทุกเช้า
3.ด้านเกี่ยวกับการรักษาโรคของกล้วย
-กล้วยน้ำว้าดิบ หรือห่าม จะมีรสฝาด ซึ่งจะช่วยบรรเทาอาการท้องเสีย ชนิดที่ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อ แต่เกิดจากธาตุในร่างกายไม่สมดุล แล้วทำให้เกิดอาการท้องเสีย โดยที่กล้วยห่ามมีสารแทนนินที่มีสรรพคุณช่วยลดการหดเกร็ง และการเคลื่อนไหวของลำไส้ ช่วยบรรเทาอาการท้องเสียได้ วิธีรับประทานให้ทานครั้งละ ½ - 1 ผล โดยฝานเป็นแว่นๆ ตากแดดให้แห้ง รับประทานครั้งละ 10 กรัม ชงในน้ำอุ่น 120-200 มิลลิลิตร วันละ 3 ครั้งก่อนอาหาร
-ผลกล้วยน้ำว้าสุก รสหวาน มีฤทธิ์เป็นยาระบาย เนื่องจากอุดมปด้วยกากใยอาหาร กระตุ้นระบบขับถ่าย ระบายท้อง ช่วยป้องกันโรคริดสีดวงทวารได้
4.ด้านการฟื้นฟูสุขภาพ
-หัวปลี ช่วยในการบำรุงโลหิต และกระตุ้นต่อมน้ำนมของคุณแม่หลังคลอด เพราะฉะนั้นจึงควรนำมาปรุงเมนูแกงเลียงหัวปลี ต้มยำ และยำหัวปลี ให้คุณแม่กิน
-กล้วยยังช่วยให้รู้สึกอิ่มนาน และยังช่วยให้นอนหลับบาย เหมาะสำหรับผู้สูงอายุที่มีปัญหาเรื่องการนอนไม่หลับอีกด้วย
เป็นไงล่ะไอ้เด็กอ้วน! อยากกินกล้วยต่อรึยัง!!