สมราคาคู่อภิมหาบิ๊กแมตช์แย่งแชมป์ พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ ก่อนจบเกมเสมอกัน 2-2 แมนฯ ซิตี้ เล่นในรังไม่อาจชนะ ลิเวอร์พูล ทั้งที่เจ้าถิ่นขึ้นนำสองครั้งสองคราในเกมเมื่อคืนวันที่ 10 เมษายน ที่ผ่านมา ณ เอติฮัด สเตเดียม
เพียงแค่ 5 นาที แมนฯ ซิตี้ ขึ้นนำ 1-0 จากการยิงไกลของ เควิน เดอ บรอยน์ แฉลบบล็อก โจเอล มาติป เกินเอื้อมที่ อลิสซอน จะปัดป้องได้
ทว่า ลิเวอร์พูล ก็มาตีเสมอ 1-1 ทันควัน ในนาทีที่ 13 จากจังหวะที่ถ่ายบอลโด่งจากซ้ายจนถึงสุดเส้นหลังด้านขวาให้ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ตบเรียดเข้ากลางแบบไม่จับให้ ดิโอโก้ โชต้า แปเข้าไปไม่เหลือ
จนกระทั่งนาที 36 แมนฯ ซิตี้ ก็นำอีกครั้ง 2-1 ชนิดต้องชม เจา กานเซโล่ เปิดบอลจากซ้ายไปขวาให้ กาเบรียล เฮซุส สอดขึ้นมาไม่ล้ำหน้าไม่มีใครประกบก่อนที่จะแปผ่านตัว อลิสซอน เช็ดใต้คานเข้าไป ก่อนที่จะหมดครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้
ครึ่งหลังเปิดฉากไม่ถึงนาที ลิเวอร์พูล ต่อบอลอยู่กราบขวา โม ซาลาห์ หมุนเจอช่องก่อนแทงไปซ้ายให้ ซาดิโอ มาเน่ หลุดไปแปตีเสมอ 2-2
จากนั้นมีจังหวะที่ เดอ บรอยน์ แทงทะลุช่องให้ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง หลุดเดี่ยวก่อนแปผ่านตัว อลิสซอน เข้าไปอย่างเยือกเย็นทว่าเป็นจังหวะล้ำหน้าเมื่อกรรมการเช็ก VAR
จบเกมทั้งคู่เสมอกัน 2-2 ดังนั้น เมื่อสกอร์จบเช่นนี้ทำให้สถานการณ์แย่งแชมป์ในอีก 7 นัดที่เหลือเท่ากัน แมนฯ ซิตี้ นำ ลิเวอร์พูล อยู่เพียงแค่แต้มเดียวเหมือนเดิม