หลังจากที่ทั้ง 20 สโมสรในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประชุมกันอย่างเคร่งเครียดเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ถึงเรื่องการเลื่อนโปรแกรมแข่งขันในช่วงบ็อกซิ่งเดย์ ออกไป เนื่องจากปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
ล่าสุด จากการประชุมดังกล่าว มีมติจากเสียงข้างมากออกมาว่าเกมการแข่งขันจะดำเนินต่อไปในช่วงปฏิทินบ็อกซิ่งเดย์ ไม่มีมีการเลื่อนโปรแกรมออกไปแต่อย่างใด แม้ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาโปรแกรมการแข่งขัน 6 จาก 10 นัด ถูกเลื่อนออกไป
บีบีซี สื่อชั้นนำในอังกฤษ รายงานว่า สโมสรส่วนใหญ่ในที่ประชุมต้องการให้โปรแกรมการแข่งขันดำเนินต่อตามปฏิทินเดิมในตั้งแต่ช่วงปลายปีนี้ ต่อเนื่องไปยังต้นปีหน้า และทางสมาคมฟุตบอลอังกฤษ อาจมีแนวโน้มที่จะถอดโปรแกรมเอฟเอ คัพ นัดรีเพลย์สำหรับรอบ 3 และรอบ 4 ในซีซันนี้ออกไป โดยจะเตะกันแบบนัดเดียวรู้ผล เพื่อลดความแออัดของโปรแกรม
พรีเมียร์ลีก ออกมายืนยันว่า บรรดาทีมในพรีเมียร์ลีกให้ข้อกำหนดอย่างชัดเจนไปยังสโมสรต่างๆ ในกรณีที่มีนักเตะจากทีมชุดใหญ่ติดเชื้อโควิด-19 หลายราย สามารถใช้นักเตะจากทีมสำรอง หรือจากทีมเยาวชนขึ้นมาทดแทน โดยข้ออ้างเรื่องอาการบาดเจ็บจะไม่ถูกนำมาเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ เพราะเป็นคนละกรณีกับการติดเชื้อไวรัสดังกล่าว
โดยหากสโมสรมีผู้เล่นพร้อมลงสนามตั้งแต่ 13 คนขึ้นไป รวมผู้รักษาประตู สามารถทำการแข่งขันได้ และจะไม่ได้สิทธิ์ในการเลื่อนแมตช์การแข่งขันออกไป
ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา พบว่า มีผู้เล่นในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ มีผลตรวจโควิด-19 เป็นบวกมากถึง 42 คน ในระยะเวลา 7 วัน ถือเป็นยอดติดเชื้อที่สูงสุดที่สุดนับตั้งแต่มีการระบาดของเชื้อไวรัสดังกล่าว
ทั้งนี้ ฟุตบอลถ้วย “คาราบาว คัพ” ที่จะฟาดแข้งรอบ 8 ทีมสุดท้าย ในวันที่ 21-22 ธันวาคมนี้ โดยมีสโมสรจากพรีเมียร์ผ่านเข้ารอบถึง 7 ทีม จะดำเนินต่อไปโดยไม่มีการเลื่อนโปรแกรม ต่อด้วยเกมบ็อกซิ่งเดย์ในวันอาทิตย์ที่ 26 ธ.ค.นี้ ก็ยังมีเหมือนเดิม ต่อเนื่องไปถึงช่วงปีใหม่
อย่างไรก็ตาม เรื่องโปรแกรมการแข่งขันทั้งหมดที่ว่ามานี้ ทางพรีเมียร์ลีกจะมีการประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ซึ่งหากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 เกินการควบคุมไปมากกว่านี้ ก็อาจมีความจำเป็นต้องเลื่อนการแข่งขันออกไปในที่สุด