คอลัมน์ “Golf Healing” โดย “พลโทนายแพทย์ สมศักดิ์ เถกิงเกียรติ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกระดูกประจำโรงพยาบาลพระมงกุฎ และ โรงพยาบาลรามคำแหง มีประสบการณ์ในการดูแลผู้ป่วยมากกว่า 30 ปี somsak_doctor@hotmail.com”
“น่าหนักใจจริงๆจะเปิดประเทศแล้ว จำนวนผู้ติดเชื้อยังไม่ลดลงเลย” คุณชูสง่าระบายสีหน้าเครียด “ผมว่า..” เจ้าเก่งออกความเห็น “ปัญหามันอยู่ที่มีผู้ติดเชื้อที่ไม่มีอาการแล้วตระเวนแพร่เชื้อไปทั่ว”
“เออ!เห็นด้วย” นานๆเฮียชูจะเห็นพ้องกับเจ้าเก่งสักครั้ง “จริงนะ!ถ้าใครมีความสามารถตรวจพบคนพวกนี้ก่อน ผมจะกราบแทบเท้า 3 ครั้งเลย” “จริงนะเก่งกราบจริงนะ” พี่หมอย้ำ “พี่หมอพบคนเก่งคนนี้แล้ว” “ใครครับพี่?” “มันเป็นฝรั่งชื่อ...ลาบราดอร์รีทริฟเวอร์!... มึงต้องกราบจริงๆนะเก่ง 6 ตัว..?
คณะสัตวแพทย์ จุฬาฯ เผยผลงานล่าสุด ฝึกฝนสุนัขดมกลิ่น ตรวจหาผู้ติดเชื้อโควิด19 หกตัวแรกของประเทศ พิสูจน์ผลแม่นยำถึง 95% พร้อมประจำการท่าอากาศยาน เสริมปฏิบัติการคัดกรอง
การตรวจคัดกรองผู้ติดเชื้อโควิด19 ด้วยอุปกรณ์วัดอุณหภูมิแบบต่างๆเป็นวิธีการคัดกรองเบื้องต้นและได้ผลสำหรับผู้ติดเชื้อและแสดงอาการแล้วเท่านั้นส่วนผู้ที่ติดเชื้อแต่ยังไม่แสดงอาการเครื่องมือเหล่านี้ยังไม่สามารถตรวจพบได้ แต่สุนัขที่ได้รับการฝึกมาแล้วสามารถทำสิ่งนี้ได้
สุนัขมีความสามารถในการดมกลิ่นดีกว่าคนถึง 50 เท่า เราจึงคิดนำศักยภาพนี้มาใช้ โดยเฉพาะสุนัขสายพันธุ์ลาบราดอร์รีทรีฟเวอร์ที่คณะวิจัยเลือกมาฝึกและทดสอบในโครงการนี้จำนวน 6 ตัว สายพันธุ์นี้เป็นสุนัขที่มีโพรงจมูกยาว มีประสาทสัมผัสรับรู้กลิ่นที่ไวและดี อุปนิสัยเป็นมิตรและฝึกง่าย
ศ.สพ.ญ.ดร.เกวลี ฉัตรดรงค์ รองคณบดีฝ่ายวิจัยและนวัตกรรม คณะสัตวแพทย์จุฬาฯ ในฐานะหัวหน้าโครงการวิจัยฯเผยจากการทดสอบ สุนัขฝูงนี้มีความแม่นยำในการพบผู้ติดเชื้อแต่ไม่แสดงอาการสูงถึง 94.8% เทียบเคียงกับประเทศอื่นๆที่มีการวิจัยใช้สุนัขตรวจคัดกรองผู้ติดเชื้อ อาทิ ฟินแลนด์ เยอรมัน ฝรั่งเศสและออสเตรเลีย เป็นต้น
ศ.สพ.ญ.ดร.เกวลี กล่าวเสริมและเล่าถึงขั้นตอนการวิจัยว่า “ทีมวิจัยเก็บตัวอย่างเหงื่อของผู้ติดเชื้อ ซึ่งเป็นสารคัดหลั่งที่มีการยืนยันแล้วว่า ไม่มีการเจือปนของเชื้อไวรัส โยเราจะรับเหงื่อบริเวณใต้รักแร้ด้วยสำลีและถุงเท้า เก็บไว้ในห้องปฏิบัติการ ที่มีความปลอดภัยทางชีวภาพ แล้วนำสำลีและถุงเท้าดังกล่าวมาใส่กระป๋องเพื่อให้สุนัขดมกลิ่น เมื่อสุนัขได้กลิ่นก็จะนั่งลงทันที เพื่อบอกว่าคนๆนี้ติดเชื้อแม้จะไม่แสดงอาการคณะวิจัย ใช้ตัวอย่างจากเหงื่อของผู้ติดติดเชื้อโควิด 19 และให้สุนัขดมกลิ่นในระยะห่าง เครื่องมือต่างๆก็ปลอดเชื้อ กระบวนการทดสอบทั้งหมดจึงปลอดภัยต่อทั้งตัวสุนัขและบุคลากรที่เกี่ยวข้อง
รศ.สพ.ญ.ดร.สมพร เตชะงามสุวรรณ สัตวแพทย์ ด้านโรคติดเชื้อ หนึ่งในคณะวิจัยยืนยันงานวิจัยชิ้นนี้ ใช้ระยะเวลาดำเนินการ 6 เดือน แบ่งเป็น 3 ระยะ โดยระยะแรกใช้เวลา 2 เดือน เป็นการทดสอบความสามารถและฝึกสุนัขในการแยกแยะกลิ่นผู้ติดเชื้อได้อย่างแม่นยำ ว่องไวและแน่นอน โดยมีกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 43 และบริษัท พีคิวเอแอสโซซิเอท จำกัด ร่วมสนับสนุน การเตรียมการและฝึกสุนัข
ถัดมาคือการทดลองปฏิบัติจริงที่สนามบิน ท่าเรือ สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม และฝึกสุนัขให้ดมกลิ่นจากเท้าของคน ส่วนในระยะที่สาม เป็นการวิจัยต่อยอด เครื่องมือคัดกรองรูปแบบใหม่ เช่น เซ็นเตอร์ เพื่อบ่งชี้ผู้เข้าข่ายติดเชื้อ โดยคณาจารย์ คณะวิทยาศาสตร์ นำโดย รศ.ดร.ธรรมนูญ หนูจักร และ อ.ดร.ชฎิล กุลสิงห์ โครงการนี้นับเป็นต้นแบบ ซึ่งในอนาคต จะมีการต่อยอดฝึกสุนัขเพื่อตรวจโรคอื่นๆ อาทิ โรคเบาหวาน ซึมเศร้า มาเลเรีย และโรคอัลไซเมอร์ ศ.สพ.ญ.ดร.เกวลี หัวหน้าโครงการวิจัยญกล่าวทิ้งท้าย