xs
xsm
sm
md
lg

"มาดามฮาย" ร่ายยาว! ยื่นประท้วง AFC ป้ายไฟพัง ทำเสียโควต้าเปลี่ยนตัว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



"มาดามฮาย" ปวิศรัฐฐ์ ติยะไพรัช ประธานสโมสร สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ส่งหนังสือประท้วง ป้ายไฟพัง ทำให้เสียโควต้าเปลี่ยนตัว พร้อมแจงปัญหาเจ้าหน้าที่สนามภาษาอังกฤษไม่ได้ และแอร์ห้องนักกีฬาก็พัง

หลังจาก "กว่างโซ้ง" สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ประเดิมพ่าย ชุนบุก ฮุนได แชมป์เคลีก จากเกาหลีใต้ 1-2 ในฟุตบอลเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก กลุ่ม H ที่สนามบุนยอดกอร์ ประเทศอุซเบกิสถาน เมื่อวานนี้ (25 มิ.ย. 2564)

ด้าน "มาดามฮาย" ปวิศรัฐฐ์ ติยะไพรัช ประธานสโมสร สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ได้โพสต์ข้อความชี้แจงว่าทีมต้องเสียโควต้าเปลี่ยนตัวผู้เล่นเพราะป้ายไฟพัง อีกทั้งยังเจอปัญหามากมายในการแข่งขัน

"#เสียโควตาเพราะป้ายไฟเสีย

ก่อนอื่นต้องบอกก่อนค่ะ ว่าฮายภูมิใจในตัวทุกคนมาก
ทุกคนสู้เต็มที่ให้พวกเราทุกคนเห็น

You guys did very well. I’m proud of the team.

สิ่งที่ติดใจไม่ใช่ผลการแข่งขัน
เพราะเราทำเต็มที่ที่สุดในสถานการณ์เฉพาะหน้าแล้วค่ะ

ฮายไม่เคยคิดว่าป้ายไฟเปลี่ยนตัวจะเป็นที่มาของปัญหา
เพราะที่สิงห์สเตเดียม เราก็เปลี่ยนไปใช้ป้ายไฟทั้งหมดตามมาตรฐานสากล

ในการแข่งขันวันนี้ ฮายไม่แน่ใจว่าภาพที่เห็นผ่านจอ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสนาม จะทำให้ทุกคนเข้าใจตรงกันหรือไม่

ปัญหาที่เกิดขึ้นและฮายต้องออกมาชี้แจง นั่นก็คือป้ายไฟเปลี่ยนตัวไม่ทำงานจำนวน 1 ป้าย จาก 2 ป้าย ระหว่างที่เราเปลี่ยนตัวครั้งแรก ทำให้สุดท้ายเราเสียโควตา การเปลี่ยนตัวไปหนึ่งครั้งฟรีๆ

หลังจบการแข่งขัน ฮายต้องเข้าไปคุยกับ Match Commissioner และต้องกรอกแบบฟอร์มการประท้วงค่ะ ระหว่างการแข่งขันไม่สามารถทำอะไรได้เลย

เราทราบดีอยู่แล้วว่า หลังจบการแข่งขัน มันยากมากหรือแทบจะไม่มีทางที่จะเปลี่ยนผลการแข่งขันได้เลย

แต่สิ่งที่เราต้องการก็คือ การปรับปรุงแก้ไขมาตรฐานการจัดการแข่งขัน ซึ่งเราจะต้องแข่งอีก 5 นัดที่นี่

ในวันนี้เราวางแผนจะเปลี่ยนตัวผู้เล่นทั้งหมด 5 คน ภายใน 3 ครั้ง ตามกฎทุกประการ

ในครั้งที่หนึ่ง คือต้องการเปลี่ยน โชติภัทร และเอกนิษฐ์ ลงพร้อมกัน

แต่ปัญหาที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น ป้ายไฟใช้ได้เพียง 1 ป้าย อีก 1 ป้าย ไฟไม่ติด
ทำให้ผู้ตัดสินที่ 1 อนุญาตให้โชติภัทรลงไป และให้เกมดำเนินต่อ

ส่วนผู้ตัดสินที่ 4 ได้ยืนยันกับเราว่า เป็นความผิดพลาดทางเทคนิค และเราสามารถเปลี่ยนตัวได้อีก 2 ครั้ง หลังจากที่อนุญาตให้เอกนิษฐ์ลงสนามไปแล้ว

นี่ถือเป็น โควตาการเปลี่ยนตัวครั้งแรก ซึ่งเข้าใจตรงกันระหว่างผู้ตัดสินและเรา

สำหรับในการเปลี่ยนตัวครั้งที่สอง แผนของเราคือการเปลี่ยนจอนาตา เพียงคนเดียว โดยผู้จัดการทีมของเราได้ย้ำถามผู้ตัดสินที่ 4 ชัดเจนอีกครั้งว่านี่คือการเปลี่ยนตัวครั้งที่ 2 และผู้ตัดสินที่ 4 ยืนยันอีกครั้ง

ฮายนั่งอยู่ข้างบนก็ได้ยินชัดเจน

ต่อมา เราต้องการเปลี่ยนตัวครั้งที่สามโดยจะให้ ศราวุธ และ สมคิด ลงไปพร้อมกัน ซึ่งทั้งผู้ตัดสินที่ 4 และผู้จัดการทีมของเรา เข้าใจตรงกันว่าทำได้

แต่ระหว่างกำลังเตรียมตัวนั้น มีเจ้าหน้าที่ซึ่งมีตำแหน่งเป็น Venue Manager มาแจ้งสโมสรว่า เราได้ใช้โควตาเปลี่ยนตัวครบแล้ว ไม่สามารถเปลี่ยนได้อีกแล้ว

ซึ่งเท่าที่สโมสรเข้าใจ คนที่มีอำนาจในเรื่องนี้จะต้องเป็น Referee Assessor คือ ผู้ประเมินผู้ตัดสิน ที่เป็นคนที่มีอำนาจหน้าที่ที่แท้จริง (พรุ่งนี้ต้องไปนั่งอ่านกฎและระเบียบใหม่ทั้งหมดค่ะ)

นอกจากนี้ Venue Manager ยังแจ้งอีกว่า หากเราฝืน จะทำให้กลายเป็นเราเปลี่ยนตัวเกินจำนวนครั้งที่กำหนด และจะต้องถูกปรับแพ้ในสกอร์ 3-0

ซึ่งในเวลานั้น สกอร์ของคู่เราคือ 2-1 ทำให้การตัดสินใจเฉพาะหน้าของทีมงาน นั้นเลือกที่จะไม่เสี่ยงเปลี่ยนตัวนักกีฬาอีกครั้ง

ซึ่งตรงนี้ ทำให้เกิดความเสียหายอย่างมาก ดังต่อไป

1. หากสโมสรเข้าใจว่า โควตาในการเปลี่ยนตัวครบแล้ว (โดยแม้ไม่ใช่ความผิดของเรา) ในสถานการณ์เฉพาะหน้านั้นๆ เราคงจะมีโอกาสได้ให้ จอนาตา ศราวุธ และสมคิด เปลี่ยนตัวลงไปพร้อมกันทีเดียวในครั้งที่สอง

2. เมื่อความผิดพลาดเกิดขึ้น (โดยที่ไม่ใช่ความผิดของสโมสร) ทำให้สโมสรเสียหาย โดยการไม่สามารถทำตามแผนที่วางไว้ กล่าวคือ โอกาสที่จะเปลี่ยนตัวตามแผนหายไป 1 ครั้ง ซึ่งในการเปลี่ยนตัวผู้เล่นนั้น สโมสรย่อมมีโอกาสจะเปลี่ยนเกม เพื่อผลการแข่งขันที่ดีขึ้นได้ อันอาจทำให้สโมสรได้ 1 คะแนน หรือ 3 คะแนนก็เป็นได้ ผลที่เกิดต่อเนื่องก็คือ โอกาสที่จะได้โบนัสจากผลการแข่งขันเสมอหรือชนะนั้น ลดลงอย่างไม่เป็นธรรม แน่นอนว่าทุกคนตั้งใจมาร่วมรายการนี้ ก็เพื่อต้องการผลการแข่งขันที่ดี บนหลักเกณฑ์มาตรฐานเดียวกัน

วันนี้ฮายได้เขียนแบบฟอร์มแบบสั้นไปแล้ว สรุปภายใน 3-4 บรรทัด ส่งภายใน 2 ชั่วโมงหลังจบการแข่งขัน

คืนนี้จึงต้องมาแจ้งให้แฟนๆ ทราบ และเป็นการเรียบเรียงความคิด เพื่อจะเขียนรายงานภาษาอังกฤษฉบับเต็มต่อไป พร้อมทั้งจ่ายค่าธรรมเนียม 500 USD ภายใน 24 ชั่วโมง หลังจบเกม

สิ่งที่ฮายและสโมสรต้องการ และได้พูดไปแล้วกับทางฝ่ายจัดที่นี่ ซึ่งตัวเขาบอกว่าเขาไม่มีอำนาจที่จะทำอะไรได้ ฮายจึงเสนอว่า อย่างน้อยเขาสามารถเขียนรายงานเสนอหรือให้คำแนะนำ AFC ตามอำนาจหน้าที่ของเขาได้ คือ

1. เสนอการจัดการแข่งขันให้ได้มาตรฐานกว่านี้ เจ้าหน้าที่จำนวนมากไม่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ และแต่ละสโมสรมีเวลาแค่ 90 นาทีในเกม เมื่อการสื่อสารมีปัญหา เอาเวลากลับคืนมาไม่ได้

2. การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าในการแข่งขัน ขอความเป็นธรรมกับทุกสโมสรที่ต้องมาแข่งขันที่นี่ บนหลักพื้นฐานของฟุตบอล ความเท่าเทียม และ common sense (ไม่แน่ใจว่าภาษาไทยต้องใช้คำไหนถึงจะเหมาะสมค่ะ) ทุกทีมยังเหลืออีกหลายนัดในอุซเบกิสถาน เราไม่อยากให้มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีกไม่ว่ากับทีมไหน

3. AFC ควรพิจารณาใหม่ว่า นอกจากป้ายไฟ 2 ป้าย ควรบังคับให้ต้องมีป้ายที่ใช้มือเปลี่ยน อยู่ตรงนั้นร่วมด้วย เพราะไม่ว่าเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นกับสโมสรไหน มันไม่ยุติธรรมทั้งสิ้น

4. แอร์ในห้องพักนักกีฬาเสีย ซึ่งเสียทั้ง 2 ห้อง ทั้งเราและ Jeonbuk ต้องเจอกับสภาพเดียวกัน

ในเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นนี้ ไม่มีการแสดงความห่วงใย หรือแม้แต่คำว่า Sorry จากฝ่ายใดๆ

ณ ตอนนี้เราต้องการเพียงแค่การปรับปรุงสำหรับ การจัดการการแข่งขันที่เหลือทั้งหมด สำหรับทุกสโมสรใน 2 กลุ่มที่มา
ทุกทีมเดินทางมาไกลมากๆ ค่ะ

เราผ่านอุปสรรคมาเยอะมาก กว่าจะมาถึงจุดนี้ได้

ซึ่งถ้าเราถอดใจง่าย คงไม่ได้มารอบนี้
และเราพยายามมีทัศนคติเชิงบวกกับทุกปัญหาจริงๆ

สำหรับผลแพ้ ชนะ เสมอ เป็นเรื่องปกติ ซึ่งเราเข้าใจและรับได้มาตลอด เพราะนี่คือฟุตบอล
แต่ฮายคิดว่า ปัญหาครั้งนี้ต้องได้รับการแก้ไขจริงๆ ค่ะ

สุดท้ายฝ่ายจัดอาจถูกปรับเงิน หรือผู้ตัดสินอาจถูกลงโทษ

แต่สำหรับเรา เราไม่สามารถแก้ไขผลที่ผ่านไปแล้วได้

โดยท้ายที่สุด เราต้องดิ้นรนช่วยเหลือตัวเอง เพื่อการแข่งขันนัดที่เหลือค่ะ

ฮายขอโทษสำหรับผลการแข่งขัน และขอรับผิดชอบเองทั้งหมด และอะไรที่ทำให้ดีขึ้นได้ ฮายจะช่วยทำทั้งหมดในหน้าที่ค่ะ

สรุปสั้นๆ คือ ป้ายไฟเปลี่ยนตัวไฟไม่ติด ทำให้เราเสียโควตาการเปลี่ยนตัวไปโดยไม่ทันรู้ตัว"


ทั้งนี้ สิงห์ เชียงรายฯ จะแข่งขันนัดต่อไปวันที่ 28 มิถุนายน 2564 เวลา 21.00 น. พบ แทมปิเนส โรเวอร์ส จากสิงคโปร์ ที่สนามบุนยอดกอร์ ประเทศอุซเบกิสถาน


กำลังโหลดความคิดเห็น