คอลัมน์ สกอร์บอร์ด โดย แมวดำ
การแข่งขันฟุตบอลเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาล 2021 ที่ประเทศไทยของเราได้เป็นเจ้าภาพ จัดการแข่งขันใน 3 สนาม ประกอบด้วย ราชมังคลากีฬาสถาน (ราชบุรี เอฟซี), บุรีรัมย์ สเตเดี้ยม (การท่าเรือ เอฟซี) และ ปทุมธานี สเตเดี้ยม (บีจี ปทุม ยูไนเต็ด) ขณะที่ เชียงราย ยูไนเต็ด ต้องเดินทางไปแข่งขัน รอบแบ่งกลุ่ม ที่ประเทศอุซเบกิสถาน
ซึ่งการแข่งขันเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก ครั้งนี้ พิเศษกว่าครั้งก่อนๆ เพราะมีสโมสรตัวแทนจากไทยลีก เข้าถึงรอบแบ่งกลุ่มมากที่สุดถึง 4 ทีม จากการที่สโมสรจาก ออสเตรเลีย ปฏิเสธเข้าร่วมการแข่งขัน ซึ่งคาดว่าน่าจะมาจากเหตุผลเรื่องโปรแกรมแข่งชนกับลีกในประเทศ รวมถึงมีสโมสรจากภูมิภาคอาเซียนลงเล่นรอบแบ่งกลุ่มมากถึง 9 ทีม
และหากมองลึกลงไปจะเห็นได้ว่า ศึกชิงแชมป์ถ้วยใบใหญ่สุดระดับสโมสรของทวีปครั้งนี้ เป็นครั้งที่ทีมจากอาเซียน และตัวแทนจากประเทศไทยมีลุ้นมากที่สุด เนื่องจากไร้ทีมแข็งๆ จากออสเตรเลียแล้ว สโมสรยักษ์ใหญ่จากลีกจีนที่มีพลังเงินดูดซูเปอร์สตาร์ฝีเท้าดีระดับโลกมาร่วมวงนั้น เลือกที่จะส่งผู้เล่นชุดเล็ก หรือชุดเยาวชนมาร่วมรายการ เพราะมาตรการด้านสาธารณสุขยามเผชิญกับปัญหาโรคระบาดในจีนค่อนข้างเข้มงวด
ส่วนทีมจากเกาหลีใต้ และญี่ปุ่น ซึ่งเป็นแถวหน้าของทวีป ก็ต้องมาเล่นที่บ้านเรา ที่มีอากาศร้อนอบอ้าว แม้จะแข่งกันในเวลาเย็นค่ำก็ไม่ได้ทำให้อุณหภูมิลดลงสักเท่าไหร่ จึงเป็นเรื่องที่สโมสรอาเซียน หรือทีมจากไทยลีก น่าจะได้เปรียบ (ยกเว้น เชียงราย ยูไนเต็ด ที่แข่งกันที่อุซเบกิสถาน) การที่ 3 สโมสรตัวแทนจากไทยลีกได้เล่นในบ้านครั้งนี้ จะน่าเสียดายก็เพียงอย่างเดียวคือไม่มีแฟนบอลมาช่วยกดดันคู่แข่ง เนื่องจากติดช่วงไวรัสโควิด-19 ระบาดหนักเท่านั้น
จากหลายปัจจัยที่กล่าวมาข้างต้น น่าจะเป็นพลังบวกให้กับตัวแทนจากไทยลีก รวมถึงสโมสรจากอาเซียนน่าจะทำผลงานได้ลุ้นมากกว่าทุกครั้ง
บางคนอาจจะบอกเฮ้ย...มั่นใจอะไรเบอร์นั้น ล่าสุด ราชบุรี เอฟซี ที่มีทีเด็ด "ซุปตาร์โตโน่" มาร่วมทีมยังโดน โปฮัง สตีลเลอร์ส สั่งสอน 0-2 ตั้งแต่นัดแรก อันนี้ต้องเข้าใจก่อนว่า กลุ่ม จี นั้นมีแต่ทีมมหาโหดทั้งนั้น ไม่ว่าจะ โปฮัง จากเกาหลีใต้ หรือ นาโงย่า แกรมปัส ที่เวลานี้อยู่อันดับ 3 เจลีก ประเทศญี่ปุ่น ส่วน ยะโฮร์ ทีมจากมาเลเซียก็จริง แต่ตัวผู้เล่นล้วนชื่อชั้นเหนือกว่าเราเยอะต้องทำใจ เช่นเดียวกับ กลุ่ม เอช ที่มี เชียงราย ยูไนเต็ด อยู่ร่วมกับ กัมบะ โอซาก้า (ญี่ปุ่น), ชุนบุค เอฟซี (เกาหลีใต้) และ เทมปิเนส โรเวอร์ส (สิงคโปร์) ดูแล้วอาจลุ้นเข้ารอบยาก
ส่วน 2 ทีมไทยลีกที่น่าจะมีลุ้นถึงการเข้ารอบต่อไป คือ กลุ่ม เอฟ ที่มี บีจี, คาย่า เอฟซี (ฟิลิปปินส์), อุลซาน ฮุนได (เกาหลีใต้) และ เวียตเทล (เวียดนาม) ดูแล้ว "กระต่ายปทุมธานี" มีลุ้นเข้ารอบเหมือนกัน เช่นเดียวกับกลุ่ม เจ การท่าเรือ เอฟซี ร่วมสายกับ เซเรโซ โอซาก้า สโมสรคุณภาพเจลีก ที่ดูเหมือนจะขนชุดใหญ่เดินทางมา ส่วน กว่างโจว เอฟซี จากจีน ชุดนี้ก็ดูไม่น่าเกรงขามเท่าไหร่ รวมถึง คิตฉี เอสซี จากฮ่องกง ดูยังไงก็พอได้อยู่...