เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2564 "บิ๊กแชมป์" กรวีร์ ปริศนานันทกุล รักษาการประธานบริหาร บริษัท ไทยลีก จำกัด เปิดให้สื่อมวลชนให้ซักถามกรณีที่ลีกฟุตบอลภายในประเทศทุกดิวิชั่นถูกเลื่อนไปตลอดเดือนมกราคมนี้ เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
โดย "บิ๊กแชมป์" กล่าวว่า "สาเหตุของการเลื่อนการแข่งขันออกไปทั้งลีก เป็นเพราะตารางการแข่งขันจะมีผลต่อการฟาดแข้งในเกมสุดท้ายที่ต้องลงเตะพร้อมกัน และอาจมีส่วนได้ส่วนเสียต่อการลุ้นแชมป์ ลุ้นหนีตกชั้น หรือลุ้นเลื่อนชั้น ขณะที่ฟุตบอลลีกต่างประเทศลงทำการแข่งขันได้เพราะคำสั่งของรัฐบาลแต่ละประเทศนั้นไม่เหมือนกัน ซึ่งในประเทศไทยนั้นหากมีนักฟุตบอลสักคนในทีมติดเชื้อโควิด-19 ทุกคนในทีมนั้นๆ ก็ต้องเข้ารับการกักตัวทันที 14 วัน"
"ขณะที่ศูนย์ตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่เคยทำสัญญาไว้ว่าจะมีการมาตรวจอย่างสม่ำเสมอให้กับทีมฟุตบอลนั้น ทางศูนย์ฯ ได้แจ้งมาว่าไม่สะดวกในช่วงนี้ เพราะเวลานี้เชื้อไวรัสดังกล่าวกำลังแพร่กระจายอย่างต่อเนื่อง ต้องตามไปตรวจในหลายพื้นที่หลักพันคน ทำให้บุคลากรไม่เพียงพอ รวมไปถึงทีมฟุตบอลไม่ใช่กลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง ทางศูนย์ฯ เลยขอให้ทีมฟุตบอลหยุดตรวจไปก่อน"
"ทั้งนี้การเลื่อนโปรแกรมลีกนั้น ถ้าหากว่าศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย มีการเลื่อนแข่งขันออกไป ก็จะนำโปรแกรมที่เลื่อนการแข่งขันนั้นไปใส่ไว้ในช่วงเวลาดังกล่าวในเดือนมีนาคม และลีกจะจบช่วงกลางเดือนเมษายนก่อนเทศกาลสงกรานต์ แต่ถ้าคัดบอลโลกไม่เลื่อน ลีกก็อาจต้องจบช้ากว่านั้น"
"ในส่วนของไทยลีก 3 ตามปกติแล้วจะสิ้นสุดการแข่งขันในรอบปกติช่วงสิ้นเดือนมกราคม ซึ่งตอนนี้ก็ใกล้จะจบแล้ว ทางเราได้พูดคุยกับสโมสรทุกสโมสร เสียงส่วนใหญ่เกิน 80 เปอร์เซนต์เห็นว่าให้ควรตัดจบไปเลย บริษัท ไทยลีก จำกัด จึงไปเปิดระเบียบดูเพื่อใช้หาทีมเข้ารอบไปเล่นในเพลย์ออฟ ซึ่งก็ได้ประกาศแล้วอาจจะเริ่มช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งต้องรอดูสถานการณ์อีกครั้ง"
"นอกจากนี้ทางสมาคมฯ ได้มีการยื่นแผนเสนอไปยัง ศบค. เพื่อขอทำการแข่งขันแบบปิด ซึ่งให้ทาง ศบค. ได้พิจารณาและอนุมัติเป็นกรณีพิเศษถ้าสถานการณ์ของเชื้อไวัรัสโควิด-19 ดีขึ้น ก่อนหน้านี้ก็ได้มีการศึกษาจาก เอเอฟซี ในการเตะที่สนามกลาง และจะนำมาปรับใช้กับไทยลีก ซึ่งก็ต้องมีการปรึกษาหารือกับสโมสรกันต่อไป โดยเฉพาะไทยลีกนั้นเหลือเกมที่ยังต้องทำการแข่งขันอีกเป็นร้อยนัด ไม่ง่ายที่จะวิธีนี้ แต่ยังยืนยันว่าคงไม่ถึงกับต้องยุติการแข่งขันในฤดูกาลนี้"
"ส่วนเรื่องสำคัญอีกหนึ่งเรื่องอย่างจำนวนเงินลิขสิทธิ์ สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ได้เริ่มคุยกับการกีฬาแห่งประเทศไทย เพื่อขอเงินเยียวยา ซึ่งทางกกท.ก็ได้อนุมัติมาแล้ว 1 ล้านบาท ซึ่งจะมีการจัดสันปันส่วนกันอีกครั้ง"
"ปิดท้ายที่การแข่งขันในฤดูกาลหน้า ได้มีการศึกษาจากการทำการบ้านในฤดูกาลนี้ โปรแกรมทีมชาตินั้นหลักๆก็มีคัดบอลโลก, ซีเกมส์ และซูซูกิ คัพ ก็คงต้องวางโปรแกรมกันให้ดี ซึ่งคราวๆอาจออกสตาร์ทกันช่วงเดือนสิงหาคม หรือกันยายน จบเลกแรกที่เดือนธันวาคม และเลกสองเริ่มหลังปีใหม่คือเดือนมกราคม ทั้งนี้ก็เพื่อให้ตลาดซื้อขายนักฟุตบอลตรงกับตลาดสากล" กรวีร์ ทิ้งท้าย