คอลัมน์ “ริงไซด์ ไฟต์คลับ” โดย “ลักษมณ์ นันทิวัชรินทร์”
สัปดาห์ที่แล้ว นอกจากศึก “มวยย้อนยุค” ที่ “มฤตยูดำ” ไมค์ ไทสัน ซดกับ รอย โจนส์ จูเนียร์ อย่างดุเดือดลืมวัยแล้ว ช่วงคืนวันเสาร์ต่อเช้าวันอาทิตย์ ยังมีศึก “มวยสร้าง” ในรุ่นเฮฟวี่เวทของโปรโมเตอร์ แฟร้งก์ วอร์เร็น ซดกันอีก 1 คู่ เป็นรายการ “ศึกสายเลือด” ระหว่างนักชกอังกฤษด้วยกัน “ทริปเปิ้ล ดี” แดเนียล “ไดนาไมท์” ดูบัวส์ พบกับ “จอมมหึมา” โจ จอยซ์
คู่นี้เป็นมวยสร้างในสังกัดโปรโมเตอร์ แฟร้งก์ วอร์เร็น ทั้งคู่ ต่างฝ่ายต่างยังไม่เคยแพ้ใคร โดย “ทริปเปิ้ล ดี” แดเนียล ดูบัวส์นั้นวัย 23 ปี ชนะรวดมา 15 ไฟต์โดยเป็นการชนะน็อกถึง 14 ไฟต์ ส่วน “จอมมหึมา” โจ จอยซ์ นั้นอายุปาเข้าไป 35 ปีแล้ว แต่เพิ่งชกอาชีพมาเพียง 11 ไฟต์ชนะรวดเหมือนกัน น็อกถึง 10 ไฟต์ คู่นี้ถือว่าแฟนมวยอังกฤษให้ความสนใจกันมาก เพราะเป็นความหวังที่จะก้าวขึ้นมาท้าชิงความยิ่งใหญ่ของนักชกอังกฤษอีก 2 รายที่ครอบครองวงการมวยโลกรุ่นยักษ์อยู่ตอนนี้อย่างไทสัน ฟิวรี่ และแอนโธนี่ โจชัว เรียกว่าไฟต์นี้ใครชนะ มีโอกาสก้าวขึ้นท้าชิงบัลลังก์โลกเร็วๆ นี้แน่
ก่อนการชกเกจิมองต่างมุมกันไป บางส่วนเชื่อว่าความหนุ่มแน่นและพลังหมัดของ แดเนียล “ไดนาไมท์” ดูบัวส์ น่าจะกล่อมโจ จอยซ์ ลงได้ แต่อีกส่วนหนึ่งก็มองว่าโจ จอยซ์ รูปร่างสูงใหญ่ได้เปรียบ แถมทักษะดีกว่า เพราะมีดีกรีเหรียญเงินโอลิมปิก 2016 ในรุ่นซูเปอร์เฮฟวี่เวทเป็นประกัน ก่อนชกทาง “จอมมหึมา” ชั่งน้ำหนักได้ถึง 258 ปอนด์ส่วน “ทริปเปิ้ล ดี” หนัก 248 ปอนด์ ช่วงชกทางโจ จอยซ์ก็ได้เปรียบถึง 6 ซม เริ่มการชกแดเนียล ดูบัวส์ ที่หนุ่มกว่าเดินเข้าหา พยายามออกหมัดหนักๆ เข้าใส่ทันที แต่โจ จอยซ์ ไม่สะเทือน และอาศัยหมัดแย็ปซ้ายกระแทกที่หนักหน่วงแม่นยำ ค้ำดูบัวส์ให้อยู่วงนอกเข้าไม่ติด โจ จอยซ์ โชว์ทักษะออกแย็ปซ้ายหมัดเดียวผ่านตลอด ดูบัวส์ยิ่งเดินยิ่งโดนจนตาซ้ายบวมปูด ถึงยก 10 “ทริปเปิ้ล ดี” ตาซ้ายปิดสนิทและเมื่อ “จอมมหึมา” แย็ปซ้ายกระแทกเข้าเต็มเบ้าตาซ้ายอีกที นักชกหนุ่มก็ลงไปคุกเข่าฟังกรรมการนับครบ 10 ยอมแพ้ไปอย่างง่ายดาย แดเนียล ดูบัวส์ โดนรุมกระหน่ำจากทุกสารทิศว่า “ใจมด” เพราะไม่ได้โดนหนักๆ แต่อย่างใด ไฟต์นี้ถือเป็นไฟต์สำคัญในชีวิตที่จะตัดสินว่าจะได้ก้าวไปเปิดศึกใหญ่ๆ กับนักชกระดับพระกาฬรายอื่นหรือไม่ ไม่น่าจะยอมยกธงขาวง่ายๆ แบบนี้ แต่ภายหลังมีข่าวว่าทางดูบัวส์นั้นถึงกับกระดูกเบ้าตาแตก พี่เลี้ยงยังบอกว่ายอมแพ้ไปน่ะดีแล้ว
ส่วนทาง “จอมมหึมา” โจ จอยซ์ ก็ออกมาประกาศท้าโอเล็กซานเดอร์ อูซิค นักชกยูเครนที่เพิ่งเอาชนะดีเร็ก ชิโซร่า นักมวยอังกฤษอีกราย คว้าแชมป์ WBO-Inter ในรุ่นเฮฟวี่เวทมาทันที โดยอูซิคนั้นถือเป็นมวยจอมฝีมืออีกราย คว้าเหรียญทองในโอลิมปิก 2012 ในรุ่นเฮฟวี่เวท และเป็นแชมป์ “ไร้เทียมทาน” ในรุ่นครุยเซอร์เวทมาก่อนที่จะขยับเลื่อนรุ่นขึ้นมาเฮฟวี่เวทได้ 2 ไฟต์รวมไฟต์ล่าสุดกับดีเร็ก ชิโซร่าที่ว่านี้ แต่ก็มีเสียงทักว่าอูซิคนั้นรูปร่างเล็กเสียเปรียบนักชกในรุ่นเฮฟวี่เวทรายอื่นๆ ยิ่งถ้าเจอกับ โจ จอยซ์ ที่สูงใหญ่ด้วยจะยิ่งเสียเปรียบมาก คู่นี้เคยเจอกันแล้วในปี 2013 ในรายการ World Series of Boxing ซึ่งอูซิคเอาชนะคะแนนไปได้หลังซดกันครบ 5 ยกตามกติกา ก็ต้องดูว่าเส้นทางของ โจ จอยซ์ จะเป็นอย่างไร แต่ดูว่าทางแฟร้งก์ วอร์เร็น จะไม่ค่อยปลื้มเท่าไหร่ เพราะอายุปาเข้าไป 35 แล้ว ดูบัวส์แพ้ไฟต์นี้ แฟร้งก์ วอร์เร็น ปวดหัวเลยเพราะต้องมาปั้นกันใหม่อีก