เอ่ยชื่อ “ดีเอโก มาราโดนา” แฟนบอลย่อมมีช่วงเวลาที่ประทับใจในตัวเขาแตกต่างกันไป หลายคนอาจชื่นชอบลีลาในสีเสื้ออาร์เจนตินา หรือความแพรวพราวบนฟลอร์หญ้ากับนาโปลี อันเป็นสองช่วงเวลาที่รุ่งโรจน์ที่สุดในชีวิตการค้าแข้งของเทวาลูกหนังรายนี้
ช่วงเวลาความสำเร็จกับทีมชาติอาร์เจนตินา และนาโปลี ถูกสื่อหยิบมาเล่าถึงซ้ำแล้วซ้ำเล่าไม่รู้จบ ทว่า หากสังเกตให้ดี “มาราโดนา” ยังเคยมีช่วงเวลาหนึ่งที่โยกย้ายไปค้าแข้งที่สเปน แน่นอนว่ามันไม่ค่อยถูกพูดถึงมากนักเพราะเป็นห้วงเวลาเดียวที่ มาราโดนา ไม่มีแชมป์ประดับบารมี
แต่ก็ยากปฏิเสธว่ามันไม่น่าสนใจ เพราะช่วงชีวิตที่ดาวเตะหมายเลข 10 ค้าแข้งอยู่กับเซบียา ทีมดังแห่ง ลา ลีกา สเปน เมื่อซีซัน 1992-93 แม้เพียงซีซันเดียว แต่ก็ฝากผลงานและวีรกรรมตามสไตล์มาราโดนาเอาไว้เหมือนทุกทีมที่ผ่านมา
ย้อนกลับไปที่ศึก เซเรีย อา อิตาลี ซีซัน 1990-91 มาราโดนา อยู่ในช่วงท้ายปลายทางกับนาโปลี ทีมที่เจ้าตัวร่ายมนต์ช่วยให้คว้าแชมป์ลีก 2 สมัย ความสัมพันธ์ของผู้บริหารกับมาราโดนา ไม่สู้ดี ดาราลูกหนังแห่งอเมริกาใต้ ติดโทษแบน 15 เดือนเพราะเสพโคเคน และมองหาทางที่จะไปให้พ้นจากวงจรชีวิตอันน่าเบื่อในแดนมะกะโรนี
ตัดไปที่ เซบียา เวลานั้นเป็นทีมท้ายตาราง กระนั้นพวกเขาก็ได้ตัวกุนซือชื่อ คาร์ลอส บิลาร์โด ชายที่เคยร่วมมือกับมาราโดนา พา “ฟ้าขาว” เถลิงแชมป์โลกปี 1986 ที่เม็กซิโก บิลาร์โด ทำให้แฟนบอลตื่นเต้นด้วยการประกาศว่า เซบียา จะเอาตัว มาราโดนา มาร่วมงานและทำให้ทีมกลับมาแข็งแกร่งอีกครั้ง
สิ่งนั้นกระตุ้นให้ หลุยส์ คูเอบาส ประธานเซบียา พิจารณาข้อเสนอให้ นาโปลี ปล่อยตัวดาราฟุตบอลโลกออกมาที่ราคา 2.5 ล้านปอนด์ (ประมาณ 100 ล้านบาท) แต่ถูก นาโปลี ปฏิเสธอย่างไม่ใยดี เรื่องอะไรที่จะขายพระเอกของทีมออกไป แม้มันจะไม่อยู่กับร่องกับรอยเท่าไหร่แล้วในโมงยามนั้น
มาราโดนา มีปัญหาเรื่องยาเสพติดอย่างหนัก เป็นเรื่องยากที่จะทำให้ดีลซื้อขายเกิดขึ้น กระนั้น เซปป์ แบลตเตอร์ ที่ช่วงนั้นยังเป็นเลขานุการของฟีฟ่า ก็เสนอตัวเข้ามาช่วยไกล่เกลี่ย การพูดคุยเกิดขึ้นยาวนาน 5 ชั่วโมง สุดท้าย มาราโดนา ก็โยกย้ายมาเล่นที่เซบียา ในเดือนกันยายน ปี 1992 สำเร็จ
ค่าตัว 4.5 ล้านปอนด์ (ประมาณ 182 ล้านบาท) รับผิดชอบโดย ซิลวิโอ แบร์ลุสโคนี เจ้าของสื่อยักษ์ใหญ่ในอิตาลี โดยมีสัญญาผูกพันกันว่า เซบียา ต้องพา มาราโดนา มาเตะเกมอุ่นเครื่องรายการต่างๆ เพื่อช่วยโปรโมตบริษัท แน่นอนว่าทั้งสองฝ่ายต่างยินดี และ มาราโดนา ก็พร้อมเริ่มต้นการเดินทางครั้งใหม่ในดินแดนกระทิงดุ
การเปิดตัวของ มาราโดนา ต่อหน้าแฟนบอล สร้างความฮือฮาตามสูตร แฟนบอลทยอยซื้อตั๋วปีกันอย่างร้อนแรง ขายได้ถึง 40,000 ที่นั่ง ได้กำไรเข้ากระเป๋าอีก 2.2 ล้านปอนด์ (ประมาณ 88 ล้านบาท) และความเป็นสตาร์ระดับโลกทำให้ทุกคนที่เกี่ยวข้องทั้งโค้ช นักเตะ และสตาฟ ยอมรับบทบาทให้ มาราโดนา เป็นพระเอกนำทัพโดยสดุดี
มาราโดนา ทำได้ดีในเกมกระชับมิตรต่างๆ คว้าชัยชนะเหนือ บาเยิร์น มิวนิก, ลาซิโอ, เซา เปาโล ฯลฯ ลีลาบนฟลอร์หญ้ายังคงแพรวพราวสร้างความตื่นเต้นให้เพื่อนร่วมทีมทุกคน จนทำให้ทุกฝ่ายเชื่อมั่นว่า เซบียา มีความหวังถึงการลุ้นแชมป์ หรือโควตาฟุตบอลยุโรปสำหรับศึก ลา ลีกา ซีซันที่จะมาถึง
และเมื่อ ลา ลีก้า เปิดฉากซีซันใหม่ มาราโดน่า ร่ายมนต์วิเศษตามถนัด ช่วยทีมคว้าชัยชนะนัดต่างๆ และเอนเตอร์เทนแฟนบอลตามสไตล์ นัดที่เจอกับ รีล ซาราโกซา มาราโดนา หยิบเอากระดาษฟอยล์ทรงลูกบอลที่แฟนๆ โยนมาให้ เอามาเดาะโชว์ในสนาม เรียกรอยยิ้มจากทุกคน แถมยังมีน้ำใจกับทุกคนในสโมสร เช่น ซื้อนาฬิกาโรเล็กซ์ให้, แจกเสื้อเป็นที่ระลึก และอนุญาตให้เพื่อนร่วมทีมเอารถยนต์สุดหรูที่ซื้อไว้ออกไปขับเล่นได้
ทุกอย่างกำลังไปได้สวย เส้นทางโรยด้วยกลีบกุหลาบ เซบียา กำลังเกาะกลุ่มหัวตาราง แต่เมื่อ มาราโดนา ถูกเรียกตัวกลับไปติดทีมชาติเพื่อเตะอุ่นเครื่องรายการต่างๆ เตรียมตัวสำหรับฟุตบอลโลก 1994 มาราโดนา ทุ่มใจเต็มร้อยให้แก่ชาติบ้านเกิดแน่นอน แต่ เซบียา ไม่ยอมปล่อยให้เจ้าตัวกลับไปเล่นทีมชาติ สิ่งที่ตามมาคือ มาราโดนา ออกจากแคมป์สโมสรไปเล่นทีมชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต
ตั้งแต่นั้นมา ความสัมพันธ์ระหว่าง เซบียา กับดาราลูกหนังแดนฟ้าขาว ไม่แนบแน่นเหมือนเดิมอีก มาราโดนา เริ่มหมดสภาพกลายเป็นคนอ้วน ซ้อมน้อยลง แถมยังมีเรื่องฉาวนอกสนามทั้งเสพยา และขับรถเร็วเกินกำหนดจนถูกตำรวจจับ สุดท้ายมาถึงจุดแตกหัก เกมที่ เซบียา เจอกับ เบอร์โกส์ นายใหญ่อย่าง บิลาร์โด ถอดมาราโดนาออกมาพัก มาราโดนาไม่พอใจอย่างมาก
และนั่นก็คือเกมสุดท้ายของเขากับทีมเซบียา เพราะหลังจากนั้น แชมป์โลกปี 1986 ก็เก็บของย้ายออกจากทีมไปเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน ปี 1993 ความฝันที่แฟนบอลเซบียาจะได้เห็นทีมรักไปถึงแชมป์หรือเตะฟุตบอลยุโรปต้องจบลง ทีมจบอันดับ 7 ส่วน มาราโดนาก็ฟ้องร้องเรียกค่าเหนื่อยที่ทีมยังติดค้างเขาไว้ในสัญญา
มาราโดนา ปิดฉากชีวิตกับเซบียา ด้วยสถิติเล่น 26 นัด ยิง 5 ประตู แต่ที่สุดแล้วบุญเก่าที่มีก็ทำให้ มาราโดนา กลับไปเล่นฟุตบอลโลก 1994 กับอาร์เจนตินาสมใจ แต่ฉากจบก็ไม่สมหวังอีกเพราะถูกจับได้ว่าใช้สารกระตุ้นในรอบแบ่งกลุ่ม สุดท้ายได้เล่นแค่ 2 นัดแล้วถูกส่งตัวกลับบ้าน และ อาร์เจนตินา ก็วืดแชมป์โลกอีกตามเคย
เทวาลูกหนังจากบัวโนส ไอเรส กลับมาค้าแข้งกับ นีเวลส์ โอลด์ บอยส์ และ โบคา จูเนียร์ สองทีมดังแห่งลีกบ้านเกิด ก่อนแขวนสตั๊ดเลิกเล่นในซีซัน 1997-98 ทิ้งทุกสิ่งที่ทำไว้ตลอดการเล่นอาชีพให้เป็นตำนาน
แม้ช่วงเวลาที่ เซบียา จะแสนสั้นและไม่มีแชมป์ติดมือ เลยไม่มีเรื่องพอที่จะเอาไปอวดใครได้ในสายตาของ มาราโดน่า แต่ก็ถือเป็นการเดินทางที่น่าตื่นเต้นครั้งหนึ่งในชีวิตของมาราโดนา อย่างน้อยแฟนบอลจากสเปนก็ยังมีโอกาสได้เห็นมหาดาราแห่งอาร์เจนตินา ย้ายมาโชว์ลีลาบนสนามให้เห็นกับตาสักครั้งในชีวิต
