คอลัมน์ “ริงไซด์ ไฟต์คลับ” โดย “ลักษมณ์ นันทิวัชรินทร์”
วงการมวยโลกไทยมีแชมป์โลกและนักมวยระดับโลกมากมายหลายคนมาตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา ส่วนใหญ่นักชกไทยก็จะไปเปิดศึกกับนักมวยต่างชาติเพื่อลุ้นชิงแชมป์โลก หรือป้องกันเข็มขัดโลก นานๆ ครั้งถึงจะมีศึกที่นักมวยไทยมาเปิด “ศึกสายเลือด” พบกันเอง ที่ดังๆ แฟนมวยรุ่นเก่าๆ ยังจำได้ ก็น่าจะเป็นราชารุ่นฟลายเวท ชาติชาย เชี่ยวน้อย ป้องกันตำแหน่งกับพันธุ์ทิพย์ แก้วสุริยะ เมื่อปีพ.ศ. 2510 หรือถัดมาอย่างสด จิตรลดา ที่พบกับเมืองชัย กิตติเกษม 2 ครั้ง ในปีพ.ศ. 2534 และ 2535 รวมทั้งดาวรุ่ง ชูวัฒนะ ที่เคยเปิด “ศึกสายเลือด” กับนักชกไทยถึง 2 ราย คือหลักหิน ซีพียิม และกับวีระพล นครหลวงโปรโมชั่น ในช่วงปี 2538 ที่ใหม่หน่อยก็ โอเล่ห์ดง กระทิงแดงยิม ชิงแชมป์โลกมาได้จากเด่น จุลละพันธ์ และเคยป้องกันแชมป์กับพรสวรรค์ ป.ประมุขถึง 2 ครั้ง ในช่วงปี 2550-2551
วันศุกร์ที่จะถึงนี้ เวลาดีช่วงมวยโลกบ่ายสองโมง ก็จะมีรายการแชมป์โลกชาวไทยป้องกันเข็มขัดโลกกับนักชกไทยด้วยกันอีกราย คือ “ยักษ์แคระ” วันเฮง ซีพีเอฟ “นักชกไร้พ่าย” ที่ชนะรวดมา 54 ไฟต์ วัย 35 ปี เจ้าของแชมป์โลกรุ่นมินิมั่มเวทของสภามวยโลก WBC จะป้องกันแชมป์โลกกับ เพชรมณี ซีพีเอฟ วัย 29 ปี เจ้าของสถิติชก 35 ชนะ 34 (น็อก 22) แพ้ 1 ปัจจุบันเป็นรองแชมป์โลกอันดับ 3 ในรุ่นนี้ของ WBC อยู่ด้วย โดยทั้งคู่เตรียมเปิดศึกกันที่จังหวัดนครสวรรค์
คู่นี้ว่ากันจริงๆ “ยักษ์แคระ” วันเฮง ซีพีเอฟ เป็นต่อเยอะ ไหนจะประสบการณ์ที่โชกโชน ผ่านศึกเหนือเสือใต้มาเยอะ ในขณะที่เพชรมณีนั้นแม้จะสถิติดูสวยหรู พ่ายครั้งเดียวในการเดินทางไปให้นักชกจีนไต่อันดับเมื่อปี 2017 หรือเมื่อ 3 ปีมาแล้ว แต่ว่ากันจริงๆ มวยที่เพชรมณีเจอมาก็เป็นมวยที่ส่งมาให้งาบเป็นส่วนใหญ่ เป็นมวยใหม่บ้าง หรือมวยที่มีสถิติแพ้เกือบๆ จะเท่ากับชนะบ้าง เรื่องกระดูกมวยทางแชมป์โลกดีกว่าแน่ๆ แต่วันเฮงนั้นถือว่าเรื้อสังเวียนพอสมควร เพราะชกครั้งล่าสุดก็เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ในการป้องกันเข็มขัด “ไฟต์บังคับ” กับซิมปิเว คองโก นักชกแอฟริกาใต้ จากนั้นก็เรื้อเวทีมาโดยตลอด ส่วนเพชรมณีนั้นปีนี้ชกมาแล้ว 3 ไฟต์ ถึงเวลาก็ต้องดูกันว่า “เจ้าน้อย” วันเฮงนั้นจะสนิมเกาะเขรอะแค่ไหน
อีกส่วนก็เห็นจะเป็นเรื่องวัยของวันเฮงที่ปาเข้าไป 35 ปีแล้ว แถมตลอดปีที่ผ่านมาก็มีข่าวเรื่องความเบื่อๆ อยากๆ กับวงการมวยโลกอยู่จนร่ำๆ จะแขวนนวมหลายทีอยู่ จะมีไฟในการฟิตซ้อมเตรียมตัวแค่ไหนก็น่าคิด ยิ่งล่าสุดในการชั่งน้ำหนัก 7 วันก่อนการชก ทางวันเฮงนั้นน้ำหนักเกินกติกาที่กำหนดไว้ถึง 0.88 กิโลกรัม แต่อาศัยว่าชกกันเอง ทางฝั่งเพชรมณีเลยยอมๆ หยวนๆ กัน ทางสักขีพยานก็ไม่ได้เข้มงวดอะไร ถึงวันชั่งน้ำหนักอย่างเป็นทางการ จะทำน้ำหนักได้หรือไม่ ร่างกายจะฟิตพร้อมจริงแค่ไหน ก็อาจเป็นปัจจัยเหมือนกัน นานๆ จะมี “ศึกสายเลือด” ของนักชกไทยด้วยกันซะที ศึกนี้ถือว่าน่าดู