คอลัมน์ Buzzer Beat โดย MVP
สิ้นเสียงสัญญาณออดจบศึกบาสเกตบอล เอ็นบีเอ (NBA) รอบชิงชนะเลิศ เกม 6 แอลเอ เลเกอร์ส เอาชนะ ไมอามี ฮีต 106-93 ปิดซีรีส์ 4-2 เกม ที่ดิสนีย์ เวิลด์ มลรัฐฟลอริดา ช่วงเช้าวันจันทร์ที่ 12 ตุลาคม ตามเวลาไทย กลับสู่จุดที่แฟรนไชส์เคยยืนเมื่อ 16 ครั้งก่อน และครั้งสุดท้าย เมื่อปี 2010
แชมป์สมัยที่ 17 ของแฟรนไชส์ นำมาโดย เลอบรอน เจมส์ คว้ารางวัลผู้เล่นทรงคุณค่า (MVP) รอบชิงชนะเลิศ สมัยที่ 4 ด้วยค่าเฉลี่ย 29.8 แต้ม 11.8 รีบาวน์ด 8.5 แอสซิสต์ 1.2 สตีล (ขโมยบอล) และ แอนโธนี เดวิส ผลงาน 25.0 แต้ม 10.7 รีบาวน์ด และ 2.0 บล็อก ตลอดการลงเล่นรอบชิงฯ ครั้งแรก
หากมองข้ามอคติต่อ เลอบรอน วัย 35 ปี และกำลังเข้าสู่ซีซันที่ 18 ของอาชีพ การจับคู่ เดวิส นัมเบอร์วันดราฟต์ ปี 2012 น่าจะช่วย เลเกอร์ส ครองตำแหน่งบนสุดของห่วงโซ่อาหารราว 2-3 ปีข้างหน้า นับเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขของเหล่าสาวก “ม่วง-ทอง” หลังห่อเหี่ยวกับยุคตกต่ำมายาวนาน ก่อนหน้า “คิงเจมส์” แยกทาง คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส แบบฟรีเอเจนต์ ปี 2018
ก่อนเปิดฉากฤดูกาล 2019-20 สถิติชนะมากกว่าแพ้ของ เลเกอร์ส ครั้งสุดท้าย เกิดขึ้นเมื่อฤดูกาล 2012-13 และนับจากนั้น 6 ซีซัน เปอร์เซ็นต์ชนะของ เลเกอร์ส คิดเป็น 33.1 เปอร์เซ็นต์ จมบ๊วยของลีกร่วมกับ นิว ยอร์ก นิกส์ เปรียบเทียบกับรอยต่อระหว่างยุค “โชว์ไทม์” ของ แมจิก จอห์นสัน กับการย้ายมาของ ชาคิลล์ โอ'นีล เซ็นเตอร์ไซส์ยักษ์ ผลงานก็ยังไม่น่าเกลียดปานนี้
ช่วงตกต่ำสุดขีด ฤดูกาล 2015-16 เลเกอร์ส สถิติชนะ 17 แพ้ 65 เนื่องจาก โคบี ไบรอันท์ ถูกอาการบาดเจ็บรบกวน ก่อนรีไทร์ เชื่อว่ากองเชียร์ยังมีความหวังเล็กๆ ว่าแฟรนไชส์จะกลับสู่ความเกรียงไกรเร็วๆ นี้ ด้วย 2 รุกกีตัวท็อป ดี'แองเจโล รัสเซลล์ กับ จูเลียส แรนเดิล ทว่ายิ่งนานวันยิ่งแปรเปลี่ยนเป็นความอดทน และเผชิญดราม่าต่างๆ นานา
6 ปีที่ห่างหายจากเพลย์ออฟ รวมถึงความวุ่นวายของธุรกิจครอบครัว ซึ่งจบด้วย จีนี บัสส์ แย่งอำนาจบริหารจากพี่ชาย, ล้มเหลวกับการจ้าง 3 เฮดโค้ช ไมค์ ดี'แอนโทนี, ไบรอน สกอตต์ และ ลุค วอลตัน ตลอดจนตำแหน่งผู้จัดการทั่วไป ตั้งแต่ยุค มิตช์ คัพแช็ก, แมจิก จอห์นสัน และ ร็อบ เปลินกา
ความมืดมนที่เคยปกคลุมเริ่มจางหาย เลเกอร์ส มองเห็นแสงสว่าง ด้วยประวัติศาสตร์อันเกรียงไกรของแฟรนไชส์ ดึงดูด เลอบรอน สู่ถิ่นสเตเปิล เซ็นเตอร์ และยอมเสีย 2 ขุนพลดีกรีดราฟต์อันดับ 2 แบรนดอน อิงแกรม ฟอร์เวิร์ด กับ ลอนโซ บอลล์ การ์ดจ่าย ที่แจ้งเกิดไม่สำเร็จ แลกกับ เดวิส ซูเปอร์สตาร์ นิว ออร์ลีนส์ เพลิแกนส์
ปี 2020 ซึ่งเริ่มต้นด้วยการสูญเสีย โคบี เนื่องจากเฮลิคอปเตอร์ตก ตอนจบของซีซันราวกับถูกลิขิตไว้เรียบร้อยแล้ว ตามที่ “คิงเจมส์” โพสต์ข้อความบนเพจ “อินสตาแกรม” หลังรู้ข่าวช็อกวงการ NBA “ผมขอสัญญา ผมจะสานต่อตำนานของคุณต่อไป คุณมีความหมายต่อเราทุกคน โดยเฉพาะ เลเกอร์ เนชัน นี่เป็นความรับผิดชอบของผมที่ต้องแบกสิ่งเหล่านี้ขึ้นบ่า แล้วก้าวต่อไป”
และแล้ว เลอบรอน วัย 35 ปี ทำตามสัญญาเรียบร้อยแล้ว น่าเสียดายแค่เพียงว่า บรรยากาศฉลองแชมป์คงจะชื่นมื่นกว่านี้ หาก โคบี ขุนพลชุดแชมป์ 5 สมัย ยังมีชีวิตอยู่ และร่วมแสดงความยินดีกับรุ่นน้อง แทนที่จะติดตามอยู่ห่างๆ จากที่ไหนสักแห่ง