คอลัมน์ Buzzer Beat โดย MVP
ขณะกำลังนั่งปั่นต้นฉบับอยู่นี้ หลายๆ ท่านคงจะทราบผลบาสเกตบอล เอ็นบีเอ (NBA) รอบชิงชนะเลิศ เกมที่ 4 เรียบร้อยแล้ว ตำแหน่งแชมป์คงไม่ใช่ใครอื่น นอกเสียจาก แอลเอ เลเกอร์ส ตามสภาพ ไมอามี ฮีต ฟูลทีม ก็ต้านลำบากอยู่แล้ว เนื่องจาก เลอบรอน เจมส์ กับ แอนโธนี เดวิส กำลังเข้าหากันสุดๆ ลำพังแค่ จิมมี บัตเลอร์ กับ แบม อเดบาโย ที่ไม่รู้ว่าหายเจ็บ หรือเข็นลง จะต้านอยู่ได้อย่างไร
กลับสู่สัปดาห์อันแสนสงบสุขของโลก ซึ่งน่าจะคงอยู่กระทั่งพ้นเบรกลูกหนังทีมชาติ หลัง 2 โคตรทีมแห่งเกาะอังกฤษ เสมือนนัดกันโดนคู่แข่งยำเละทั่วหน้า 6-7 ลูก จนปี๊บแทบขาดตลาด ศึกอเมริกันฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) เกิดเหตุโกลาหล นอกเหนือจากพบผู้เล่นติดเชื้อ โควิด-19 จนต้องเลื่อนโปรแกรม 2 เกม ระหว่าง เทนเนสซี ไตตันส์ กับ พิตต์สเบิร์ก สตีลเลอร์ส และ นิว อิงแลนด์ แพทริออตส์ กับ แคนซัส ซิตี ชีฟส์ คือ การวิวาทหลังเกมของ (อดีต) คนในครอบครัวเดียวกัน
แต่ไฮไลท์สำคัญจริงๆ อยู่ที่เกม นิวยอร์ก ไจแอนท์ส แพ้ แอลเอ แรมส์ 9-17 พอเกมจบลงกลับมวยส่งท้าย ระหว่าง โกลเดน เทต ปีกนอก ไจแอนท์ส กับ จาเลน แรมซ๊ย์ คอร์เนอร์แบ็ก แรมส์ ได้เห็นแค่ภาพผ่านๆ ก็คิดแค่ว่า อาจปะทะกันระหว่างเกมตามตำแหน่ง แล้วเกิดอาการค้างคาใจ จึงเปืดฉากสาวกำปั้นกันอย่างดุเดือด ท่ามกลางเพื่อนร่วมทีมนับสิบคน พยายามแยกทั้งคู่ออกจากกัน
เว้นวรรคมา 1-2 วัน พอนั่งปาดหน้าจอ สมาร์ท โฟน เล่นๆ สักพัก ก็ค้นพบสาเหตุความบาดหมางว่า แรมซีย์ เคยมีความสัมพันธ์กับ บรีอันนา เทต น้องสาวของ โกลเดน ดีกรีนักกรีฑา มหาวิทยาลัยมิสซิสซิปปี แล้วทอดทิ้งขณะกำลังตั้งครรภ์ลูกคนที่ 2 คลอดเดือนกันยายน 2019 หรือก่อนหน้า แรมซีย์ ถูก แจ็คสันวิลล์ จากัวร์ส เทรดให้ แรมส์ ไม่นานนัก หลังขัดแย้งกับ ดั๊ก มาร์โรน เฮดโค้ช
นับจากบุตรสาวลืมตาดูโลกราว 1 เดือน แรมซีย์ โพสต์ภาพถ่ายคู่กับแฟนสาวคนใหม่ โมนิกา จิอาวานนา อาชีพแดนเซอร์ และนางแบบ ตามข้อมูลบนเพจ “อินสตาแกรม” ของฝ่ายหญิง และมีผู้ติดตามคนหนึ่ง พาดพิงถึง เทต วัย 32 ปี ควรเคลียร์กับ แรมซีย์ อย่างเปิดอก ซึ่ง อดีตผู้เล่น ดีทรอยต์ ไลออนส์ และ ฟิลาเดลเฟีบ อีเกิลส์ ตอบกลับว่า “เขารู้อยู่แล้วว่า เขาจะต้องมาเจอกับผม”
ต่อมา ขุนพล ซีแอตเทิล ซีฮอว์กส ชุดแชมป์ ซูเปอร์โบว์ล 48 เผยต่อ “นิว ยอร์ก โพสต์” หนังสือพิมพ์ของ สหรัฐอเมริกา “ผมไม่พอใจเลยต่อพฤติกรรมดูหมิ่นที่เขากระทำต่อน้องสาวของผม และสิ่งต่างๆ ที่เขาเคยทำมาก่อน ผมไม่อยากเจาะลึกรายละเอียดไปมากกว่านี้อีกแล้ว”
ขณะเดียวกัน แรมซีย์ ตอบโต้ด้วยโพสต์บน “อินสตาแกรม” สื่อสังคมออนไลน์ “เราอยู่ในสังคมที่คนถูกทอดทิ้งรู้สึกว่า พวกเขาต้องการคำอธิบายของสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นในแต่ละวันของชีวิตเรา ทำไมเราต้องตัดสินใจอย่างที่เราทำ เราไม่มีความจำเป็นต้องตอบใครๆ ยกเว้นคนที่อยู่เบื้องบน”
ตอนนี้แฟนๆ NFL อาจเข้าใจปมขัดแย้งระหว่าง พี่เมีย กับ น้องเขย เรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตาม แรมซีย์ จัดเป็นผู้เล่นที่มีประวัติโชกโชน ด้านการวิวาทหลังเกม โดยมีคู่กรณีอย่าง มาร์คัส ปีเตอร์ส คอร์เนอร์แบ็ก บัลติมอร์ เรฟเวนส์ ปี 2019, เอ.เจ. กรีน ปีกนอก ซินซินเนติ เบงกอลส์ เมื่อปี 2017 แถมยังเป็นกองหลังสไตล์ยั่วยุให้คู่ต่อสู้หัวร้อน หรือเรียกให้ดูหรูๆ ว่า “Trash Talk” นั่นเอง