คอลัมน์ EYE ON SPORTS โดย กษิติ กมลนาวิน ราชวังสัน
วันนี้ 14 ตุลาคม ผมรำลึกถึงวันที่รัฐบาลใช้กำลังทหารและตำรวจ เข้าปราบปรามเข่นฆ่าประชาชนผู้ชุมนุมเรียกร้องรัฐธรรมนูญ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 77 คนและบาดเจ็บกว่า 800 คน แต่ใครจะรู้ว่า เบื้องลึกจริงๆนั้น มันมีผู้ชักใยอยู่เบื้องหลังเพื่อให้เกิดเหตูการณ์ดังกล่าว คนๆนั้น กลุ่มนั้น ไม่เคยคิดว่า ประเทศเป็นของประชาชน และการสังเวยชีวิตผู้คนดังกล่าวก็เพียงเพื่อให้อำนาจอยู่กับตน 47 ปีผ่านไป วันนี้เวียนกลับมาอีกหน ประชาชนเจ้าของประเทศยังคงต้องเรียกร้องทวงอำนาจของตนกลับคืนมา แผ่นดินของเรามันช่างแตกต่างจากชาติเจริญเสียจริง
เมื่อสัปดาห์ก่อน ฟร้องส์ ฟุตบอล (France Football) สื่อฟุตบอลค่ายดังเมืองน้ำหอมผู้ก่อตั้งรางวัล บัลลง ดอร เริ่มโครงการเฟ้นหาสุดยอดนักเตะครบทั้ง 11 ตำแหน่งมาประกอบเป็นทีมในฝันเรียกว่า “บัลลง ดอร ดรีม ทีม” (Ballon d'Or Dream Team) ไม่ว่านักเตะคนนั้นจะค้าแข้งอยู่ในยุคใดก็ตาม โดยใช้รูปแบบการวางตัวผู้เล่นในระบบ 3 - 4 - 3 คือนอกจากผู้รักษาประตู แผงกองหลังมี 3 ตัวคือ แบ๊คขวา เซ็นเต้อร์แบ๊ค และแบ๊คซ้าย กองกลางมี 4 ตัว คือ มิดฟีลด์ตัวรับ 2 ตัว และ มิดฟีลด์ตัวรุก 2 ตัว ส่วนกองหน้าก็วางไว้ 3 ตำแหน่งคือ ปีกขวา ศูนย์หน้า และปีกซ้าย โดย ฟร้องส์ ฟุตบอล จะมีรายชื่อนักเตะเบื้องต้นมาให้ตำแหน่งละ 10 คน
นอกจากมีรายชื่อเบื้องต้นมาบังคับให้เลือกภายในกรอบเท่านี้ แถมมอบสิทธิ์ให้เฉพาะสื่อมวลชนจาก 170 ประเทศทั่วโลกใช้สิทธิ์ตัดสินใจเลือกแทนคนทั้งโลก ผลลัพธ์ที่ได้อาจไม่ตรงใจคนส่วนใหญ่ มันคงไม่ใช่วิถีของประชาธิปไตยอย่างแน่นอน ลำพังตำแหน่งผู้รักษาประตู กับ กองหลัง ที่ถูกเปิดเผยรายชื่อออกมาแล้วนั้น คงเลือกไม่ยากเมื่อเปรียบกับตำแหน่ง กองกลางตัวรุก ที่ตอนนี้เพิ่งมีแพล็มชื่อสุดยอดนักเตะออกมา 20 คน ซึ่งใครๆก็คงต้องรู้สึกลำบากใจอย่างมากที่จะต้องหยิบออกมาเพียง 2 คน
นักเตะเรืองนามที่ค้าแข้งในยุคเกินครึ่งศตวรรษไปแล้ว เราอาจได้ยินเพียงชื่อ ได้อ่านเฉพาะเรื่องราว หรือได้เห็นในภาพข่าวที่หลงเหลืออยู่น้อยมาก อย่างเช่น อัลเฟรโด ดี สเตฟาโน (Alfredo Di Stéfano) ดาวยิง 3 สัญชาติ ที่เล่นให้ทั้ง อารเฆ็นตีนา โกล็อมเบีย และ สเปน เขาโด่งดังสุดขีดตอนค้าแข้งกับ เรอัล มาดริด
นอกจากนั้น ยังมี เรมง โกปา (Raymond Kopa) นักเตะทีมชาติฝรั่งเศส เฟเร้นส์ ปุ๊ชกั๊ช (Ferenc Puskás) นี่ก็โด่งดังกับ เรอัล มาดรีด และเล่นให้ 2 ทีมชาติคือ ฮังการี และ สเปน รวมทั้ง บ๊อบบี้ ชาร์ลเติ้น (Bobby Charlton) นักเตะทีมชาติอังกฤษที่ทางสโมสร แมนเช้สเต้อร์ ยูนายเถ็ด จารึกชื่อจริงให้ว่า โรเบิร์ต ชาร์ลเติ้น (Robert Charlton)
นักเตะดังที่หลายคนยังเกิดทันพอได้เห็นฝีเท้าเป็นบุญตาอย่าง โรแบรโต บัจโจ (Roberto Baggio) เจ้าของผมเปียทองคำทรงหางม้า ทีมชาติอิตาลี เอ็นโซ ฟรานเช้สโกลี (Enzo Francescoli) เจ้าชายลูกหนังแห่งทีมชาติอูรูกวัย รู้ด ฆุลลิท (Ruud Gullit) จอมทัพทีมชาติเนเธ่อร์แลนด์ส เจ้าของผมทรงร้าสต้า มีเช็ล ปลาตีนี (Michel Platini) นโปเลองลูกหนัง จอมทัพทีมชาติฝรั่งเศส ซีโก (Zico) ดาวยิงทีมชาติบราซิว นักเตะระดับโลกรายแรกๆที่มาค้าแข้งใน ญี่ปุ่น รวมทั้ง ซีเนดีน ซีดาน (Zinédine Zidane) จอมทัพทีมชาติฝรั่งเศสที่ประสพความสำเร็จมาแล้วทุกระดับ ได้แช้มพ์ลีกสูงสุดในประเทศ แช้พม์สโมสรทวีป และแช้มพ์สโมสรโลก ในขณะที่ในนามทีมชาติก็คว้ามาทั้ง แช้มพ์ยุโรป และ แช้มพ์โลก
แค่รายชื่อนักเตะที่กล่าวมา ใครไม่ถูกเลือกก็อาจมีคำถามเกิดขึ้นอย่างเคืองๆให้ต้องแจกแจงมาว่า หมอนี่ไม่ดีตรงไหน นั่นยังถือว่า พอข้ามผ่านไปได้ แต่นักเตะระดับสุดยอดของโลกที่แฟนบอลนับพันล้านคนต่างก็พยักหน้ายอมรับจริงๆอย่าง ดิเอโก มาราโดนา (Diego Maradona) จอมทัพร่างเตี้ยแห่งทีมชาติ อารเฆ็นตีนา เจ้าของฉายา เดอะ โกลเดิ้น บอย (The Golden Boy) ที่ครั้งใดก็ตาม เมื่อมีการกล่าวถึงสุดยอดนักเตะที่เก่งที่สุดในโลก ชื่อของเขาจะถูกหยิบยกมาพร้อมๆกับชื่อของ เปเล่ (Pelé) ไข่มุกดำแห่งทีมชาติบราซิว แช้มพ์โลก 3 สมัย จากสโมสร ซานตุ๊ช (Santos) ผู้ที่ยิงประตูอย่างเป็นทางการรวม 1,279 ประตูเป็นสถิติโลก นี่ถ้า 2 นักเตะในตำแหน่ง มิดฟีลด์ตัวรุก ขาดใครใน 2 รายนี้ไปสักคน มันจะเป็นคำถามที่คนทั่วโลกต้องตามราวีไปชั่วชีวิตครับ