นับเป็นการกระทำที่ยากเกินยอมรับได้สำหรับ ลูก้า กอร์เบรี นักแข่งรถโกคาร์ตชาวอิตาเลียน หลังก่อเหตุปากันชนใส่คู่แข่งโดยเจตนา ทั้งที่อยู่ในระหว่างการแข่งขันชิงแชมป์โลก แถมยังเป็นสนามของบิดาตัวเองอีกต่างหาก
เหตุการณ์เกิดขึ้นที่สนาม โลนาโต เซอร์กิต วันที่ 4 ตุลาคม ที่ผ่านมา กับรายการ คาร์ตติง เวิลด์ แชมเปียนชิพ โดย ลูก้า กอร์เบรี นักแข่งวัย 23 ปี ลงสนามขับขี่ชิงชัยกับนักขับคนอื่นๆ บนสังเวียนที่คุณพ่อของตัวเองเป็นเจ้าของ
กอร์เบรี ต้องออกจากสนามแข่งขันเนื่องจากปะทะกับนักขับรายหนึ่งซึ่งคาดว่าเป็น จนกระเด็นออกข้างทาง เปาโล อิปโปลิโต เพื่อนร่วมชาติ ทว่าแทนที่จะออกจากสนามแต่โดยดี กอร์เบรี เดินไปหยิบกันชนที่หลุดจากรถตัวเอง ดักรอให้อีกฝ่ายขับมาหาแล้วปากันชนใส่คู่แข่งที่วิ่งมาด้วยความเร็วสูง
เคราะห์ดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ทว่าเมื่อจบการแข่งขัน กอร์เบรี ทำให้ชื่อเสียงของตัวเองและคุณพ่อมีมลทินมัวหมองเมื่อกล้องวงจรปิดจับภาพว่าเจ้าตัวพุ่งเข้าไปทำร้ายคู่กรณีที่ค็อกพิต จนเจ้าหน้าที่ต้องเข้ามาห้ามและแยกตัวออกมา
"ผมเสียใจ สิ่งที่เกิดขึ้นมันคือสิ่งที่ยอมรับไม่ได้" คอมเมนเตเตอร์ที่บรรยายการแข่งขันรายการนี้ แสดงความเห็นออกทีวี
กอร์เบรี กลายเป็นคนดังชั่วข้ามคืนในวงการมอเตอร์สปอร์ต ซึ่งสหพันธ์ยานยนต์นานาชาติ (FIA) กำลังโดนสังคมนักขับกดดันอย่างหนักเพื่อให้ กอร์เบรี ได้รับโทษแบนตลอดชีวิต เพราะสิ่งที่ทำถือเป็นการทำร้ายคู่แข่งที่อาจนำไปสู่การเสียชีวิต
"ลูก้า กอร์เบรี เพิ่งทำลายโอกาสของตัวเองในการเป็นนักแข่งรถอาชีพ จากพฤติกรรมอันน่ารังเกียจที่เกิดขึ้นในวันนี้ที่ศึกชิงแชมป์โลกโกคาร์ต ได้โปรดแบนนักขับหน้าโง่คนนี้ตลอดชีวิตทีเถอะ" เจนสัน บัตตัน อดีตแชมป์โลก ฟอร์มูล่า วัน ชาวอังกฤษ แสดงความเห็น