คอลัมน์ สกอร์บอร์ด โดย แมวดำ
ขณะที่ฟุตบอลโตโยต้า ไทยลีก 2020 กลับมาฟาดแข้งกันอีกครั้ง ซึ่งสโมสรที่ถูกวางเป็นตัวเต็งอย่าง การท่าเรือ เอฟซี และ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ต่างก็ได้รับการจับตามอง จากการเสริมทัพอย่างใหญ่หลวง
ทว่าเมื่อเอาเข้าจริง 2 นัดที่กลับมาฟาดแข้งหลังวิกฤติไวรัส โควิด -19 กลายเป็นว่า การท่าเรือ เอฟซี ต้องเจอกับวิบากกรรมทั้งเรื่องไฟฟ้าสนามแพท สเตเดี้ยม ดับ จนถูกปรับแพ้ โปลิศ เทโร เอฟซี 0-2
ส่วนนัดถัดมาก็เปิดบ้านแพ้ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด 0-1 จากประตูชัยของ เจนรบ สำเภาดี กองหน้าที่เป็นเหมือนส่วนเกินของ "สิงห์ท่าเรือ" ก็ยังมาร้อนแรงยิงประตูทีมเก่าได้อีก จากการได้รับโอกาสลงสนามเพียงแค่นัดแรกเท่านั้น ส่งผลให้เก้าอี้หัวหน้าผู้ฝึกสอนของ จเด็จ มีลาภ ต้องกระเด็นไป ปล่อยให้ สระราวุฒิ ตรีพันธ์ อดีตผู้ช่วยโค้ชของ โชคทวี พรหมรัตน์ มารับหน้าที่ดังกล่าวแทน
อย่างไรก็ตามต้องยอมรับว่าฟอร์มของ "กระต่ายแก้ว" บีจี ปทุม ยูไนเต็ด นั้นจัดว่าไม่ธรรมดาอย่างยิ่ง จากผลงานลงสนาม 6 นัด ชนะ 5 เสมอ 1 นัด และไม่พบกับความพ่ายแพ้เลย มี 16 คะแนน ขึ้นนำจ่าฝูงหลังบุกยัดเยียดความปราชัยนัดแรกให้ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด 2-0 คาถิ่น ทรู สเตเดี้ยม
โดยแนวรับอันแข็งแกร่งของทีมดังจากย่านคลอง 3 ได้รับคำชมเชยสูงสุด ประกอบด้วย วิคเตอร์ คาร์โดโซ่ วัย 30 ปี ปราการหลังชาวบราซิล, อันเดรส ตูเนซ วัย 33 ปี ปราการหลังชาวเวเนซูเอล่า และ อิร์ฟาน ฟานดี้ วัย 23 ปี ปราการหลังทีมชาติสิงคโปร์
สำหรับ "กระต่ายแก้ว" บีจี ปทุม ยูไนเต็ด นั้น แม้จะเป็นทีมน้องใหม่ที่เพิ่งเลื่อนชั้นสู่ไทยลีก ฤดูกาล 2020 แต่ก็แข็งแกร่งอย่างยิ่งด้วยตัวผู้เล่นชั้นดีมากมาย โดยก่อนหน้านี้เคยถูกมองว่าปัญหาแนวรับอาจเป็นจุดด้อยหากเทียบกับทีมลุ้นแชมป์รายอื่น
ทว่าการได้ตัว วิคเตอร์ คาร์โดโซ่ แบบฟรีๆ จาก พีทีที ระยอง ที่ปิดฉากสโมสรไปแล้ว รวมถึงการที่ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ยกเลิกสัญญากับ ตูเนซ ทำให้เจ้าตัวได้ย้ายทีมแบบไม่ต้องทุ่มหนัก ประสานกับ ฟานดี้ ก็ทำให้ "กระต่ายแก้ว" มีแนวรับที่แข็งแกร่งดุดัน ยากต่อการฝ่าด่านไปทำประตู
ซึ่งนับตั้งแต่กลับมาแข่งขันหลังเบรกไวรัส 3 นัด ยอดทีมดังจากย่านคลอง 3 ไม่เสียประตูแม้แต่ประตูเดียว และหากนับตั้งแต่เปิดฤดูกาล 2020 บีจี ปทุม ยูไนเต็ด เสียไปแค่ 1 ประตู ให้กับ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ในนัดเปิดสนามที่เอาชนะไป 2-1 เท่านั้น
ไม่เพียงความแข็งแกร่งของแนวรับ แต่หัวใจของ ตูเนซ ก็จัดว่าเข้มแข็งเอามากๆ ที่แม้อดีตปราการหลัง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จะเจอกับข่าวร้ายว่า คุณพ่อไปในคืนวันที่ 18 กันยายนที่ผ่านมา ทว่าก็ยังลงสนามในวันที่ 19 กันยายน ด้วยสภาพจิตใจอันแข็งแรง
นอกจากเซ็นเตอร์ฮาล์ฟที่แข็งแกร่ง ยังมีแบ็คซ้าย-ขวาอย่าง สหรัฐ ปองสุวรรณ และ สันติภาพ จันทร์หง่อม ที่คอยเติมเกมรุกสนับสนุน แผงมิดฟิลด์ที่อัดแน่นด้วยคุณภาพอย่าง ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์, สารัช อยู่เย็น, สุมัญญา ปุริสาย, เชาว์วัตน์ วีระชาติ, พีรพงศ์ พิชิตโชติรัตน์ รวมถึงการได้ มิซูรุ มารุโอกะ อดีตนักเตะดีกรีดังจาก โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ มาร่วมทีมอีก
ทว่า บีจี ก็ใช่ว่าจะไร้จุดอ่อน เมื่อมองจากผลงานการยิงประตูแล้ว ต้องยอมรับว่าเป็นรองทีมลุ้นแชมป์ทีมอื่นๆ และรวมถึงทีมอันดับรองลงมาด้วย ด้วยผลงาน 6 นัด 9 ประตู ในฤดูกาลนี้ จึงไม่น่าแปลกใจที่จะมีข่าวกำลังไล่ล่ากองหน้าระดับบิ๊กเนมถึง 2 ราย อย่าง ดิโอโก้ หลุยส์ ซานโต แห่ง ยะโฮร์ ยักษ์ใหญ่จากมาเลเซีย ซูเปอร์ลีก กับ ธีรศิลป์ แดงดา แห่ง ชิมิสุ เอสพัลส์ เจลีก ประเทศญี่ปุ่น
ซึ่งหากว่า กระต่ายแก้ว แห่ง ลีโอ สเตเดี้ยม ลากมาได้ทั้งคู่เหมือนข่าวที่ออกมาจริง อยากรู้เหมือนกันว่าใครจะหยุดพวกเขาได้?