นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เผย ช่องฟรีทีวี 3-4 ช่อง รอเสียบถ่าย "ไทยลีก 1" ต่อทรูวิชั่นส์ แต่อาจไม่ครบทุกคู่ พร้อมขยับโปรแกรมจบเร็วกว่าเดิมลดค่าใช้จ่ายสโมสร และเปิดทาง "ช้างศึก" เก็บตัวเตรียมคัดบอลโลกพ่วงซูซูกิ คัพ ยืนยัน VAR มีใช้ทุกสัปดาห์ แต่อาจมีปัญหาช่วงเตะพร้อมกันหลายคู่ ต้องพิจารณาอีกครั้ง แฟนบอลเข้าชมได้ไม่เกิน 4,000 คนต่อนัด
เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2563 ณ การกีฬาแห่งประเทศไทย "บิ๊กอ๊อด" พล.ต.อ.ดร.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เป็นประธานในการประชุมสโมสรฟุตบอลไทยลีก เพื่อทำความเข้าใจในข้อกำหนดของแนวทางจัดการแข่งขันที่จะคัมแบ็คมาฟาดแข้งกันในวันที่ 12 กันยายนนี้
หลังเสร็จสิ้นการประชุม "บิ๊กอ๊อด" ให้สัมภาษณ์ระบุว่าศึกฟุตบอลไทยลีก1 และไทยลีก2 จะมีโปรแกรมการแข่งขันตามกำหนดเดิม คือวันที่ 12 กันยายน 2563 แต่อาจมีการขยับวันปิดฤดูกาลให้เร็วขึ้นกว่าเดิมเพื่อสโมสรจะได้ลดภาระค่าใช้จ่ายลงไปด้วย จากเดิมมีกำหนดนัดสุดท้ายวันที่ 25 พฤษภาคม โดยไทยลีก1 จะเปลี่ยนเป็นจบวันที่ 3 พฤษภาคม 2564 และไทยลีก2 จบวันที่ 27 มีนาคม 2564
ขณะที่เรื่องของการถ่ายทอดสดหลังจาก "ทรูวิชั่นส์" หมดสัญญาลงในวันที่ 25 ตุลาคม 2563 ตอนนี้ได้เจรจาหาช่องฟรีทีวี 3-4 ช่อง ที่จะเข้ามาถ่ายทอดสดการแข่งขันต่อจากเจ้าเดิม รวมถึงแพลทฟอร์มในอินเตอร์เน็ต อย่างไรก็ตามต้องแจ้งไว้ตรงนี้ว่าการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์สำหรับไทยลีก1 อาจไม่ครบทุกคู่ เนื่องจากตารางการแข่งขันและตารางรายการของหลายๆช่อง ไม่สามารถเปลี่ยนได้ ขณะที่ไทยลีก2 ในฤดูกาลนี้ไม่มีการถ่ายทอดสด ส่วนช่องไหนจะเป็นผู้รับผิดชอบในการถ่ายทอดสดนั้นต้องรอทางช่องทีวีออกมาแถลงเอง นอกจากนี้อาจมีพิจารณาจัดการแข่งขันในวันจันทร์ "มันเดย์ไนท์" เพื่อรองรับการถ่ายทอดสดทางช่องโทรทัศน์อีกด้วย
ส่วนเรื่องของเทคโนโลยีวิดีโอช่วยการตัดสิน หรือ VAR "บิ๊กอ๊อด" ยืนยันว่าจะมีการใช้แน่นอนทุกนัด ยกเว้นวันที่มีเตะพร้อมกันหลายคู่อาจเป็นปัญหาเพราะมีข้อจำกัดเรื่องของอุปกรณ์ และบุคลากรที่ผ่านการอบรมอาจไม่เพียงพอ ซึ่งตรงนี้ต้องนำมาพิจารณาอย่างละเอียดกันอีกครั้งว่าจะเอาอย่างไร และมีการยืนยันว่าจะเปิดให้แฟนฟุตบอลเข้าชมเกมในสนามจำนวน 25 เปอร์เซนต์ของความจุสนาม แต่ไม่เกินนัดละ 4,000 คน
ขณะที่ "บิ๊กโจ" พาทิศ ศุภะพงษ์ เลขาธิการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เผยเพิ่มเติมว่า สำหรับโปรแกรมไทยลีกที่ขยับให้จบเร็วขึ้นนอกจากจะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายแก่สโมสรแล้ว ยังเป็นการช่วยให้ทีมชาติไทยได้มีช่วงเวลาได้เตรียมมตัวด้วย เพราะการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก รอบสอง โซนเอเชีย อาจมีการแข่งขันกันต่อในช่วงเดือน มีนาคม และมิถุนายน 2564 และอาจมีโปรแกรมเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ ที่เลื่อนมาจากช่วงสิ้นปี 2563 อีกด้วย คาดว่าจะแข่งขันในวันที่ 11 เมษายน ถึง 3 พฤษภาคม 2564 แต่ต้องรอการยืนยันอีกครั้ง
ทั้งนี้สำหรับโปรแกรมการแข่งขันไทยลีก2 ที่จะมีกำหนดปิดฤดูกาลในวันที่ 27 มีนาคม 2564 จะมีการเตะเพลย์ออฟเลื่อนชั้นสำหรับทีมอันดับ 3-6 ซึ่งจะฟาดแข้งกันในวันที่ 4-25 เมษายน 2564 ส่วนฟุตบอลช้าง เอฟเอ คัพ จะเริ่มแข่งขันรอบแรก 30 กันยายน 2563 และรอบชิงชนะเลิศในวันที่ 10 เมษายน 2564
